เจียงเฉิงเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็พลันเข้าใจในทันที ว่านี่คือเขาทำร้ายลูก แล้วทำให้พ่อโกรธจนออกอาละวาด
อีกทั้งหั่วเทียนทาวคนนี้ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร ซ้ำยังพาคนมาเยอะขนาดนี้อีกต่างหาก
“ใช่แล้ว มันนี่แหละ” หั่วกังมองเจียงเฉิงด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงอะไร ดูเหนื่อยล้าอ่อนแรง
เห็นได้ชัดว่าถูกเข็มของเจียงเฉิงทรมานจนเกือบน็อก
“หักขาหักแขนของไอ้หมอนี่ แล้วทำให้มันกลายเป็นขันทีซะ” หั่วเทียนทาวตวาดเสียงโมโห
ขณะที่ลูกน้องของหั่วเทียนทาวกำลังจะลงมือ สวี่ฉิงก็มาขวางอยู่หน้าเจียงเฉิง ตะโกนว่า “ลุงหั่ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาลงมือกับสามีของฉัน?”
หั่วเทียนทาวได้ยินคำพูดของสวี่ฉิงแล้วก็พลันแค่นยิ้มเสียงเย็น เอ่ยว่า “มีสิทธิ์อะไร? เธอรู้ไหมว่าไอ้หมอนี่ทำอะไรกับลูกฉัน?”
“มันใช้วิชามารของมันทำให้ลูกชายฉันต้องกลายเป็นขันทีไปตลอดชีวิต ฉันทำแบบนี้กับมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรหรือไง?”
ใช่แล้ว วันนี้ตอนที่ขากำลังจะไปทำงาน คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆจะได้รับสายขอความช่วยเหลือจากลูกชาย เมื่อเขาพาหมอไปถึง ก็พบว่าลูกชายสลบไปแล้ว อีกทั้งหลังจากที่ตรวจเสร็จ ก็พบว่าลูกชายตัวเองไม่สามารถเป็ลูกผู้ชายต่อไปได้อีก
หั่วเทียนทาวก็มีหั่วกังแค่ลูกชายเพียงคนเดียว ทำแบบนี้มันทำให้ตระกูลฮั่วของเขาสิ้นลูกหลานสืบสกุลเลยเชียวนะ เขาจะไม่โกรธได้ยังไงกัน
“แม้สามีฉันจะทำเกินไปหน่อยก็จริง แต่คุณไม่อยากรู้ต้นสายปลายเหตุเหรอ?” สวี่ฉิงถามเสียงเย็น
“สวี่ฉิง นางแพศยา จนถึงตอนนี้แล้วก็ยังจะเข้าข้างไอ้สวะนี่ แค่ก ๆ......” หั่วกังเห็นสวี่ฉิงพยายามปกป้องเจียงเฉิงขนาดนี้ก็พลันตวาดเสียงโมโหอย่างไม่พอใจทันที
เพราะใช้แรงมากเกินไป หั่วกังจึงอดไอไม่ได้ สีหน้าพลันแดงก่ำในทันที เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าเจียงเฉิงจะลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ เมื่อนึกถึงว่าจากนี้ไปจะไม่สามารถเป็นลูกผู้ชายได้อีกแล้ว เขาก็โกรธจัดถึงขีดสุด อยากจะถลกหนังของเจียงเฉิงให้สาสมใจ
“ฉันไว้ชีวิตนายก็ถือว่าฉันเมตตานายแล้ว ถ้านายยังกล้าพูดเหยียดหยามเมียฉันแม้แต่คำเดียว งั้นก็อย่าอยู่บนโลกนี้อีกเลย” สิ้นเสียงเจียงเฉิง แววตาเขาก็พลันฉายแววเย็นเยือก
หั่วกังเห็นแววตาที่น่ากลัวนั่นของเจียงเฉิง ในใจก็พลันรู้สึกหวาดกลัว
“เหอะๆ จองหองนัก อยู่ต่อหน้าฉันยังอยากจะทำร้ายลูกฉันต่ออีก เชื่อไหมว่าฉันจะเรียกทหารมายิงไอ้เด็กเหลือขออย่างแกเดี๋ยวนี้” หั่วเทียนทาวโกรธจนหัวเราะ พลันก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยว
หั่วเทียนทาวมีอิทธิพลในระดับหนึ่งที่เมืองหลวง รู้จักกับคนในกองทัพทหารอยู่บ้าง ดังนั้นที่นี่จึงมีคนส่วนน้อยมากที่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ หั่วกังเองก็อาศัยจุดนี้ขึ้นเป็นรองประธานของสมาคมแพทย์แผนจีนเมืองหลูหยาง
“ลุงหั่ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องมีเหตุมีผล ฉันมาประชุมที่เมืองหลวง ปรากฏว่าลูกชายคุณกลับวางยาฉัน อยากจะทำเรื่องมิดีมิร้ายกับฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะสามีฉันแล้วล่ะก็ ฉันก็คงถูกลูกชายคุณย่ำยีไปแล้ว เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะลูกชายคุณทำผิดก่อนไม่ใช่หรือไง?” สวี่ฉิงตำหนิเสียงขรึม
สวี่ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้หั่วเทียนทาวไม่รู้ว่าควรโต้กลับยังไง
หั่วเทียนทาวเองก็รู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นคนยังไง เพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่ต้องการก็ยอมทุ่มเททุกอย่าง ไม่เลือกวิธีการเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นครั้งนี้ก็ต้องเป็นเพราะไปทำอะไรชั่วๆกับคนอื่นแน่ ๆ ก็เลยทำให้คนอื่นลงไม้ลงมือ เรื่องนี้ก็ผิดที่ลูกชายเขาจริงๆ
สวี่ฉิงได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้น ในใจกลับรู้สึกสะอึกจนอยากร้องไห้ เพราะแต่ก่อนเธอก็ทำให้เจียงเฉิงต้องถูกกลั่นแกล้งมามากมาย เจียงเฉิงช่วยเธอมาหลายต่อหลายครั้ง เธอเองก็อยากจะทำอะไรเพื่อเจียงเฉิงบ้าง ทว่ากลับไม่มีวิธีอะไรเลย เพียงแต่เมื่อเธอมองเห็นแววตาที่บริสุทธิ์ของเจียงเฉิง กลับยังคงรู้สึกปลอดภัยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ไอ้เด็กเหลือขอ จะตายแล้วยังพูดจาจองหองอีก” หั่วเทียนทาวไม่เห็นเจียงเฉิงอยู่ในสายตา ทว่าเมื่อเขาเห็นเจียงเฉิงใจเย็นชนาดนั้นกลับยิ่งรู้สึกโมโหกว่าเก่า
“พ่อ ไม่ต้องพล่ามกับมันแล้ว มันก็แค่ลูกเขยไร้ประโยชน์ที่สวี่ฉิงขอแต่งเข้าบ้านก็เท่านั้น” หั่วกังมองเจียงเฉิงอย่างโกรธเกรี้ยวและตวาดเสียงเอ่ย
หั่วเทียนทาวย่อมรู้อยู่แล้วว่าเจียงเฉิงไม่มีเส้นสายอะไร เมืองหลวงคือถิ่นของเขา ดังนั้นเขาจึงกล้าเหิมเกริมกับเจียงเฉิงขนาดนี้
“คนแซ่หั่ว ถ้าตอนนี้คุณยอมรับผิดและขอโทษเมียผม งั้นฉันก็จะปล่อยคุณไป เป็นไง?” เจียงเฉิงปกป้องสวี่ฉิงไว้ด้านหลัง แล้วถามหั่วเทียนทาวเสียงเรียบ
หั่วเทียนทาวอึ้งชะงักกับคำพูดของเจียงเฉิงทันที นึกว่าตัวเองหูฝาดไป สถานการณ์ก็เป็นแบบนี้แล้ว อีกฝ่ายยังจะเรียกร้องให้เขาขอโทษอีกงั้นเหรอ?
“แกตกใจจนสมองเสื่อมไปแล้วหรือเปล่า? ตั้งป่านนี้แล้ว ยังจะบอกให้ฉันขอโทษอีกงั้นเหรอ?” หั่วเทียนทาวตะคอกใส่เจียงเฉิงอย่างโมโห
“ไปกันหมดนี่ซะ ใครทำมันพิการได้ก่อน ฉันจะมีรางวัลให้!” หั่วเทียนทาวตวาดเสียงโกรธเกรี้ยว
สิ้นเสียง คนที่หั่วเทียนทาวพามาก็พุ่งไปหาเจียงเฉิงทันที สวี่ฉิงเองก็กังวลจนจับเสื้อของเจียงเฉิงไว้แน่น
ทว่าไม่รอให้เจียงเฉิงลงมือ จู่ ๆรถทหารคันหนึ่งก็ขับมาขวางอยู่หน้าเจียงเฉิงทีเดียว ก่อนจะมีผู้ชายสวมชุดทหารคนหนึ่งเดินลงจากรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง