เมื่อเห็นว่าสายตาของเจียงเฉิงจับจ้องอยู่ที่ก้นของเธอ เจียงจื่อหนิงก็หน้าแดงขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเธอยังจำสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้ ว่าถ้าเจียงเฉิงมีเสวียนเซินร้อยปีจริงๆ เธอจะให้เจียงเฉิงหยิกก้น
“นายจะทำอะไร ยังคิดจะหยิกก้นฉันอยู่งั้นเหรอ” เจียงจื่อหนิงรีบสบตาเจียงเฉิงเพราะกลัวว่าเจียงเฉิงจะหยิกก้นเธอจริงๆ
“ทำไมล่ะ หรือว่าคุณคิดจะเปลี่ยนใจ หรือว่าก้นคุณเป็นก้นเสือ แตะต้องไม่ได้”
“นายน่ะสิก้นเสือ” เจียงจื่อหนิงเอ่ยหน้ามุ่ย เธอไม่ได้คิดจะทำตามสัญญามาตั้งแต่ต้น
เจียงเฉิงมองเจียงจื่อหนิงและถามยิ้มๆ “ในเมื่อตกลงกันแล้วก็ต้องทำตามที่ตกลงไว้ เร็วเข้า ยื่นก้นมาให้ผมหยิกได้แล้ว”
“ฝันไปเถอะย่ะ” เจียงจื่อหนิงส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา จากนั้นจึงกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ปู่ของฉันป่วยหนักมาก พี่ชายฉันไปหานายแต่นายไม่ช่วย คนที่เห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วยแบบนี้ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีนายด้วยซ้ำ แต่นายยังคิดจะให้ฉันตกลงกับนายน่ะนะ”
เจียงจื่อหนิงก็ฉลาดเป็นกรด เธอรู้ว่าเธอเป็นฝ่ายผิดที่ไม่ยอมให้เจียงเฉิงหยิกก้นของเธอ ดังนั้นเธอจึงชวนเปลี่ยนเรื่องทันที
“เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ล้วนมีเหตุปัจจัย และเรื่องนี้ก็เป็นคนละเรื่องกัน” เจียงเฉิงเอ่ยเรียบๆ
“ใครบอกว่าคนละเรื่องกัน นายเกือบจะทำให้ปู่ของฉันตาย ฉันก็เลยจะช่วยสั่งสอนนายแทนคุณปู่ของฉันไง” เจียงจื่อหนิงว่าพลางเงื้อมือทำท่าจะหาเรื่อง
“จื่อหนิง อย่าหยาบคาย” เจียงซานที่อยู่ข้างๆ ตะโกนปราม ถึงอย่างไรเจียงเฉิงก็เพิ่งช่วยชีวิตปู่ของเขาไว้ ยัยเด็กน้อยนี่ยังจะมาก่อเรื่องที่นี่อีก
แต่ตอนที่เจียงซานพูดแบบนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว เจียงจื่อหนิงถลันเข้าไปหาเจียงเฉิงอย่างรวดเร็ว หลบวาบไปอยู่ข้างๆ เจียงเฉิง จากนั้นจึงตวัดฝ่ามือ ตั้งใจจะตบลงไปบนใบหน้าของเขา
แต่แม้เจียงจื่อหนิงจะเร็วแค่ไหน ทว่าเจียงเฉิงก็เร็วกว่า เขาคว้าข้อมือของเธอและดึงตัวเข้ามาหา จากนั้นจึงพลิกข้อมือและกดตัวเจียงจื่อหนิงลงบนโต๊ะ
ตอนแรกเจียงซานตั้งใจจะหยุดน้องสาวของเขาไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวาย แต่ไม่คิดว่าเจียงเฉิงจะปราบน้องสาวของเขาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นเขาจึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่
ความประหลาดใจฉายวาบในดวงตาของเจียงซาน เพราะเขารู้ดีว่าน้องสาวของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนอยู่ในกองทัพ แม้แต่ครูฝึกก็ยังเอาชนะเธอไม่ได้ แต่เธอกลับถูกเจียงเฉิงปราบได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงวูบเดียว เห็นแบบนี้แล้ว เจียงเฉิงจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าแน่นอน
“ปล่อยฉันนะ ไอ้สารเลว รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” เจียงจื่อหนิงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวพลางดิ้นรนไปด้วย
แต่หลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่งเธอก็หยุดดิ้น ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนคว่ำอยู่บนโต๊ะโดยที่ก้นกระดกขึ้นมา และเจียงเฉิงก็ยืนอยู่ข้างหลังเธอพอดี ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ถ้าดิ้นรนและบิดตัวไปมา ก้นของเธออาจจะกระทบกับบางส่วนของร่างกายเจียงเฉิงที่ไม่ควรไปสัมผัสได้
ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเหมือนว่าเธอกำลังหมอบอยู่บนโต๊ะ ร่วมมือกับเจียงเฉิงทำเรื่องที่น่าละอายอย่างไรอย่างนั้น แค่คิดก็ขายหน้าจะตายแล้ว
“สาวน้อย ในเมื่อพนันกันแล้วก็ต้องทำตามข้อตกลง รู้ไหม” เจียงเฉิงว่าพลางยื่นมือมาบีบเอวของเจียงจื่อหนิงหนึ่งทีและไม่ได้หยิกก้นของเธอทันที ถึงอย่างไรสาวน้อยคนนี้ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว การหยิกก้นมันจะดูคลุมเครือเกินไป
หลังจากบีบเอวไปแบบนั้น เจียงเฉิงก็ปล่อยตัวเจียงจื่อหนิงทันที
อ๊ะ...
เจียงจื่อหนิงรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกบีบเอว เธอรีบลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วใช้มือข้างหนึ่งลูบเอวของตัวเอง พร้อมกันนั้นก็มองไปที่เจียงเฉิงอย่างฉุนเฉียว
“อะไรเหรอ ผมไม่ได้หยิกก้นคุณซะหน่อย แค่บีบเอวคุณไปทีเดียวก็เท่านั้น” เจียงเฉิงเอ่ยยิ้มๆ แต่ความรู้สึกตอนที่บีบเอวเมื่อครู่นี้มันดีมากจริงๆ ถ้าได้บีบก้นจริงๆ น่าจะรู้สึกดีกว่านี้ไหมนะ
“ฮ่าๆๆ...”
พอเจียงซานที่อยู่ข้างๆ เห็นน้องสาวของตัวเองเสียหน้าก็รู้สึกขบขันขึ้นมา เด็กคนนี้มีนิสัยดื้อดึงมาตั้งแต่เด็กและไม่เคยมีใครจัดการได้ แต่คราวนี้เธอถูกเจียงเฉิงจัดการได้พอดี
“พี่ก็หัวเราะอยู่ได้ คนอื่นรังแกน้องสาวพี่อยู่นะ จะไม่ช่วยเลยหรือไง พี่นี่เป็นพี่ยังไงกันแน่” เจียงจื่อหนิงลูบเอวพลางตะโกนใส่เจียงซานอย่างไม่พอใจ
“เป็นเธอเองที่ไม่มีเหตุผล พี่เองก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้” เจียงซานเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเจียงจื่อหนิงเห็นว่าพี่ชายของเธอช่วยอะไรเธอไม่ได้ ดวงตาคู่งามของเธอจึงหันไปมองทางเจียงเฉิงอย่างไม่พอใจ จากนั้นจึงตวาดไปว่า “ไปตายซะเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง