ขณะที่มือของเจียงเฉิงกำลังจะสัมผัสหน้าอกของฮั่วหลิงหลง จู่ๆ แสงสะท้อนอันเย็นเยือกก็พุ่งตรงมาทางเขา
เจียงเฉิงรู้สึกได้ถึงจิตสังหารและรีบหันกลับไปใช้สองนิ้วคีบเอาไว้ สิ่งที่คีบได้คือมีดหนึ่งเล่ม ถ้าเขาตอบสนองไม่ทันเขาอาจจะถูกแทงทะลุไปแล้วจริงๆ
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ม่านที่อยู่ข้างเตียงก็เปิดออก ทันใดนั้นผู้หญิงที่อยู่ในชุดนอนคนหนึ่งก็ถลันเข้ามาทางเจียงเฉิง ขาเรียวงามที่อยู่ใต้กระโปรงชุดนอนยกขึ้นสูงและเตะไปที่หัวของเจียงเฉิงอย่างรวดเร็วหาใดเปรียบ
พลังของขาข้างนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามีแต่คนที่รู้ศิลปะการต่อสู้เท่านั้นที่จะมีความสามารถในการใช้ขาแบบนี้ หากถูกเตะขึ้นมาจริงๆ สมองอาจจะกระทบกระเทือนเลยก็ได้
แต่ถึงแม้ลูกเตะนี้จะดูมุทะลุดุดัน ทว่าเจียงเฉิงก็ยื่นมือออกไปคว้าข้อเท้าของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ได้อย่างมั่นคง
“เซี่ยยี่จิง แม้ว่าคราวก่อนผมเกือบจะเปลื้องผ้าคุณ แต่คราวนี้คุณไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรุก เปิดเผยใต้กระโปรงให้ผมดูแบบนี้ก็ได้” เจียงเฉิงเอ่ยกับเซี่ยยี่จิงด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ใช่แล้ว ผู้หญิงที่โจมตีเจียงเฉิงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยยี่จิงที่ฮั่วหลิงหลงพาเขาไปแต่งหน้าเมื่อครั้งก่อน ตอนนั้นเจียงเฉิงรู้สึกว่าเซี่ยยี่จิงมีปัญหาบางอย่าง เพียงแต่ไม่ได้ถามถึงสาเหตุ และคราวนี้เธอก็ลงมือกับเขาอีกแล้ว
สองสามวันมานี้เซี่ยยี่จิงมาอาศัยอยู่กับฮั่วหลิงหลง เดิมทีวันนี้เธอหลับไปแล้ว แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกุญแจประตูไขเข้ามา ทว่าเสียงฝีเท้าที่เธอได้ยินฟังดูไม่เหมือนเสียงฝีเท้าของฮั่วหลิงหลง
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เธอเห็นเจียงเฉิงประคองฮั่วหลิงหลงที่เมามายเดินเข้ามา เธอตั้งใจจะสังเกตดูก่อนว่าเจียงเฉิงคิดจะทำอะไรกับฮั่วหลิงหลงกันแน่ ดังนั้นเธอจึงกลั้นหายใจและซ่อนตัวอยู่หลังม่าน
ตอนแรกเซี่ยยี่จิงเห็นเจียงเฉิงดูแลฮั่วหลิงหลงเป็นอย่างดีก็รู้สึกโล่งใจ แต่คิดไม่ถึงว่าต่อมาเจียงเฉิงจะคิดถอดเสื้อผ้าของฮั่วหลิงหลง ดังนั้นเธอจึงยอมไม่ได้
ช่วงที่กำลังรีบร้อน เซี่ยยี่จิงลืมไปสนิทว่าตัวเองสวมเพียงแค่ชุดนอน ดังนั้นการถูกเจียงเฉิงจับขาไว้แบบนี้จึงกลายเป็นว่าเธอเผยเนื้อหนังให้เขาเห็นจริงๆ
“ปล่อยมือนะ!"
เซี่ยยี่จิงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและรีบเอื้อมมือมาปิดใต้ชายกระโปรงชุดนอนทันที พร้อมกันนั้นก็พยายามดิ้นรน แต่ดิ้นอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเจียงเฉิงได้
เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้ เซี่ยยี่จิงจึงทำได้เพียงยันฝ่ามือข้างหนึ่งไว้บนพื้น จากนั้นจึงใช้เท้าอีกข้างเตะไปทางเจียงเฉิง แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจะถูกเจียงเฉิงจับเท้าอีกข้างเอาไว้ด้วย พอถูกเจียงเฉิงจับเท้าไว้ทั้งสองข้างแบบนี้ เท้าของเซี่ยยี่จิงจึงลอยไม่ติดพื้น
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ”
ตอนนี้เซี่ยยี่จิงรู้สึกอับอายมากจริงๆ เธอถูกคนจับขาทั้งสองข้างยกขึ้นมาแบบนี้ ถ้าเธอไม่ใช้สองมือป้องชุดนอนเอาไว้ ชุดนอนคงจะไหลเปิดลงมาหมดแน่
“เฮอะ นายน่ะรีบออกไปเลย” เซี่ยยี่จิงเองก็คิดได้แล้วว่าเจียงเฉิงคงไม่ได้คิดจะลวนลามฮั่วหลิงหลง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พาเธอกลับมา
“ผมไปก็ได้ แต่ผมมีคำถามหนึ่งข้อที่อยากจะถามคุณ” เจียงเฉิงเอ่ยพลางมองเซี่ยยี่จิง
เซี่ยยี่จิงเพิ่งจะถูกเจียงเฉิงเอาเปรียบ ดังนั้นเธอจึงอารมณ์ไม่ดีสุดขีดและถามด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า “จะถามอะไรก็ว่ามา”
“ผมไม่รู้ว่าที่คุณคอยอยู่ข้างกายฮั่วหลิงหลงมาตลอดน่ะ คุณมีจุดประสงค์อะไร แต่หวังว่าคุณจะไม่มีเจตนาร้ายใดๆ กับเธอนะ” เจียงเฉิงเตือนเซี่ยยี่จิงเสียงเย็น
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เหมือนนาย ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ กับเธอ” เซี่ยยี่จิงว่าแล้วจึงหันไปดูฮั่วหลิงหลง
เจียงเฉิงได้ยินเซี่ยยี่จิงบอกดังนั้น เขาจึงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะออกไปจากบ้านของฮั่วหลิงหลง
เซี่ยยี่จิงมองฮั่วหลิงหลงที่เมามายจนไม่เป็นผู้เป็นคนและถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา จากนั้นจึงเริ่มช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฮั่วหลิงหลง
เมื่อเจียงเฉิงกลับไปถึงบ้านเขาก็พบว่าสวี่ฉิงกับพ่อแม่ของเขาล้วนยังไม่นอน แต่ทุกคนกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง