หลังจากที่เหลียงหัวพูดจบ หมอทุกคนที่อยู่ที่นั้นต่างพากันก็ตกตะลึง เป็นเรื่องที่พวกเขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่ายาที่ดีขนาดนี้จะผลิตขึ้นโดยแพทย์แผนจีนคนก่อนที่ชื่อว่าเจียงเฉิง
"เหลียงหัว คุณบอกว่ายานี้คือยาจีน ที่ทำผลิตขึ้นโดยแพทย์แผนจีนคนนั้นใช่ไหม?" คุณเจนล่ามองเหลียงหัวและถามด้วยสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ
"ใช่ครับ ถูกต้อง ยาที่คุณสตีเว่นทานในช่วงสองวันที่ผ่านมา เป็นยาจีนที่ทำขึ้นโดยคุณหมอเจียงเฉิงครับ" เหลียงหัวพูดอย่างจริงจัง
เมื่อคุณ เจนล่าได้ยินคำพูดของเหลียงหัว เธอจึงหยิบขวดยาที่ก่อนหน้านี้ใช้ทานขึ้นมาทันที และเทยาที่อยู่ภายในออกมา หลังจากนั้นก็บิดออกเพื่อดูยาข้างใน ปรากฎว่าตัวยามีกลิ่นแรงของยาจีนโบราณ
"นี่...เหลียงหัว ทำไมใช้ยาจีนกับคุณสตีเว่นละ?" เจี่ยคุนมองไปที่เหลียงหัวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
"ยาจีนแล้วทำไมเหรอครับ ถ้าเกิดไม่ใช่ยาพวกนี้ล่ะก็ คุณสตีเว่นจะหายดีเป็นปกติแบบนี้ไหมล่ะครับ?" เหลียงหัวมองไปที่เจี่ยคุนแล้วพูด
เจี่ยคุนชะงักพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะไม่ว่าจะเป็นยาจีนหรือไม่ สุดท้ายตอนนี้สตีเว่นก็หายดีแล้ว
"คุณเจนล่าตอนนี้คุณน่าจะเชื่อได้แล้วว่าผลการรักษาของวงการแพทย์แผนจีนไม่ใช่ไสยศาสตร์อย่างที่คุณพูด เพราะคุณก็ได้เห็นการฟื้นตัวของพ่อคุณแล้ว" เหลียงหัวพูดอย่างจริงจัง
แม้ว่าเจนล่าไม่อยากยอมรับความเก่งกาจของศาสตร์แพทย์แผนจีนก็ตาม แต่ตอนนี้เธอได้เห็นผลของยาจีนแล้วจริงๆ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นกับตาหรือผลการตรวจ ทุกอย่างก็พิสูจน์ได้ว่ายาจีนไม่ใช่ไสยศาสตร์
เดิมทีชีวิตพ่อฉันเหมือนอยู่บนเส้นด้าย ซึ้งตอนนี้หายดีด้วยผลการรักษาของยาจีน อาการป่วยก็ฟื้นตัวขึ้นมาก ถ้าเกิดตอนนี้ไปเรียกแพทย์แผนจีนคนนนั้นมาล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจรักษาพ่อฉันให้หายดีได้
"ได้ งั้นฉันจะไปเชิญเจียงเฉิงมาด้วยตัวเอง" ในที่สุดคุณเจนล่าก็ตัดสินใจแล้ว
เมื่อเหลียงหัวได้ยินประโยคนี้ เดิมใจที่อยู่ตาตุมก็โล่งอกขึ้นมา ครั้งนี้เจียงเฉิงก็ได้ช่วงชีวิตเขาไว้ด้วย ถ้าเกิดให้เขาไปผ่าตัดจริงๆคงทำคุณสตีเว่นตายแน่ๆ
เจียงเฉิงยังคงอยู่ช่วยที่คลินิกของแม่หลินหนุนเอ๋อ ตราบใดที่ยังมีเจียงเฉิงกันหลินหยุนเอ๋ออยู่หยางเหมยก็ไม่ต้องมัวแต่ยุ่งอีกแล้ว
"คุณแม่คะ แม่ไม่ต้องคอยอยู่ตรงนี้แล้วก็ได้ เดี๋ยวทางนี้พวกเราจัดการเองค่ะ" หลินหยุนเอ๋อมองไปที่หยางเหมยแล้วพูด
"โถ่ ถ้าเกิดเจียงเฉิงยังไม่แต่งงานล่ะก็ พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันก็คงจะดีสินะ" หยางเหมยมองไปที่เจียงเฉิงและพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเสียดาย
เธอดูออกว่า เจียงเฉิงเป็นคนดี อีกอย่างทักษะทางการแพทย์ของเขาก็ดีมากเช่นเดียวกัน และหน้าตาของเขาหล่อเหลาเอาการอีกด้วย ดังนั้นจึงคิดว่าเขาคู่ควรและเหมาะสมกับลูกสาวของเขาเป็นอย่างยิ่ง
“ใช่ ถ้าเขายังไม่แต่งงานล่ะก็ หนูก็อาจจะมีสิทธิ์แข่งได้บ้าง” หลินหยุนเอ๋อพูดด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยังมั่นใจในความสวยของเธอมาก
"คลินิกอะไรของผมกันล่ะ ผมแค่มาช่วยเขาเฉยๆ" เจียงเฉิงพูดกับเซียวเย่หรันพรางหัวเราะไปด้วย
หลินหยุนเอ๋อที่ตอนแรกกำลังยุ่งอยู่นั้น ดันใดที่เธอเห็นสาวสวยในชุดกี่เพ้ามาหาเจียงเฉิง และทั้งสองก็พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
"ลูกจ๊ะ ดูเหมือนว่าเสี่ยวเจียงนี่ก็ฮ๊อตเหมือนกันนะ" หยางเหมยที่อ่านใจลูกตัวเองออกและพูดติดตลกด้วยรอยยิ้ม
"ทำไมล่ะ? หนูใส่กี่เพ้ายังไงก็สวยไม่แพ้เขาหรอกนะคะ" หลินหยุนเอ๋อพูดไปด้วยพรางเก็บของไปด้วย
เซียวเย่หรันเปิดแฟ้มเพื่อหยิบสัญญาออกมา และพูดว่า "ฉันจดทะเบียนบริษัทใหม่แล้ว และสัญญาพวกนี้ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ พอพวกเรื่องเอกสารและขั้นตอนต่างๆของโรงงานดำเนินเรื่องเสร็จ เราก็สารถมาผลิตตัวสินค้าได้แล้ว ยาชาโคลที่คุณทำขึ้นมาใช้ดีขนาดนั้น แน่นอนว่าพอถึงตอนนั้นต้องขายดีเทน้ำเทท่าแน่"
เจียงเฉิงอ่านสัญญาคร่าวๆ แล้วพูดว่า "ใช่หรอ? ตอนนั้นเราคุยกันว่า 50-50 ทำไมกลายเป็น 70-30 ล่ะ? ทำไมฉันถึงได้เปอร์เซ็นเยอะกว่า?"
"เพราะว่าตัวพัฒนาตัวสินค้านี้ขึ้นมาเอง และครั้งที่แล้วคุณก็ช่วยฉันไว้ขนาดนั้น ตอนฉันกับสามีเก่าหย่ากันเขาแถบไม่กล้าขอสมบัติหรือทรัพย์สินอะไรเลย ฉันต้องขอบคุณคุณอย่างมากเลยล่ะตอนนี้ฉันเป็นอิสระแล้ว" เซียวเย่หรันพูดกับเจียงเฉิงพร้อมกับยิ้มและจับผมของตัวเองไปพรางๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของเซียวเย่หรัน เจียงเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เมื่อเขาเห็นชื่อของตัวผลิตภัณฑ์ เขาก็พูดอย่างอึดอัดใจว่า "เจียงเย่ยูนิฝ่าง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง