ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 39

เมื่อได้ยินคำพูดของฟางหลันหลัน ใบหน้าของเจียงเฉิงจึงเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน ที่เขาถามว่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง นั่นเขาถามถึงว่าร่างกายของฟางหลันหลันฟื้นตัวเป็นอย่างไรแล้ว แต่เด็กสาวคนนี้กลับเข้าใจผิดซะอย่างนั้น

เจียงเฉิงยิ้มแหยๆ และบอกว่า “นั่นเป็นเพราะผมต้องผ่าตัดให้คุณ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือก”

“ฉันไม่สน ถึงยังไงนายก็มองเห็นเรือนร่างของฉันหมดแล้ว นายต้องรับผิดชอบ!” ฟางหลันหลันกระโดดลงจากเตียงและเท้าสะเอวมองเจียงเฉิง

เจียงเฉิงเห็นท่าทางของฟางหลันหลันและนึกเหนื่อยหน่ายอยู่ในใจ จากนั้นจึงเอ่ยว่า “งั้นก็ได้ แล้วคุณจะให้ผมรับผิดชอบยังไง”

ฟางหลันหลันกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันจะให้นายมาเป็นแฟนของฉัน ต่อไปต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวัน”

“เป็นแฟนของคุณ?” เจียงเฉิงทวนอย่างประหลาดใจ

“แน่สิ นายเห็นร่างกายของฉันหมดแล้ว ไม่ใช่ว่ามีแต่แฟนเหรอที่จะมองร่างกายของผู้หญิงได้” ฟางหลันหลันเอ่ยพลางจ้องมองเจียงเฉิง

เจียงเฉิงรู้สึกขบขันกับคำพูดของฟางหลันหลัน เขาบอกว่า “ถ้าเป็นแบบที่คุณพูด ผมต้องผ่าตัดให้ผู้หญิงหลายๆ คน ต้องเห็นร่างกายของพวกเธอ แบบนี้ผมก็ต้องแต่งงานกับคนหลายคนเลยละสิ”

“อย่าหาเรื่อง คุณยังเด็กยังเล็ก ดูแลร่างกายให้ดีก่อนเถอะ” เจียงเฉิงบอกพลางมองฟางหลันหลัน

“ไร้สาระ! ฉันเล็กที่ไหนกัน!”

ฟางหลันหลันว่าแล้วยังยกอกให้ผายออก หน้าอกที่อวบอิ่มแต่เดิมตอนนี้ยิ่งเผยออกมาให้เห็นชัดเจนขึ้น

ตอนนี้เองที่เจียงเฉิงสังเกตเห็นว่าเด็กคนนี้ไม่เล็กแล้วจริงๆ ขนาดของเธอใหญ่กว่าของสวี่ฉิงด้วยซ้ำ

เจียงเฉิงมองฟางหลันหลันและบอกว่า “ผมหมายถึงอายุของคุณ ดูท่าทางของคุณยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยไม่ใช่เหรอ”

ฟางหลันหลันเม้มปากและเอ่ยอย่างโกรธๆ ว่า “ใครบอกว่าฉันยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉันเพิ่งอายุครบสิบแปดปีเต็มพอดี นายอย่ามาหาทางเปลี่ยนเรื่อง ถ้านายไม่มาเป็นแฟนของฉัน ฉันจะบอกให้พ่อหาคนมาจกตานายให้บอดไปเลย ใครสั่งให้นายมามองเรือนร่างของฉัน”

เมื่อเห็นว่าฟางหลันหลันโวยวายอย่างไร้เหตุผล เจียงเฉิงก็ปวดหัวตุบๆ ดูท่าเด็กคนนี้จะรับมือไม่ได้ง่ายๆ ไม่แปลกใจเลยที่หัวหน้าแผนกเฉินจะรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว

“แต่ผมแต่งงานแล้ว” เจียงเฉิงบอก

ฟางหลันหลันได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างคับข้องใจ เมื่อเห็นฟางหลันหลันร้องไห้ เจียงเฉิงก็ปวดตุบ คุณหนูใหญ่คนนี้เอาใจยากขนาดนี้เลยหรือ เอะอะอะไรก็ร้องไห้อีกแล้ว

เจียงเฉิงรีบก้าวเข้าไปพูดปลอบว่า “คุณอย่าร้องสิ แบบนี้จะยิ่งไม่ดีกับบาดแผล ตอนนั้นผมแค่ผ่าตัดให้คุณ อะไรอื่นผมไม่เห็นทั้งนั้น”

“เฮอะ น่าเชื่อกับผีละ” ฟางหลันหลันเอ่ยไปร้องไห้ไป

เจียงเฉิงคิดว่านั่นก็ถูก ตอนนั้นหน้าอกของฟางหลันหลันเต็มไปด้วยเข็มเงินที่เขาปัก ดังนั้นเขาจะไม่เห็นอะไรเลยได้อย่างไร

เมื่อเห็นเจียงเฉิงปฏิเสธอีกครั้ง ฟางหลันหลันจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า “เอาอย่างนี้ นายทำงานที่โรงพยาบาลนี่ก็ได้ แต่นายจะต้องทำงานพาร์ทไทม์เป็นบอดี้การ์ดให้ฉันด้วย”

เมื่อเห็นว่าเจียงเฉิงจะพูดอะไรต่อ ฟางหลันหลันจึงพูดขึ้นมาอีกว่า “นายไม่ต้องห่วงน่ะ มีครอบครัวของฉันรับประกันให้ แม้ว่านายจะไม่ได้เข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรนาย”

เมื่อเห็นฟางหลันหลันพูดมาถึงขนาดนี้ เจียงเฉิงก็ไม่มีทางปฏิเสธ เขาได้แต่บอกว่า “ก็ได้ ผมยอมคุณก็ได้”

“ดี งั้นเรามาเกี่ยวก้อยกัน!” ฟางหลันหลันยื่นนิ้วก้อยมาให้เจียงเฉิงอย่างดีใจ

เจียงเฉิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เด็กก็คือเด็ก จากนั้นเจียงเฉิงจึงยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวก้อยกับฟางหลันหลัน

“เอาละ คุณหนูขอประกาศอย่างเป็นทางการ ตอนนี้นายเป็นบอดี้การ์ดของฉันแล้ว อีกเดี๋ยวนายต้องตามฉันออกไปเล่นสนุกนะ” ฟางหลันหลันเอ่ยอย่างมีความสุข

“ไปเล่นสนุก?” เจียงเฉิงเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ไม่ได้ ร่างกายของคุณยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่”

ฟางหลันหลันกลอกตาใส่เจียงเฉิงและบอกว่า “โถ่เอ๊ย จะกลัวอะไร มีหมอที่เก่งกาจอย่างนายอยู่ด้วย จะมีปัญหาอะไรได้ นายออกไปก่อนเถอะ ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเราค่อยออกไปเล่นกัน”

เจียงเฉิงยังอยากจะพูดต่อ แต่ฟางหลันหลันไม่ให้โอกาสเขาพูดและผลักเขาออกไปจากห้อง ดังนั้นเจียงเฉิงจึงต้องคอยอยู่ที่หน้าประตูอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากปิดประตู ฟางหลันหลันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรศัพท์หาพ่อของเธอทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง