“ว่าไงลูกสาวที่รัก เรื่องที่หารือเป็นยังไงบ้าง หมอเทวดาเจียงตอบตกลงเป็นบอดี้การ์ดลูกแล้วใช่ไหม” ฟางเจี้ยนกั๋วที่อยู่ห้องทำงานถามพลางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างค่อนข้างตึงเครียด
“ตอบตกลงอยู่แล้วสิคะ เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว หนูขอให้เขามาเป็นบอดี้การ์ดได้ แบบนี้พ่อห้ามไม่ให้หนูออกไปเล่นไม่ได้แล้วนะ” ฟางหลันหลันกล่าว
ใบหน้าของฟางเจี้ยนกั๋วฉายวาบไปด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยิน เขาถามว่า “จริงหรือ ลูกทำได้ยังไงน่ะ”
“พ่อไม่ต้องสนหรอกค่ะว่าหนูทำได้ยังไง ยังไงพ่อก็สัญญากับหนูแล้ว ห้ามกลับคำเด็ดขาด!” ฟางหลันหลันเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
ไม่แปลกที่ฟางเจี้ยนกั๋วจะประหลาดใจ เพราะจากที่เขาเห็น เจียงเฉิงมีทักษะทางการแพทย์เหนือชั้นยิ่งกว่าปรมาจารย์เชวี่ย คนแบบนี้จะยอมลดตัวและสัญญาว่าจะเป็นบอดี้การ์ดให้คนอื่นได้อย่างไร
อันที่จริงหลังจากฟางหลันหลันฟื้นขึ้นมา ฟางเจี้ยนกั๋วก็ติเตียนเธออย่างเข้มงวดเฉียบขาด บอกว่าต่อไปจะห้ามไม่ให้ฟางหลันหลันออกไปก่อเรื่องวุ่นวายอีก แต่ฟางเจี้ยนกั๋วก็ไม่อาจทำอะไรฟางหลันหลันได้ ดังนั้นจึงยอมถอยออกมาหนึ่งก้าว บอกว่าถ้าฟางหลันหลันขอให้คนที่ช่วยชีวิตเธอมาเป็นบอดี้การ์ดให้เธอได้ เขาจะไม่ห้ามหากเธอจะออกไปสนุกข้างนอก
ตอนแรกฟางเจี้ยนกั๋วคิดว่าฟางหลันหลันคงไม่มีทางขอให้เจียงเฉิงมาเป็นบอดี้การ์ดของเธอได้แน่ แบบนี้ลูกสาวของเขาก็จะออกไปก่อเรื่องที่ไหนไม่ได้ และถ้าฟางหลันหลันขอให้เจียงเฉิงมาเป็นบอดี้การ์ดของเธอได้จริงๆ เช่นนั้นเธอก็จะมีเจียงเฉิงคอยปกป้องคุ้มครอง และลูกสาวของเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย
นอกจากนั้นวิธีนี้จะยังทำให้ลูกสาวของเขาติดต่อคบหากับหมอเทวดาอย่างเจียงเฉิงได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งนี่นับเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นไปในทางไหนก็มีประโยชน์ทั้งนั้น
เพียงแต่ฟางเจี้ยนกั๋วคิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าฟางหลันหลันจะทำให้เจียงเฉิงตกลงยอมเป็นบอดี้การ์ดได้จริงๆ
“ตกลง พ่อของลูกพูดคำไหนคำนั้นเสมอ ตราบใดที่หมอเทวดาเจียงอยู่ข้างๆ ลูก ลูกอยากจะเล่นสนุกอะไรก็ได้ทั้งนั้น” ฟางเจี้ยนกั๋วเอ่ยยิ้มๆ
“โอเคค่ะ พ่อก็บอกคณบดีของโรงพยาบาลนี้ด้วยนะ ว่าหนูต้องการตัวเจียงเฉิง” ฟางหลันหลันว่าแล้วจึงกดวางสาย
ฟางเจี้ยนกั๋วได้ยินเสียงกดวางสาย เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ไม่รู้ว่าลูกสาวที่ฉลาดช่างพูดของเขาใช้วิธีใด ถึงได้จัดการได้แม้แต่เจียงเฉิง
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฟางเจี้ยนกั๋วจึงต่อสายตรงโทรหาเสิ่นปิงซึ่งเป็นคณบดีของโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลูหยาง
ฟางหลันหลันที่อยู่ในห้องผู้ป่วยกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข แต่เนื่องจากเธอยังไม่หายเป็นปกติ พอกระโดดแบบนี้หน้าอกของเธอจึงยังรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
ฟางหลันหลันลูบหน้าอกด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดเล็กน้อย แต่ประเดี๋ยวเดียวก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เพราะในที่สุดเธอก็ออกไปเล่นสนุกได้แล้ว
ความจริงก่อนหน้านี้ตอนที่เธอบอกว่าเจียงเฉิงเห็นเรือนร่างของเธอแล้วและบังคับให้เจียงเฉิงมาเป็นแฟนของเธอ เธอแกล้งทำทั้งนั้น เธอรู้ว่าเจียงเฉิงแต่งงานแล้ว ดังนั้นจึงขอร้องเขาไปแบบนี้เพราะรู้ว่าเจียงเฉิงจะต้องทำให้เธอไม่ได้แน่ ทั้งยังจะทำให้เขารู้สึกผิดได้ด้วย
ตอนนี้ฟางหลันหลันจึงเปลี่ยนมาขอร้องอะไรง่ายๆ โดยขอให้เจียงเฉิงมาเป็นบอดี้การ์ดให้เธอ ถ้าเป็นแบบนี้เจียงเฉิงจะต้องตอบตกลงแน่นอน
สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับที่ฟางหลันหลันคาดการณ์ไว้ เจียงเฉิงตอบตกลงเป็นบอดี้การ์ดของเธอจริง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าเจียงเฉิงจะมาปกป้องเธอจริงๆ ถึงอย่างไรด้วยอำนาจของตระกูลฟางในหลูหยาง ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องเธออยู่แล้ว
ในสายตาของฟางหลันหลัน บอดี้การ์ดที่คุ้มกันข้างกายเธอก็เป็นเพียงพี่เลี้ยงที่พาเธอออกไปเล่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง