หลังจากที่ชายวัยกลางคนพยุงหญิงชรานั่งลง เจียงเฉิงก็ตรวจดูอาการอีกครั้ง จากนั้นก็เขียนใบสั่งยา แล้วยื่นให้เหยียนปิงหรู
เหยียนปิงหรูเห็นใบสั่งยานี้แล้วก็รีบไปจัดยาทันที ไม่นานก็ห่อยาสามแผงเสร็จแล้วยื่นให้ชายวัยกลางคน
“อาการป่วยแม่ผมมักจะกลับมากำเริบซ้ำๆ ถ้ากินยาของคุณแล้วจะยังกำเริบอยู่อีกไหม?” หลังจากชายวัยกลางคนรับยามาแล้วก็ถามอย่างสงสัยเล็กน้อย
“วางใจเถอะครับ ไม่มีทางกำเริบอีกแน่นอน” เจียงเฉิงตอบ ก่อนจะให้ชายวัยกลางคนไปจ่ายเงิน อีกทั้งค่ารักษาก็ไม่ได้แพงมาก รวมทั้งหมดแค่ร้อยกว่าหยวน เขาจึงออกไปจากที่นี่ด้วยความคิดที่จะลองดู
“ดูสิ เราได้ลูกค้าคนแรกแล้วไม่ใช่หรือไง?” เจียงเฉิงยิ้มเอ่ยกับเหยียนปิงหรู
“ไม่ง่ายเลยจริงๆ” เหยียนปิงหรูเก็บเงินเอาไว้ ยังดีที่ร้านนี้เธอไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเอง ไม่งั้นในหนึ่งวันต้องขาดทุนขนาดไหนกัน
“สบายใจเถอะ ของแบบนี้มันต้องพึ่งชื่อเสียง รอชื่อเสียงค่อยๆดีขึ้นเมื่อไหร่ ก็จะมีคนไข้มาเยอะเอง ถึงเวลาเธอเองก็จะงานยุ่งสมใจอยากแล้วเหมือนกัน” เจียงเฉิงเอ่ยกับเหยียนปิงหรูยิ้มๆ
“งั้นฉันยอมงานยุ่งดีกว่า อย่างน้อยก็หาเงินได้เยอะ” เหยียนปิงหรูเองก็ยิ้มเอ่ยกับเจียงเฉิง
เพียงแต่มีหมอที่รักษาเก่งอย่างเจียงเฉิง ทั้งวันนี้ก็มีคนไข้ไม่กี่คนมาใช้บริการ ทว่าจากนี้ไปก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำแล้ว เจียงเฉิงจึงกลับไปที่ห้องของสวี่ฉิง
สวี่ฉิงกำลังนอนเล่นโทรศัพท์ เธอเองก็ว่างจนรู้สึกเบื่อ
“ที่รัก เธอก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ ไปกันเถอะ ฉันพาเธอไปชอปปิง” เจียงเฉิงมองสวี่ฉิงแล้วเอ่ยยิ้มๆ
“นายยังจำเมียนายได้อยู่อีกเหรอ ฉันนึกว่านายลืมฉันไปแล้ว” สวี่ฉิงมองบนใส่เจียงเฉิง พลางพูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ทั้งที่คลินิกก็ไม่ได้ยุ่งมากแท้ๆ แต่หมอนี่กลับไม่มาหาเธอเลย
“ทำไม? โกรธเหรอ?” เจียงเฉิงยิ้มถามสวี่ฉิง
“นายก็ไม่ได้งานยุ่งแต่กลับไม่มาหาฉันเลย อยากอยู่แต่กับปิงหรูใช่หรือเปล่า?” สวี่ฉิงถลึงตาใส่เจียงเฉิง
เจียงเฉิงได้ยินคำพูดของสวี่ฉิงก็รู้สึกหมดคำพูด ตอนนี้เมียเขายิ่งอยู่ยิ่งขี้หึงชะมัด แบบนี้ก็ยังหึงได้ด้วย
“มีเรื่องพรรค์นั้นสักที่ไหนกัน ฉันก็กำลังคิดว่าจะพาเธอไปเที่ยวไหนดีนี่ไง” เจียงเฉิงพูดกับสวี่ฉิงยิ้มๆ
ยังไงซะ สวี่ฉิงเองก็ไม่ได้โกรธจริง เธอแต่งหน้าอ่อนๆ จากนั้นก็ออกไปชอปปิงกับเจียงเฉิง
“ที่รัก บอกมาเถอะ ว่าเธออยากได้อะไร สามีจะซื้อให้เธอหมดเลย” เจียงเฉิงโอบไหล่สวี่ฉิงเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรู
“ก็ไม่มีอะไรที่อยากได้หรอก” สวี่ฉิงดูไปเรื่อยเปื่อย อันที่จริงเธอไม่มีอะไรที่อยากได้จริงๆ
ทว่าสวี่ฉิงไม่ได้รู้สึกดีใจมากนัก เพราะเธอรู้นิสัยของเหม่ยหุ้ยดี ฐานะทางบ้านไม่ดีตั้งแต่เด็ก มักจะชอบมาขโมยของที่บ้านเธอ แม้ทั้งคู่จะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้ดีมากนัก
“เธอมาที่นี่ได้ยังไง? นี่คือแฟนเธอเหรอ?” เหม่ยหุ้ยมองเจียงเฉิงที่อยู่ข้างสวี่ฉิงแล้วถาม
“สามีฉันเอง ฉันแต่งงานแล้ว” สวี่ฉิงยิ้มเอ่ยกับเหม่ยหุ้ย
“แต่งงานแล้ว?”
เหม่นฮุ่ยเห็นเจียงเฉิงแต่งตัวเชยและซอมซ่อ ก็พลันเอ่ยด้วยแววตาเหยียดหยามว่า “สวี่ฉิง เธอหน้าตาดีมาตั้งแต่เด็ก ฐานะที่บ้านเองก็ดี แต่ทำไมถึงหาผัวได้แย่ขนาดนี้?”
“สามีฉันก็ดีนี่ ช่วงนี้เขาเพิ่งเปิดคลินิก อยู่ที่……”
“เปิดคลินิกเหรอ? คลุกอยู่กับกลิ่นยาทั้งวัน ซ้ำยังต้องรับใช้คนไข้ที่น่าขยะแขยงอีก นี่มันก็ห่วยแตกเกินไปแล้ว” เหม่ยหุ้ยกอดอก พลางมองเจียงเฉิงด้วยสีหน้ารังเกียจ
สวี่ฉิงได้ยินเหม่ยหุ้ยพูดดังนั้น ในใจเองก็รู้สึกไม่พอใจ ทว่าเธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก กลับพูดว่า “ก็ไม่ได้แย่หรอก แล้วสามีเธอล่ะ?”
ได้ยินสวี่ฉิงถามถึงสามีตัวเอง เหม่ยหุ้ยก็พลันดีใจขึ้นมาทันที แล้วเชิดหน้าขึ้นเอ่ยว่า “ร้านขายหยกนี้ ก็คือร้านของสามีฉันเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง