สีหน้าของเหม่ยหุ้ย ณ ตอนนี้เต็มไปด้วยแววได้ใจ เพราะเธอรู้สึกว่าในที่สุดตัวเองก็ชนะสวี่ฉิงได้แล้วสักที แต่ก่อนบ้านของสวี่ฉิงฐานะดี เธอสู้ไม่ได้ แต่ตอนนี้สามีเธอเก่งกว่าสามีของสวี่ฉิงมากโข
“ร้านขายหยกนี้สามีเธอเป็นคนเปิดเองเหรอ?” สวี่ฉิงเองก็ถามอย่างตกตะลึงเล็กน้อย ร้านนี้ไม่ใช่ร้านเล็กๆ ซ้ำยังอยู่ในห้างที่หรูขนาดนี้อีกต่างหาก พวกค่าเช่าและค่าใช้จ่ายต่างๆต้องไม่ใช่ถูกๆแน่ๆ
“ใช่แล้ว” เหม่ยหุ้ยพูดกับสวี่ฉิงอย่างได้ใจว่า “ฉันเห็นมือเธอไม่มีเครื่องประดับสักชิ้นเลย เข้ามาดูหน่อยเถอะ ถ้าเห็นอันที่ชอบ เดี๋ยวฉันให้สามีฉันลดให้เธอเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์”
เหม่ยหุ้ยพูดแล้วก็ควงแขนของสวี่ฉิงเดินเข้าไปในร้าน
เจียงเฉิงเองก็ดูออกแล้ว ว่ายัยผู้หญิงที่ชื่อเหม่ยหุ้ยนี่ ไม่ใช่เพื่อนของสวี่ฉิงเลยสักนิด ก็แค่อยากจะอวดว่าตอนนี้ชีวิตเธอดีกว่าสวี่ฉิงก็เท่านั้น
เจียงเฉิงถอนหายใจอย่างจนใจ ก่อนจะตามสวี่ฉิงเข้าไปข้างใน ร้ายขายหยกนี้ใหญ่มากจริงๆด้วย อีกทั้งยังมีหยกที่ยังไม่ได้เจียระไนวางอยู่มากมาย
“สวี่ฉิง ฉันบอกเธอนะ หาผู้ชายเนี่ยห้ามเชื่อปากของผู้ชายเด็ดขาด เธอต้องดูว่าเขามีเงินหรือเปล่า ฉันแนะนำให้เธอหย่าจะดีกว่านะ” เหม่ยหุ้ยแสร้งทำเป็นเอ่ยกับสวี่ฉิงอย่างเป็นห่วง
“หย่า? สามีฉันดีมากแล้ว ทำไมฉันต้องหย่า” สวี่ฉิงเอ่ยกับเหม่ยหุ้ยอย่างขบขันเล็กน้อย
“สภาพซอมซ่อแบบนั้นดีตรงไหนกัน?” เหม่ยหุ้ยเอ่ยกับสวี่ฉิงอย่างตกตะลึงเล็กน้อย “นี่ฉันหวังดีกับเธอ เธอจะได้ไม่หลงเชื่อคำพูดจากปากผู้ชาย แล้วถูกหลอกฟรีๆ”
สวี่ฉิงรู้สึกหมดคำพูดกับเหม่ยหุ้ยมากจริงๆ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ใช้ข้ออ้างหวังดีมาหลอกเธอ ตอนนี้ก็ยังจะพูดแบบนี้อีก แนะนำให้เธอหย่าก็ยังจะบอกว่าหวังดีกับเธอ
“เหม่ยหุ้ย ฉันพอใจกับครอบครัวของฉันมากแล้ว เธอไม่ต้องห่วงหรอก” สวี่ฉิงเอ่ยกับเหม่ยหุ้ยเสียงเย็น ขณะเดียวกันก็ผลักมือของเหม่ยหุ้ยที่กอดแขนเธอออก
นับผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนเธอไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นทำร้ายคนอื่นก็ยังคิดว่าหวังดีกับคนอื่น
เหม่ยหุ้ยเห็นท่าทางของสวี่ฉิงเองก็พลันรู้สึกโมโห หลอกด่าเธอว่าสาระแนงั้นเหรอ
“สวี่ฉิง ตอนนี้เธอยังจะวางมาดอีกทำไม ตระกูลสวี่ไม่เอาครอบครัวเธอแล้ว เธอเอาอะไรมาถือตัวต่อหน้าฉัน? ตอนนี้ฉันเองก็แต่งเข้าตระกูลเศรษฐีแล้ว จากนี้ไปเธอต้องประจบฉัน เธอเข้าใจไหม?” เหม่นฮุ่ยชี้ด่าสวี่ฉิงอย่างโมโห ในสายตาเธอ หากสามารถเปิดร้านขายหยกที่ใหญ่ขนาดนี้ในเขตได้ งั้นก็ถือว่าเป็นตระกูลเศรษฐีแล้ว
“ตระกูลเศรษฐี?”
สวี่ฉิงได้ยินคำพูดของเหม่ยหุ้ยเองก็รู้สึกจนใจ เอ่ยว่า “โอเค เธอก็คือคุณนายตระกูลเศรษฐี พอใจหรือยัง?”
สวี่ฉิงเองก็คร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้ จึงคิดจะไปจากที่นี่ ทว่าเหม่ยหุ้ยยังรู้สึกไม่สะใจพอ จึงรั้งสวี่ฉิงเอาไว้ ตะคอกว่า “วางมาดอะไรของเธอกัน มีผัวเป็นหมอคลินิกเล็กๆก็ถือตัวแล้วงั้นเหรอ? เธอมีสิทธิ์นั้นด้วยหรือไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง