เพียะ!
เหม่ยหุ้ยยังพูดไม่ทันจบก็ถูกฝ่ามือตบหน้าเต็มแรง เสียงเพียะดังลั่น เธอถูกตบจนศีรษะหันไปอีกข้าง เส้นผมปรกหน้าผากจนดูยุ่งเหยิง
“แกกล้าตบฉัน?” เหม่ยหุ้ยกุมหน้าตัวเองพลางมองเจียงเฉิงด้วยแววตาโกรธจัด
“ก็เธอบอกให้ฉันตบเอง ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งเธอก็เท่านั้น” เจียงเฉิงมองเหม่ยหุ้ยด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยว่า “ขอโทษเมียฉันซะ!”
“ภรรยา เกิดอะไรขึ้น?”
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่ไว้ผมทรงสกินเฮดก็เดินออกมาจากข้างใน พลันโอบเหม่ยหุ้ยไว้ในอ้อมกอด
“สามี มันตบฉัน มันรังแกฉัน” เหม่ยหุ้ยแสร้งทำเป็นน่าสงสารและเอ่ยกับชายสกินเฮด
ชายสกินเฮดได้ยินว่าเจียงเฉิงตบเมียตัวเองก็พลันปรี๊ดแตก และตวาดอย่างโมโหว่า “แม่งเอ้ย กล้าตบแม้แต่เมียฉัน แกอย่าตายนักหรือไง”
“เมียนายไม่รู้มารยาทเอง นายไม่คุมไว้ดีๆ ฉันก็ต้องช่วยนายสั่งสอนอยู่แล้ว” เจียงเฉิงเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ที่นี่เป็นร้านฉัน เมียฉันอยากทำอะไรก็ทำ แกสองคน กราบขอโทษเมียฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นวันนี้พวกแกก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่” ชายสกินเฮดชี้และตะคอกใส่เจียงเฉิงอย่างเผด็จการ
“ไม่ต้องกลัวๆ สามีจะทวงคืนความยุติธรรมให้เธอเอง” ชายสกินเฮดโอบเหม่ยหุ้ยไว้และเอ่ย
“ร้านนาย? เราอย่าเพิ่งพูดถึงว่าร้านนี้เป็นของนายหรือเปล่า ต่อให้เป็นของนายจริงๆ งั้นก็ไม่ควรจะรั้งคนที่อยากไปไว้อย่างเผด็จการหรอกนะ?” เจียงเฉิงแค่นยิ้มเสียงเย็นและพูดกับชายสกินเฮด
“ไอ้สวะ แกไม่มีทางเคยมีร้านขายหยกที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนอยู่แล้ว เพียงแต่ผัวฉันเก่งไง ร้านนี้ก็คือของเขา” เหม่ยหุ้ยนึกว่าเจียงเฉิงอิจฉา พลันโต้ตอบทันที
“งั้นเหรอ? แต่ทำไมฉันถึงจำได้ว่าเจ้าของร้านขายหยกน่าจะชื่อโจวข่ายล่ะ” เจียงเฉิงยิ้มเย็นแล้วเอ่ยกับชายสกินเฮด
ชายสกินเฮดได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้นก็พลันใจกระตุกวูบ เขารู้อยู่แล้วว่าเจ้าของร้านขายหยกแห่งนี้คือโจวข่าย เพราะโจวข่ายคือเจ้าของของร้านทั้งหมด เขาเป็นแค่ผู้จัดการของร้านนี้เท่านั้น
เพียงแต่ชายสกินเฮดป่าวประกาศว่าร้านนี้เป็นของตัวเอง ทั้งที่แท้จริงแล้วเขาเป็นแค่ผู้จัดการร้าน ไม่ได้มีอำนาจมากมายนัก อีกทั้งโจวข่ายเองก็เคยย้ำกับเขาไว้ว่า หลังจากที่กิจการร้านเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาก็จะมอบให้ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของเขตเป็นของขวัญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง