ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 94

เจียงหงเฟยและสวีฟางกลับไปนอนที่ห้องนอน แต่ยังไงก็นอนไม่หลับ

“พ่อ พ่อก็รู้สึกด้วยใช่มั้ย” สวีฟางกล่าวอย่างแผ่วเบา

“อะไร”

“เจียงเฉิงคนนี้นี่ค่อนข้างเหมือนลูกของเราเลย” สวีฟางพูดด้วยอารมณ์หดหู่บางอย่าง

เจียงหงเฟยได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์หดหู่และพูดว่า “ใช่ ท่าทางตอนที่กินข้าว ทุกการเคลื่อนไหว และน้ำเสียงของคำพูดนั้นคล้ายกับลูกของเรามากเหลือเกิน”

“คุณว่าจะเป็น...”

“อะไร หน้าตาเขาไม่เหมือนลูกชายเราเลยสักนิด เสียงก็ต่างไปอย่างสิ้นเชิง” เจียงหงเฟยขัดคำพูดสวีฟาง

“คนเราไม่สามารถฟื้นจากความตายได้ อย่าคิดมากไปเลย” เจียงหงเฟยกล่าวด้วยอารมณ์หดหู่

สวีฟางก็ถอนหายใจอย่างเศร้าๆ ทำไมถึงเหมือนลูกชายของเธอได้ขนาดนี้ แต่เธอก็รู้ดีว่าลูกชายของเธอตายไปแล้ว

ที่บ้านสวี่ฉิง

“คุณยังไม่นอนเหรอ” เจียงเฉิงกลับบ้านและเห็นสวี่ฉิงนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

“นอนไม่หลับ” สวี่ฉิงเหลือบมองเจียงเฉิง ไม่ได้ถามว่าเจียงเฉิงไปไหน แล้วตอบกลับเบาๆ

เจียงเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากการรักษาครั้งก่อน อาการของสวี่ฉิงน่าจะดีขึ้นมาก ทำไมถึงนอนไม่หลับอีกล่ะ

“หรือว่าเพราะเรื่องบริษัทของคุณพ่อคุณแม่เหรอ” เจียงเฉิงฉุกคิดขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้ที่ต้องไปซื้อไวน์กับสวี่ฉิง แต่เพราะเกิดเรื่องที่บริษัทคุณพ่อคุณแม่ สวี่ฉิงจึงไปที่บริษัท แล้วอารมณ์ก็ไม่ค่อยดีนัก

“เปล่า”

“ไม่มีจริงเหรอ” เจียงเฉิงรู้สึกว่าสวี่ฉิงกำลังปิดบังตนจากอะไรบางอย่าง จึงนั่งอยู่ข้างเตียงและถาม

สวี่ฉิงมองไปที่เจียงเฉิง เดิมทีไม่อยากคุยกับเจียงเฉิง แต่เธอรู้สึกว่าอย่างไรเสียเจียงเฉิงเป็นสามีของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ควรปิดบังเขา

“คุณยังจำครั้งก่อนที่คุณไปบริษัทกับฉัน เพื่อปรับปรุงเครื่องสำอางได้ไหม” สวี่ฉิงปิดหนังสือ มองเจียงเฉิงแล้วพูด

“จำได้ ทำไม มีปัญหาอะไรเหรอ”

“สูตรผลิตภัณฑ์ไม่มีปัญหาและผลิตออกมาแล้ว แต่ดาราที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางของบริษัทคุณพ่อคุณแม่ขอขึ้นราคาค่าตัว และก็อัพค่าตัวเยอะมาก” สวี่ฉิงพูดเรียบๆ

“งั้นการเปิดตัวสินค้าจะล่าช้าไปใช่ไหม” เจียงเฉิงถาม

“ใช่ คณะกรรมการมีความขัดแย้งมากในเรื่องนี้ หากต้องการเปลี่ยนแปลง ก็ไม่สามารถหาดาราพรีเซนเตอร์คนอื่นได้ แต่ถ้าไม่เปลี่ยน ข้อเรียกร้องของดาราคนนั้นก็มากเกินไป”

“เดิมทีฉันคิดว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ วันนี้จะสามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะไม่ได้ผล พรุ่งนี้จะเป็นการเจรจาครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการแล้ว” สวี่ฉิงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้