คุณหมอที่รัก นิยาย บท 17

มือเล็กที่กำลังจะส่งโทรศัพท์ในมือให้ชายหนุ่มตรงหน้าจำต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงดังเย็นยะเยือกดังแทรกเข้ามา พร้อมกับชายหนุ่มอีกคนที่สูงประหนึ่งกินเสาไฟฟ้าเข้าไปในร่างกายของกองทัพกำลังมุ่งสายตามาที่เธอและทัพบก

ฟึบ! โทรศัพท์ในมือเล็กโดนฉกมาอยู่ในมือหนาของกองทัพโดยไม่ทันตั้งตัว

ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์ของทัพบกสั่นกระทบกับพื้นโต๊ะทำงานจนเกิดเสียงดัง

“นี่ไงเบอร์โทรศัพท์ของเครื่องนี้ ส่วนไลน์ก็ใช้แอคเคาน์เดิมไม่ได้เปลี่ยน..ติ๊ง!” สิ้นคำพูดเสียงแจ้งเตือนไลน์เครื่องของทัพบกก็ดังขึ้นหลังจากสายโทรศัพท์ถูกตัดไปไม่ถึงนาที

“รดาใช้โทรศัพท์เครื่องของมึง” ทัพบกถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก ถึงจะไม่รู้ว่าน้องชายตัวดีรู้จักกับเด็กสาวได้ยังไง แต่ดูจากการแสดงออกว่าหึงหวงขนาดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคงไม่ใช่แค่เจ้านายกับเด็กฝึกงานธรรมดา

“ก็เห็นแล้ว จะถามอีกทำไม”

“งั้นมึงก็เอาคืนไป เดี๋ยวเย็นนี้กูพารดาไปซื้อเครื่องใหม่เอง” นิสัยขี้แกล้งชอบปั่นประสาทน้องชาย ถึงจะผ่านไปหลายปีจนทั้งสองโตเป็นหนุ่มก็ไม่ได้จางหายไปตามอายุและวุฒิภาวะของทั้งสองเลย

“ไม่ต้อง! เครื่องนี้กูก็ไม่ได้ใช้อะไรเก็บไว้ก็เสียดายของให้เธอไปใช้ยังจะมีประโยชน์กว่า” กองทัพตอบกลับพี่ชายไปแบบนั้นจนลืมไปว่าตนนั้นไม่ชอบให้ใครยุ่งวุ่นวายกับของที่เป็นของส่วนตัวของตนโดยเฉพาะโทรศัพท์ถึงแม้ว่าของชิ้นนั้นเขาจะไม่ได้ใช้งานมันก็ตาม ถ้ามันยังเป็นของของเขาอยู่คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องหรือหยิบไปใช้งานได้

“ปกติมึงไม่ชอบให้ใครยุ่งกับของส่วนตัวของมึง มึงใจดีขึ้นเยอะเลยนะ” ทัพบกแขวะกองทัพเล็กน้อยยกยิ้มมุมปากแสดงความพอใจที่ได้แกล้งน้องชายสำเร็จ

“มึงก็ใจดีนะ แค่เด็กมันมาฝึกงานแค่สองวันจะพาไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ซะแล้ว เป็นสวัสดิการใหม่ของบริษัทเหรอ” กองทัพตอกกลับเอาคืนพี่ชายอย่างไม่ยอมแพ้

“เปล่าหรอก กูจะซื้อให้ในฐานะคนรู้จักที่สนิทกันน่ะ” ทัพบกยังปั่นไม่ยอมหยุด ยิ่งเห็นคนเป็นน้องชายหัวร้อนยิ่งนึกสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนานๆ จะเห็นน้องชายแสดงอาการควบคุมตัวเองไม่อยู่แบบนี้

“อือ..แต่กูว่ามึงเป็นเจ้านายที่ใจดีมากนะ ให้โทรศัพท์ส่วนตัวเด็กฝึกงานใช้ด้วย” รดายืนฟังสองพี่น้องทะเลาะกันไปมาอยู่นานจนทนไม่ไหวจึงพูดแทรกขึ้น

“รดาขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะพี่ทัพบก” เมื่อพูดจบร่างบางก็หันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มทั้งสองนั้นจะยืนทะเลาะกันอีกนานแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นต้นเหตุของเรื่องก็ตาม

ปั้ง! รดาเปิดประตูเดินกลับเข้ามาภายในห้องยังไม่ทันถึงโต๊ะทำงานด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเจ้าของห้องก็เดินตามมาติดๆ และปิดประตูเสียงดังจนเธอสะดุ้งแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองเพราะรู้ว่าคนที่ปิดประตูนั้นคงหนีไม่พ้นเจ้านายของเธอ

“ไปรู้จักกับไอ้ทัพบกตั้งแต่เมื่อไหร่” สิ้นประโยคคำถามชายหนุ่มก็ถอนหายใจพรืดยาวราวกับว่ากำลังควบคุมอารมณ์ที่ร้อนระอุรอปะทุอยู่ด้านในให้เย็นลงช้าๆ

“นานแล้วค่ะ” รดาตอบกลับตามความจริงแต่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดลงลึกเพราะคิดว่าไม่ได้จำเป็นอะไร

“รู้จักมันได้ยังไง” เมื่อได้ฟังคำตอบสติที่รวบรวมไว้ก่อนหน้าก็ขาดสะบั้นลงทันที จนเผลอพูดขึ้นเสียงดัง

“หนูจำเป็นต้องเล่าให้คุณฟังด้วยเหรอ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของหนูและหนูคิดว่าไม่จำเป็นต้องเล่าให้คนอื่นฟัง” ยิ่งไปกว่านั้นอารมณ์ที่เดือดอยู่ตอนแรกเดือดเพิ่มขึ้นถึงจุดเดือดพีคสูงสุดที่บอกว่าเขานั้นเป็นคนอื่นสำหรับเธอ

“ถ้าผมสั่งให้คุณเล่าล่ะ” เสียงต่ำเย็นชาถามกลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“หลายปีแล้วค่ะ เพราะรดาเอาอาหารไปส่งให้พี่ทัพบกทุกเช้า” รดาเล่าแบบรวบรัดแต่หารู้ไม่ว่าการย่อบทความให้มันสั้นลงจนขาดใจความสำคัญมันจะทำให้ผู้ฟังเอาไปตีความผิดและตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว

“ไปส่งมันทุกเช้างั้นเหรอ” กองทัพโมโหจนลืมไปว่าก่อนหน้านั้นรดาเคยเป็นไรเดอร์มาก่อน ถ้าจะส่งอาหารให้พี่ชายตนทุกเช้านั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ความหึงหวงทำให้เขาหูหนวกตาปอดและสมองหยุดสั่งการชั่วคราว

“ค่ะ ส่งทุกวันแต่พี่ทัพบกจะทานอาหารอยู่ไม่กี่อย่าง ขับรถวิ่งไปซื้อแป๊บเดียวก็แวะเอาไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์หน้าคอนโดทุกเช้าค่ะ”

“รู้จักมันก่อนรู้จักผมเหรอ” กองทัพถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะผิดหวังเมื่อได้รับคำตอบจากปากเด็กสาว จนลืมไปว่าตัวเองนั้นยังไม่ได้บอกความจริงเรื่องเมื่อ6ปีก่อนให้เด็กสาวฟังเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาทันที

“ใช่ค่ะ”

“อ่านเอกสารต่อเถอะ อาทิตย์หน้าผมจะเริ่มสอนงานคุณแล้ว..แล้วเที่ยงนี้จะกินอะไรจะได้ให้เอกสั่งมาถูก” กองทัพตัดบทดรามาไปดื้อๆ จากใบหน้าบึ้งตึงก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นปกติค่อนไปทางอารมณ์ดีด้วยซ้ำ

“หนูสั่งข้าวกล่องมาทานเองก็ได้ค่ะ” รดารีบปฏิเสธออกไปโดยเร็วแต่ก็ต้องโดนสายตาดุตอบกลับมา จำต้องรีบเปลี่ยนคำตอบโดยเร็ว

“ข้าวผัดก็ได้ค่ะ” รดาตอบกลับเสียงอ่อยเมื่อโดนดุอีกครั้ง ตั้งแต่เช้าวันนี้เธอโดนชายหนุ่มดุมาแล้วสามรอบและตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ

“สตอเบอรี่แช่อยู่ในตู้เย็นในห้อง” เมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังทำให้ใบหน้าสดใสแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจำต้องเอาของมาหลอกล่อให้เด็กสาวอารมณ์ดีขึ้น

“คุณซื้อมาเหรอคะ”

“ถ้าไม่ซื้อมาแล้วมันจะมาแช่อยู่ที่นี่ไหม หิวก็เดินไปหยิบมาทานปิ้งขนมปังเผื่อผมด้วยวันนี้ผมยังไม่ได้ทานข้าวเช้า”

ตอนเช้าชายหนุ่มต้องรีบตื่นแต่เช้าไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อผลไม้และขนมที่รดาชอบมาแช่จนเต็มตู้ ทั้งที่ปกติหน้าที่ซื้อของพวกนี้เป็นหน้าที่ของเลขาคนสนิทแต่เพราะวันนี้ชายหนุ่มมีงานด่วนให้เอกไปทำแต่เช้ามืดตนจึงต้องเป็นคนไปซื้อของพวกนี้เอง

“งั้นหนูขอไปหยิบมาทานนะคะ” รดาหายเข้าไปในห้องส่วนตัวของกองทัพประมาณ10นาทีก็กลับออกมาพร้อมกับจานผลไม้ในมือและจานที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ารับประทานอยู่1ชิ้นโดยฝีมือรดา

“ผมสั่งขนมปังปิ้ง ทำไมได้แซนด์วิชมา” กองทัพมองแซนด์วิชตรงหน้าสลับกับมองหน้าเด็กสาว

“แซนด์วิชอร่อยและมีประโยชน์กว่าค่ะ ลองทานดูสิคะหนูทำอร่อยมากนะ”

กองทัพหยิบแซนด์วิชเข้าปากกัดคำโต เคี้ยวตุ้ยๆ สีหน้าเรียบนิ่งจนคนที่ยืนลุ้นอยู่ถึงกลับถอนหายใจพรืดเสียงดังเพราะคิดว่าแซนด์วิชที่เธอทำมาให้นั้นรสชาติไม่อร่อยไม่ถูกปากชายหนุ่ม

"ถ้าไม่อร่อยเดี๋ยวหนูไปปิ้งขนมปังมาให้คุณใหม่ดีกว่าค่ะ”

“ผมบอกแล้วเหรอว่าไม่อร่อย” เท้าเล็กจำต้องหยุดชะงักหันขวับกลับมาทันที ใบหน้าที่เศร้าสร้อยผิดหวังก่อนหน้าตอนนี้ยิ้มร่าด้วยความดีใจ

มื้อเที่ยง

อาหารไทยจากร้านอาหารระดับมิชลิน3ดาว ถูกจัดขึ้นโต๊ะในห้องทำงานของชายหนุ่มโดยมีเมนูปลาเป็นหลักเพราะคุณหมอหนุ่มค่อนข้างดูแลสุขภาพจะเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วนเท่านั้น

“ทำไมมีแต่เมนูปลาล่ะคะ” กลิ่นหอมโชยไปทั่วห้องเรียกให้น้ำลายสอแต่พอเดินมาเห็นหน้าตาอาหารบนโต๊ะถึงกับหน้าง้ำงอลงทันทีเพราะรดาไม่ชอบทานปลาที่เอามาทำเมนูต้มหรือแกง แต่ถ้าเป็นเมนูทอดเธอทานได้เพราะไม่ชอบกลิ่นคาวของมัน

“ผู้ที่กินเนื้อปลาเป็นอาหารหลักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง มีโอกาสเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวลดลง โดยเฉพาะการรับประทานปลาทะเลที่มีโอเมก้า 3 สูง ที่ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลดคราบไขมันไตรกลีเซอไรด์สะสมในหลอดเลือด ลดการอักเสบเรื้อรังในหลอดเลือด และช่วยให้ความดันโลหิตลดลง นอกจากจะมีประโยชน์ต่อหัวใจแล้วยังดีต่อสมอง ผู้ชอบกินปลามีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงอีกด้วย งานวิจัยบางฉบับระบุว่า ช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 40% แล้วยังป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ เนื่องเพราะโอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารเคมีในสมองให้เป็นปกติ” คุณประโยชน์และศัพท์ทางการแพทย์มากมายเมื่อได้ฟังถึงกลับต้องนั่งลงทานอาหารตรงหน้าโดยไม่มีคำถามอีก เนื้อปลากะพงในถ้วยต้มยำถูกตักใส่ถ้วยใบเล็กพร้อมน้ำซุปต้มยำที่มีเครื่องเทศสมุนไพรไทยหลายชนิดให้ความหอมและช่วยดับกลิ่นคาววางลงข้างๆ จานข้าวของเด็กสาว

รดาตักข้าวเปล่าเข้าปากเป็นคำที่สองเพราะไม่ชอบอาหารตรงหน้า

"ลองชิมดูก่อนมันไม่ได้มีกลิ่นคาวปลาเลย ร้านนี้เขาทำอร่อย เนื้อปลาก็สด” มือเล็กวางช้อนข้าวในมือลงค่อยๆ ตักน้ำซุปขึ้นชิม รสชาติกลมกล่อมสัมผัสปลายลิ้นสร้างความแปลกใจให้รดาไม่น้อย กลิ่นคาวของปลาไม่หลงเหลือให้ได้กลิ่นแถมรสชาติอาหารก็กลมกล่อมไม่เผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัด รสชาติกลางๆ แต่อร่อย

“ร้านนี้เขาทำอร่อยจัง ไม่มีกลิ่นคาวเลยคุณซื้อมาจากร้านแถวไหนคะ”

“ร้านครัวไทยเขาได้มิชลิน3ดาว” เมื่อได้ฟังรดาถึงกับอึ้งอาหารไทยพวกนี้ได้รับรางวัลมิชลิน3ดาวเชียวหรือ

“มิน่าล่ะ เขาถึงทำอร่อยมาก ร้านพวกนี้ต้องจองคิวนานไม่ใช่เหรอคะถึงจะได้ทาน” รดาถามขึ้นตามข้อมูลที่เธอเคยได้ยินมาเพราะขับไรเดอร์มาร่วมสามปีข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหรือร้านอาหารเธอย่อมรู้ข้อมูลอยู่บ้าง

“โทรไปสั่งชั่วโมงเดียวก็ได้แล้ว” กองทัพตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติราวกับว่าที่ตอบมานั้นเป็นเรื่องปกติ

“ไม่จริงค่ะร้านนี้ลูกค้าหนูเคยบอกว่าต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน” รดาเถียงกลับทันควันเพราะคิดว่ากองทัพโกหก

“จริงสิ นี่ไงผมพึ่งโทรไปตอนสิบเอ็ดโมง แล้วเขาก็เอามาส่งตอนเที่ยง” หลักฐานการโทรออกที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์รดาเห็นถึงกลับไม่อยากจะเชื่อสายตา ร้านอาหารดังขนาดนั้นโทรสั่งปุ๊บจะมีคิวว่างทำให้และมาส่งเลยเหรอถึงจะเห็นหลักฐานคาตาแต่ก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี

“คุณทำได้ไงคะ คุณต้องติดสินบนพนักงานรับออร์เดอร์แน่ๆ เลย”

“ผมไม่เคยทำแบบนั้นแน่นอน”

พรวด! อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่มีการเคาะขออนุญาตใดๆ พร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

“เป็นไงไอ้หมออาหารร้านกูยังอร่อยเหมือนเดิมไหม กูต้องเข้าไปสั่งเชฟให้ลัดคิวให้มึงก่อนเลยนะไอ้ห่า อยากแดกแต่แม่งไม่รู้จักรอคิว” เสียงนทีเจ้าของร้านครัวไทยดังมาตั้งแต่เจ้าตัวยังก้าวไม่พ้นขอบประตูด้วยซ้ำ

“ประตูเคาะไม่เป็น” กองทัพเอ่ยถามน้ำเสียงฉุนเฉียวสีหน้ารำคาญใจเหมือนกำลังก่นด่าในใจ

“เป็น..แต่เผอิญที่บ้านไม่ได้เคร่งเรื่องมารยาท” นทีตอบกลับน้ำเสียงปกติไม่มีทีท่าสะทกสะท้านต่อคำประชดของเพื่อน

“พี่นทีสวัสดีค่ะ” รดารีบวางช้อนในมือลงและยกมือไหว้ชายหนุ่มที่มาใหม่อย่างมีมารยาท

“มึงมาทำไม”

“แค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าใช่คนที่กูคิดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้ข่าวรั่วไหลคืนนี้เลี้ยงเหล้ากูด้วยเจอกันที่ผับไอ้น่านฟ้า พี่ไปก่อนนะครับน้องรดา..ทานข้าวให้อร่อยนะครับ” ตอบกลับเพื่อนก่อนจะหันไปพูดกับเด็กสาวที่นั่งมองทั้งสองสลับกันตาแป๋วและส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินกลับออกไปดื้อๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก