บทที่16 หลงเสน่ห์เด็กฝึกงาน – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณหมอที่รัก
ตอนนี้ของ คุณหมอที่รัก โดย ดาวิเด ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่16 หลงเสน่ห์เด็กฝึกงาน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
มือเล็กที่กำลังจะส่งโทรศัพท์ในมือให้ชายหนุ่มตรงหน้าจำต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงดังเย็นยะเยือกดังแทรกเข้ามา พร้อมกับชายหนุ่มอีกคนที่สูงประหนึ่งกินเสาไฟฟ้าเข้าไปในร่างกายของกองทัพกำลังมุ่งสายตามาที่เธอและทัพบก
ฟึบ! โทรศัพท์ในมือเล็กโดนฉกมาอยู่ในมือหนาของกองทัพโดยไม่ทันตั้งตัว
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์ของทัพบกสั่นกระทบกับพื้นโต๊ะทำงานจนเกิดเสียงดัง
“นี่ไงเบอร์โทรศัพท์ของเครื่องนี้ ส่วนไลน์ก็ใช้แอคเคาน์เดิมไม่ได้เปลี่ยน..ติ๊ง!” สิ้นคำพูดเสียงแจ้งเตือนไลน์เครื่องของทัพบกก็ดังขึ้นหลังจากสายโทรศัพท์ถูกตัดไปไม่ถึงนาที
“รดาใช้โทรศัพท์เครื่องของมึง” ทัพบกถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก ถึงจะไม่รู้ว่าน้องชายตัวดีรู้จักกับเด็กสาวได้ยังไง แต่ดูจากการแสดงออกว่าหึงหวงขนาดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคงไม่ใช่แค่เจ้านายกับเด็กฝึกงานธรรมดา
“ก็เห็นแล้ว จะถามอีกทำไม”
“งั้นมึงก็เอาคืนไป เดี๋ยวเย็นนี้กูพารดาไปซื้อเครื่องใหม่เอง” นิสัยขี้แกล้งชอบปั่นประสาทน้องชาย ถึงจะผ่านไปหลายปีจนทั้งสองโตเป็นหนุ่มก็ไม่ได้จางหายไปตามอายุและวุฒิภาวะของทั้งสองเลย
“ไม่ต้อง! เครื่องนี้กูก็ไม่ได้ใช้อะไรเก็บไว้ก็เสียดายของให้เธอไปใช้ยังจะมีประโยชน์กว่า” กองทัพตอบกลับพี่ชายไปแบบนั้นจนลืมไปว่าตนนั้นไม่ชอบให้ใครยุ่งวุ่นวายกับของที่เป็นของส่วนตัวของตนโดยเฉพาะโทรศัพท์ถึงแม้ว่าของชิ้นนั้นเขาจะไม่ได้ใช้งานมันก็ตาม ถ้ามันยังเป็นของของเขาอยู่คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องหรือหยิบไปใช้งานได้
“ปกติมึงไม่ชอบให้ใครยุ่งกับของส่วนตัวของมึง มึงใจดีขึ้นเยอะเลยนะ” ทัพบกแขวะกองทัพเล็กน้อยยกยิ้มมุมปากแสดงความพอใจที่ได้แกล้งน้องชายสำเร็จ
“มึงก็ใจดีนะ แค่เด็กมันมาฝึกงานแค่สองวันจะพาไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ซะแล้ว เป็นสวัสดิการใหม่ของบริษัทเหรอ” กองทัพตอกกลับเอาคืนพี่ชายอย่างไม่ยอมแพ้
“เปล่าหรอก กูจะซื้อให้ในฐานะคนรู้จักที่สนิทกันน่ะ” ทัพบกยังปั่นไม่ยอมหยุด ยิ่งเห็นคนเป็นน้องชายหัวร้อนยิ่งนึกสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนานๆ จะเห็นน้องชายแสดงอาการควบคุมตัวเองไม่อยู่แบบนี้
“อือ..แต่กูว่ามึงเป็นเจ้านายที่ใจดีมากนะ ให้โทรศัพท์ส่วนตัวเด็กฝึกงานใช้ด้วย” รดายืนฟังสองพี่น้องทะเลาะกันไปมาอยู่นานจนทนไม่ไหวจึงพูดแทรกขึ้น
“รดาขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะพี่ทัพบก” เมื่อพูดจบร่างบางก็หันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มทั้งสองนั้นจะยืนทะเลาะกันอีกนานแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นต้นเหตุของเรื่องก็ตาม
ปั้ง! รดาเปิดประตูเดินกลับเข้ามาภายในห้องยังไม่ทันถึงโต๊ะทำงานด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเจ้าของห้องก็เดินตามมาติดๆ และปิดประตูเสียงดังจนเธอสะดุ้งแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองเพราะรู้ว่าคนที่ปิดประตูนั้นคงหนีไม่พ้นเจ้านายของเธอ
“ไปรู้จักกับไอ้ทัพบกตั้งแต่เมื่อไหร่” สิ้นประโยคคำถามชายหนุ่มก็ถอนหายใจพรืดยาวราวกับว่ากำลังควบคุมอารมณ์ที่ร้อนระอุรอปะทุอยู่ด้านในให้เย็นลงช้าๆ
“นานแล้วค่ะ” รดาตอบกลับตามความจริงแต่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดลงลึกเพราะคิดว่าไม่ได้จำเป็นอะไร
“รู้จักมันได้ยังไง” เมื่อได้ฟังคำตอบสติที่รวบรวมไว้ก่อนหน้าก็ขาดสะบั้นลงทันที จนเผลอพูดขึ้นเสียงดัง
“หนูจำเป็นต้องเล่าให้คุณฟังด้วยเหรอ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของหนูและหนูคิดว่าไม่จำเป็นต้องเล่าให้คนอื่นฟัง” ยิ่งไปกว่านั้นอารมณ์ที่เดือดอยู่ตอนแรกเดือดเพิ่มขึ้นถึงจุดเดือดพีคสูงสุดที่บอกว่าเขานั้นเป็นคนอื่นสำหรับเธอ
“ถ้าผมสั่งให้คุณเล่าล่ะ” เสียงต่ำเย็นชาถามกลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“หลายปีแล้วค่ะ เพราะรดาเอาอาหารไปส่งให้พี่ทัพบกทุกเช้า” รดาเล่าแบบรวบรัดแต่หารู้ไม่ว่าการย่อบทความให้มันสั้นลงจนขาดใจความสำคัญมันจะทำให้ผู้ฟังเอาไปตีความผิดและตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
“ไปส่งมันทุกเช้างั้นเหรอ” กองทัพโมโหจนลืมไปว่าก่อนหน้านั้นรดาเคยเป็นไรเดอร์มาก่อน ถ้าจะส่งอาหารให้พี่ชายตนทุกเช้านั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ความหึงหวงทำให้เขาหูหนวกตาปอดและสมองหยุดสั่งการชั่วคราว
“ค่ะ ส่งทุกวันแต่พี่ทัพบกจะทานอาหารอยู่ไม่กี่อย่าง ขับรถวิ่งไปซื้อแป๊บเดียวก็แวะเอาไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์หน้าคอนโดทุกเช้าค่ะ”
“รู้จักมันก่อนรู้จักผมเหรอ” กองทัพถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะผิดหวังเมื่อได้รับคำตอบจากปากเด็กสาว จนลืมไปว่าตัวเองนั้นยังไม่ได้บอกความจริงเรื่องเมื่อ6ปีก่อนให้เด็กสาวฟังเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
“ใช่ค่ะ”
“อ่านเอกสารต่อเถอะ อาทิตย์หน้าผมจะเริ่มสอนงานคุณแล้ว..แล้วเที่ยงนี้จะกินอะไรจะได้ให้เอกสั่งมาถูก” กองทัพตัดบทดรามาไปดื้อๆ จากใบหน้าบึ้งตึงก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นปกติค่อนไปทางอารมณ์ดีด้วยซ้ำ
“หนูสั่งข้าวกล่องมาทานเองก็ได้ค่ะ” รดารีบปฏิเสธออกไปโดยเร็วแต่ก็ต้องโดนสายตาดุตอบกลับมา จำต้องรีบเปลี่ยนคำตอบโดยเร็ว
“ข้าวผัดก็ได้ค่ะ” รดาตอบกลับเสียงอ่อยเมื่อโดนดุอีกครั้ง ตั้งแต่เช้าวันนี้เธอโดนชายหนุ่มดุมาแล้วสามรอบและตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ
“สตอเบอรี่แช่อยู่ในตู้เย็นในห้อง” เมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังทำให้ใบหน้าสดใสแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจำต้องเอาของมาหลอกล่อให้เด็กสาวอารมณ์ดีขึ้น
“คุณซื้อมาเหรอคะ”
“ร้านครัวไทยเขาได้มิชลิน3ดาว” เมื่อได้ฟังรดาถึงกับอึ้งอาหารไทยพวกนี้ได้รับรางวัลมิชลิน3ดาวเชียวหรือ
“มิน่าล่ะ เขาถึงทำอร่อยมาก ร้านพวกนี้ต้องจองคิวนานไม่ใช่เหรอคะถึงจะได้ทาน” รดาถามขึ้นตามข้อมูลที่เธอเคยได้ยินมาเพราะขับไรเดอร์มาร่วมสามปีข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหรือร้านอาหารเธอย่อมรู้ข้อมูลอยู่บ้าง
“โทรไปสั่งชั่วโมงเดียวก็ได้แล้ว” กองทัพตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติราวกับว่าที่ตอบมานั้นเป็นเรื่องปกติ
“ไม่จริงค่ะร้านนี้ลูกค้าหนูเคยบอกว่าต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน” รดาเถียงกลับทันควันเพราะคิดว่ากองทัพโกหก
“จริงสิ นี่ไงผมพึ่งโทรไปตอนสิบเอ็ดโมง แล้วเขาก็เอามาส่งตอนเที่ยง” หลักฐานการโทรออกที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์รดาเห็นถึงกลับไม่อยากจะเชื่อสายตา ร้านอาหารดังขนาดนั้นโทรสั่งปุ๊บจะมีคิวว่างทำให้และมาส่งเลยเหรอถึงจะเห็นหลักฐานคาตาแต่ก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี
“คุณทำได้ไงคะ คุณต้องติดสินบนพนักงานรับออร์เดอร์แน่ๆ เลย”
“ผมไม่เคยทำแบบนั้นแน่นอน”
พรวด! อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่มีการเคาะขออนุญาตใดๆ พร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“เป็นไงไอ้หมออาหารร้านกูยังอร่อยเหมือนเดิมไหม กูต้องเข้าไปสั่งเชฟให้ลัดคิวให้มึงก่อนเลยนะไอ้ห่า อยากแดกแต่แม่งไม่รู้จักรอคิว” เสียงนทีเจ้าของร้านครัวไทยดังมาตั้งแต่เจ้าตัวยังก้าวไม่พ้นขอบประตูด้วยซ้ำ
“ประตูเคาะไม่เป็น” กองทัพเอ่ยถามน้ำเสียงฉุนเฉียวสีหน้ารำคาญใจเหมือนกำลังก่นด่าในใจ
“เป็น..แต่เผอิญที่บ้านไม่ได้เคร่งเรื่องมารยาท” นทีตอบกลับน้ำเสียงปกติไม่มีทีท่าสะทกสะท้านต่อคำประชดของเพื่อน
“พี่นทีสวัสดีค่ะ” รดารีบวางช้อนในมือลงและยกมือไหว้ชายหนุ่มที่มาใหม่อย่างมีมารยาท
“มึงมาทำไม”
“แค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าใช่คนที่กูคิดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้ข่าวรั่วไหลคืนนี้เลี้ยงเหล้ากูด้วยเจอกันที่ผับไอ้น่านฟ้า พี่ไปก่อนนะครับน้องรดา..ทานข้าวให้อร่อยนะครับ” ตอบกลับเพื่อนก่อนจะหันไปพูดกับเด็กสาวที่นั่งมองทั้งสองสลับกันตาแป๋วและส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินกลับออกไปดื้อๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก