บทที่19 น้อยใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณหมอที่รัก
ตอนนี้ของ คุณหมอที่รัก โดย ดาวิเด ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่19 น้อยใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“ไปกินข้าวกับมันแค่วันเดียว ต้องชมมันต่อหน้าผมขนาดนี้ไหม” เสียงลมหายใจสูดดังเข้าออกยาวๆ และค่อยๆ กลับเข้าสู่จังหวะปกติ สายตาวาวโรจน์ก่อนหน้าค่อยๆ อ่อนลงเมื่อคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างแสดงอาการหวาดกลัวใบหน้าซีดเผือด
“ผมขอโทษ” เมื่อได้สติมือหนายื่นไปกุมมือเล็กสองข้างที่กำเข้าหาแน่นมีอาการสั้นเล็กน้อย เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นบนใบหน้า
เมื่อทุกอย่างเย็นลงรวมถึงอารมณ์ของชายหนุ่มเองด้วย รถยนต์คันหรูกลับเข้าสู่ถนนและมุ่งหน้าไปยังคอนโดของเด็กสาว ภายในรถเงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มเร่งความเร็วของรถเพียงแค่นั้น
กลางดึกคืนวันศุกร์
ร่างบางนอนบิดเร้าตัวงออยู่บนเตียงเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าและรำคอ อาการปวดท้องบิดแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหว ขนาดทานยาแก้ปวดลงไปสองรอบแล้วอาการก็ยังไม่ทุเลาลง มือเล็กควานหาโทรศัพท์โต๊ะข้างหัวเตียง
ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด..รดากดโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคนด้วยมือสั่นเทา รอไม่นานปลายทางก็รับสาย
“ว่าไงยัยตัวแสบ” ปลายสายตอบกลับมาด้วยถ้อยคำดูสนิทสนม
“พี่ทัพบก รดาปวดท้อง” เสียงแผ่วเบาเจือความเจ็บปวดเอ่ยบอกคนปลายสาย
“รดาปวดมากไหม แล้วตอนนี้รดาอยู่ที่ไหน” ทัพบกถามกลับอย่างลนลานคล้ายคนสติหลุด
“รดาอยู่ที่คอนโด พี่ทัพบกช่วยพารดาไปหาหมอที” เสียงหอบเหนื่อยไม่มีแรงพยายามพูดขึ้น
“รดารอพี่แป๊บเดียว พี่กำลังไป” เมื่อตั้งสติได้รถยนต์คันหรูหักพวงมาลัยเลี้ยวรถกลับทันทีหลังจากวางสาย เข็มไมค์ตอนนี้แตะอยู่ที่เลข150 ตามอารมณ์ของคนขับตอนนี้
ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด
“มึงมีอะไรทัพบก” คุณหมอหนุ่มที่กำลังนั่งเคลียร์งานอย่างเคร่งเครียดอยู่ที่โรงพยาบาลถามขึ้น เมื่อปลายสายที่โทรมานั้นคือพี่ชาย
“กองทัพเตรียมห้องฉุกเฉินไว้ที กูกำลังพารดาไปโรงพยาบาล” เมื่ออุ้มคนตัวเล็กขึ้นบนรถเรียบร้อย ระหว่างทางไปโรงพยาบาลจึงรีบต่อสายหาน้องชายซึ่งคาดว่าตอนนี้น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล
“รดาเป็นอะไร” มือหนาที่กำลังจรดปลายปากกาลงบนกระดาษจำต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินชื่อของใครบางคนในบทสนทนา
“ปวดท้อง ตอนนี้แทบไม่ได้สติแล้ว”
สะโพกหนาลุกพรวดพราดจากเก้าอี้ทันทีเมื่อรับรู้ว่าคนตัวเล็กนั้นกำลังไม่สบายอย่างหนัก หลังจากวางสายร่างสูงหุ่นนายแบบก็สาวเท้าเดินออกจากห้องทันทีตรงดิ่งลงมายังชั้นล่างของโรงพยาบาลที่เป็นส่วนของห้องฉุกเฉิน
“ศาสตราจารย์ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เมื่อเจ้าของโรงพยาบาลปรากฏตัวที่แผนกฉุกเฉินสีหน้าเคร่งเครียดในเวลากลางดึกแบบนี้สร้างความตกใจให้เจ้าหน้าที่ประจำแผนก
“เตรียมห้องฉุกเฉินให้พร้อม ขอศัลยแพทย์สองคน มีคนไข้กำลังเดินทางมาที่โรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้องรุนแรง” กองทัพพยายามควบคุมสติและจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด ปกติด้วยอาชีพที่พบเจอกับการเจ็บป่วยทุกวันเรื่องแบบนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่กับรดาทำให้เขาเกือบควมคุมสติไม่อยู่
เอี๊ยด! เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนบ่งบอกว่ารถคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วก่อนจะเหยียบเบรกกระทันหัน
“รดา เป็นยังไงบ้าง” เสียงราบเรียบถามขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อรถจอดสนิทบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล โดยมีกองทัพยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“หมดสติ ตั้งแต่อุ้มขึ้นมาบนรถแล้ว” รดานอนขดตัวในชุดนอนตัวโคร่งสีฟ้า ใบหน้าและซอกคอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อไหลซึมออกมาจนชุดนอนเปียกชุ่มเหมือนคนพึ่งออกกำลังมาอย่างหนัก
ร่างบางถูกอุ้มลงจากรถด้วยฝีมือของกองทัพ มือหนาทั้งสองข้างค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงบนเตียงที่เจ้าหน้าที่เข็นมารออย่างเบามือเพราะกลัวเธอเจ็บ
“เตรียมเครื่องอัลตราซาวด์ CT SCAN และเจาะเลือดไปตรวจ ผมขอผลทั้งหมดภายใน 30นาที” คุณหมอหนุ่มทำหน้าที่ดูแลเคสพิเศษนี้ด้วยตัวเอง สิ้นเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างวิ่งวุ่นกันหมด
“รดา ได้ยินผมไหม รดา..คุณได้ยินผมไหม” ใบหน้าซีดเผือดนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง คราบน้ำตาที่ไหลออกมาก่อนหน้ายังทิ้งร่องรอยให้เห็น นิ้งเรียวยาวยื่นไปเช็ดให้อย่างเบามือ
“คุณปวดมากไหมรดา อดทนก่อนนะผมอยู่ตรงนี้แล้ว”
“คุณหมอคะ ขออนุญาตค่ะ” กองทัพถอยห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าหน้าที่พยาบาลทำงานได้สะดวก มือหนายังกุมมือบางไว้ตลอดเวลาไม่ยอมปล่อย
“เจาะเลือดเรียบร้อยแล้วค่ะ ขออนุญาตพาคนไข้ไปอัลตราซาวด์และทำCT SCANนะคะ” เด็กสาวในชุดนอนตัวโคร่งกำลังถูกเข็นเข้าห้องเพื่อทำการอัลตราซาวด์และCT SCANร่างกายโดยละเอียดโดยมีกองทัพยืนอยู่ด้วยไม่ยอมห่างไปไหน
30นาทีต่อมา
“ศาสตราจารย์คะ ผลตรวจคนไข้ค่ะ” มือหนายื่นไปรับชาร์จผลตรวจของคนตัวเล็กจากเจ้าหน้าที่ สายตาคมเข้มกวาดสายตาอ่านผลตรวจอย่างละเอียดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มืออีกข้างที่ว่างก็ยังกุมมือเล็กที่ตอนนี้กำลังนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง
“ปวดท้องเป็นไส้ติ่งสินะ คุณโกหกผมทำไมรดาว่าคุณปวดท้องเพราะเป็นประจำเดือน”
“คนไข้เป็นไส้ติ่งอักเสบ เตรียมห้องผ่าตัดและทีมแพทย์ให้พร้อมอีก15นาที เริ่มทำการผ่าตัดครับ”
ห้องผ่าตัด
“Laparoscopic or Keyhole surgery (การผ่าตัดผ่านกล้อง) วิสัญญีแพทย์ให้ยาสลบได้เลยครับ” สิ้นเสียงคำสั่งของกองทัพทีมแพทย์ก็ลงมือทำการผ่าตัดทันที
“ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยนะ” รดาพยายามคิดหาเหตุผลว่าเธอไปทำอะไรให้เขาโกรธขนาดนั้น เพียงแค่เธอไม่โทรหาเขาแค่นั้นคงไม่ใช่..แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกจนผล็อยหลับไปในเวลาต่อมา
ตั้งแตกลางดึกคืนนั้นรดาก็ไม่เห็นหน้ากองทัพอีกเลย มีเพียงเจ้าหน้าที่พยาบาลและคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เธอเข้ามาดูอาการทุกวัน รดานอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 3 วันแล้ว แต่ไร้เงาชายหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลมาเยี่ยมเยียนหรือถามไถ่อาการของเธอเลย มีเพียงทัพบกที่คอยโทรถามอาการเธอทุกเช้า
“คุณพยาบาลคะ วันนี้ คุณกองทัพเข้ามาที่โรงพยาบาลหรือเปล่าคะ” วันนี้วันจันทร์ซึ่งตารางงานของกองทัพวันนี้ชายหนุ่มต้องเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาล
“เข้าค่ะ เห็นมาตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อ้อ..เปล่าค่ะ ขอบคุณคะ”
เมื่อพยาบาลทำการวัดไข้และถอดสายน้ำเกลือออกเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับออกไปเหลือเพียงรดาคนเดียวในห้องกว้างสีขาว โทรศัพท์มือถือถูกหยิบขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายต้องวางกลับลงที่เดิมเพราะไม่กล้าจะต่อสายเพราะไม่รู้ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรที่โทรไปหรือแม้แต่จะส่งข้อความไปก็ไม่รู้ว่าจะพิมพ์อะไรดี
“จะโทรหาไอ้ทัพบกเหรอ มันบินไปต่างประเทศอาทิตย์หนึ่ง” กองทัพเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาไร้ซึ่งเสียงเคาะขออนุญาต ชายหนุ่มหุ่นนายแบบ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราขึ้นเป็นตอสีดำพอให้เห็นเล็กน้อยบ่งบอกว่าไม่ได้รับการดูแลมาหลายวัน ทั้งที่ปกติกองทัพจะโกนหนวดแทบทุกวันเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์การเป็นศาสตราจารย์ด้วย
“เปล่าค่ะ”
“ถ้าคิดถึงมันก็โทรสิ” กองทัพเอ่ยบอกเสียงแข็งสายตายังจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ในมือเด็กสาว
“ฉันไม่ได้จะโทรหาพี่ทัพบก ฉันกำลังจะโทรหา คุ..” คำพูดสุดท้ายถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ โทรศัพท์ถูกวางลงโต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม ไฟหน้าจอยังสว่างจ้าและค้างอยู่รายชื่อในหน้ารายการโทรออก
“ตอนเที่ยงอยากกินอะไร ผมจะโทรสั่งเอกให้ซื้อเข้ามาให้กินข้าวโรงพยาบาลมาหลายวันคงเบื่อ” เสี่ยงทุ้มนุ่มอบอุ่นเอ่ยถามออกไปเมื่อเหลือบไปเห็นรายการโทรออกล่าสุดเมื่อ5นาทีที่แล้วเป็นชื่อของตัวเอง
“ไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ หนูทานข้าวโรงพยาบาลก็ได้” รดาตอบกลับเสียงอ่อยตามอารมณ์คุณหมอหนุ่มไม่ทัน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างไม่รู้สาเหตุจนตอนนี้รดาเริ่มระแวงไปหมดว่าจะทำอะไรให้ไม่พอใจอีกหรือเปล่า
“ลุก”
“ไปไหนคะ”
“ไปห้องผม ผมมีงานต้องทำอีกเยอะแยะ”
“แล้วทำไมฉันต้องไปด้วยคะ”
“เฝ้าคุณก็คืองานสำคัญอีกอย่างของผมเหมือนกันเพราะฉะนั้นลุก ถ้าไม่ลุกผมจะอุ้มคุณไปเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก