ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายใบเล็กดังขึ้นเมื่อมีเสียงเรียกเข้า
“ฮัลโหลครับ” กองทัพกดรับสายเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเชอรี่เพื่อนของรดา
“ฉันกดเบอร์ผิดเหรอ ก็เป็นเบอร์รดานี่”
“ไม่ผิดหรอกครับ นี่โทรศัพท์ของรดา”
“แล้วคุณเป็นใครคะ มารับโทรศัพท์เพื่อนหนูได้ยังไง”
“ผมหมอเธียรวิชญ์ครับ”
“แล้วตอนนี้รดาอยู่ที่ไหนคะ ทำไมคุณหมอถึงมารับโทรศัพท์แทนได้”
“รดาหลับอยู่ครับ ไว้เธอตื่นแล้วผมจะให้โทรกลับนะครับ”
“อ้อค่ะ ขอบคุณค่ะ” เชอรี่กดวางสายอย่างงงๆ พยายามไม่คิดอะไรมากเพราะเพื่อนตนไม่ได้เป็นเด็กใจแตกที่ไปนอนกับผู้ชายง่ายๆ แบบนี้
“เป็นอะไรยัยเชอ ทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้วนี่รดามันกลับมาหรือยัง”
“ยังไม่กลับมา รดามันหลับอยู่”
“มันยังไม่กลับมา แล้วมันจะหลับอยู่ได้ไง สรุปตอนนี้มันอยู่ไหน อยู่ที่โรงพยาบาลหรือหลับอยู่ที่ห้อง”
“หลับ..อยู่ที่โรงพยาบาล”
“อีเชอ กูถามว่ารดามันอยู่ที่โรงพยาบาลหรือหลับอยู่ที่ห้อง”
“ก็บอกว่าตอนนี้มันหลับอยู่ที่โรงพยาบาล กูโทรหามันเมื่อกี้หมอเธียรวิชญ์เป็นคนรับสาย”
“ฮะ!” ทุกคนร้องขึ้นด้วยความตกใจ
“เออ..ตอนนี้รดาหลับอยู่ที่โรงพยาบาล” เชอรี่ตอบย้ำอีกครั้งเสียงดังให้ได้ยินกันชัดเจนทุกคน
“แล้วทำไมมันไปหลับอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะ”
“กูจะรู้ไหม กูก็นั่งอยู่กับพวกมึง”
“แล้วทำไมมึงไม่ถามคุณหมอล่ะ มึงก็วางสายเลยเนี่ยนะทั้งๆ ที่เพื่อนมึงกำลังนอนหลับอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสองเนี่ยนะ”
“ถ้าเป็นคนอื่นกูคงถามไปแล้วแหละ แต่นี่เป็นหมอเธียรวิชญ์กูโอเค” รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นมุมปาก แก้วกาแฟถูกยกขึ้นดูดจนเกือบหมดแก้ว
“เออ..กูก็โอเคคนนี้เลิศ”
โรงพยาบาล
เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมงรดายังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ที่นอนนุ่มๆ บวกกับอากาศเย็นๆ ทำให้นอนสบายและหลับลึก กองทัพที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยก็เดินมาเลือกหนังสือที่ชั้นหนังสือ 3-4เล่มสำหรับทำรายงานที่รดาบอกเมื่อตอนกลางวัน เมื่อได้หนังสือที่ต้องการครบแล้วจัดการเก็บใส่กระเป๋าผ้าเตรียมไว้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าห้องเพื่อไปปลุกคนตัวเล็กที่นอนขี้เซาอยู่บนเตียง
“รดา ตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ไอร้อนเป่ารดต้นคอขาว
“อือ..ขออีก10นาทีนะคะ” ร่างบางพลิกตัวหลบไปอีกฝั่ง
“รดา ถ้าไม่ยอมตื่นผมจะปลุกคุณด้วยวิธีของผมนะ” แผนการอันร้ายกาจผุดขึ้นในหัว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมุมปาก
“ตื่นแล้วค่ะ” ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นทันที ดวงตาเบิกกว้างผมเผ้ายุ่งเหยิง
“หึ! ลุกไปล้างหน้าเดี๋ยวผมจะไปส่งที่ห้อง” เท้าเล็กกระโจนลงจากเตียงวิ่งหายแว็ปเข้าไปในห้องน้ำ
“โตจนป่านนี้ยังทำตัวเป็นเด็กเหมือน5ปีก่อนอีก” กองทัพได้แต่ส่ายหัวและยืนบ่นให้ได้ยินเพียงคนเดียว ก่อนจะเก็บที่นอนให้เรียบร้อยและเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กออกมาจากในตู้
“เช็ดหน้าให้เรียบร้อย” ผ้าขนหนูสีขาวถูกส่งให้เด็กสาว ร่างสูงหุ่นนายแบบยืนพิงตู้เสื้อผ้ามองเด็กสาวไม่วางตา
“คุณหมอออกไปรอหนูด้านนอกก็ได้ค่ะ ไม่ต้องยืนเฝ้าขนาดนี้ก็ได้หนูไม่ขโมยของของคุณหมอหรอกค่ะ” รดาพูดขึ้นเสียงอ่อยทำตัวไม่ถูก หยดน้ำที่เกาะอยู่บนใบหน้าถูกเช็ดออกจนแห้งสนิท ใบหน้าที่พึ่งผ่านการล้างทำความสะอาดไร้เครื่องสำอางเผยให้เห็นผิวขาวเนียนใสไร้จุดด่างดำส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
“ผมไม่มั่นใจ เผื่อคุณติดใจที่นอนนุ่มๆ ของผมแล้วขโมยกลับบ้านด้วยจะทำไง”
“ที่นอนใหญ่ขนาดนี้ หนูคงพับยัดใส่กระเป๋าได้หรอกนะคะ”
“เสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วก็กลับกันได้แล้ว ผมจองร้านอาหารไว้ตอนหนึ่งทุ่ม..เดี๋ยวไม่ทัน”
“อ๊ะ! คุณหมอเป็นคนเก็บที่นอนนี่เหรอคะ”
“อยู่กันในห้องแค่สองคน คิดว่าไงล่ะ” ชายหนุ่มพูดจบเอามือล้วงกระเป๋าเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางสบาย
บนรถ
ระหว่างทางนั่งรถกลับบ้าน การจราจรค่อนข้างติดขัดกว่าทุกวันเพราะก่อนหน้านี้ฝนตกหนักส่งผลให้รถเกิดการชะลอตัว สองฝั่งถนนเต็มไปด้วยน้ำขังบริเวณที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
“นี่ไม่ใช่ทางกลับห้องหนูนี่คะ” เมื่อมองสองฝั่งถนนไม่ใช่เส้นทางกลับบ้าน ใบหน้าเรียวเล็กหันมองหน้าชายหนุ่มตั้งคำถามขึ้นเสียงแข็ง
“ผมจองร้านไว้ตอนหนึ่งทุ่ม และจำได้ว่าบอกคุณไปแล้วเมื่อ54,000 วินาทีที่แล้ว” ตอบกลับเสียงเรียบขณะที่สายตายังจดจ้องการจราจรข้างหน้า
“หนูไม่ได้รับปากว่าจะไปกับคุณซะหน่อย” รดาแย้งขึ้นทันควัน ปั้นหน้าบึ้งเหมือนกับเด็กโดนบังคับ
“ตอนแรกก็ไม่เห็นปฏิเสธ มาจนถึงครึ่งทางแล้วผมไม่เลี้ยวรถกลับหรอกนะ”
“ถ้างั้นก็จอดตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้า หนูกลับเองก็ได้”
“กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ที่สั่งไว้ คงต้องเททิ้งสินะ”
“ปะ..ไปก็ได้ค่ะ” รดาร้องขึ้นเสียงดังเมื่อได้ยินเมนูอาหารที่กองทัพสั่งไว้นั้นเป็นของโปรดของเธอ ขณะที่รถยนต์คันหรูกำลังชะลอความเร็วลง เปิดไฟเลี้ยวกะพริบมือเรียวยาวกำลังหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง
“หึ”
ทั้งสองใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงร้านอาหารชื่อดังที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศเป็นลานเปิดโล่งประดับด้วยไฟสีส้มดวงเล็ก ตกแต่งเข้ากับบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายมีเสียงคลื่นกระทบผนังปูนกั้นริมฝั่ง ให้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งอยู่ริมทะเล
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” พนักงานเข็นอาหารมาเสิร์ฟ ทั้งรถเต็มไปด้วยอาหารซีฟู้ดหลายอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลมาครบทุกอย่างยกเว้นปะการัง
“คุณหมอสั่งมาเยอะจังคะ เราจะทานกันหมดเหรอ”
“ได้ข่าวว่าเด็กแถวนี้กินจุ” สิ้นประโยคกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ที่แกะเปลือกมาพร้อมรับประทานถูกตักไปวางใส่จานตรงหน้าเด็กสาว
“ขะ..ขอบคุณค่ะ” รอยยิ้มบางมุมปากถูกส่งกลับไปพร้อมคำขอบคุณ สายลมเบาๆ พัดปอยผมปกคลุมใบหน้า
“จะกินผมเข้าไปด้วยอยู่แล้ว” มือเรียวยาวยื่นมาเขี่ยปอยผมไปทัดไว้ที่ใบหู แก้มเนียนใสตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตก้มลงมองกุ้งตัวโตในจานไม่กล้ามองสบตากับชายหนุ่ม
“ก็ลมมันพัดแรงนี่คะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก