ตอนที่ 143 ยืมข้าว
“อะไรนะ สองเท่าเชียวหรือ เช่นนั้น ตอนนี้เงินหนึ่งเฉียนซื้อข้าวได้เท่าไร” หญิงชราร้อนใจนัก
เจ้าใหญ่ส่ายหน้า “นั่นข้าก็ไม่รู้ ข้ายังไม่ได้ไปในเมือง”
หลิวซื่อรีบออกความคิด “ท่านแม่ เช่นนั้นพวกเราก็อย่าเพิ่งซื้อ ไปยืมข้าวบ้านคนอื่นมาสักหน่อยดีกว่า ผ่านไปสักพักราคาข้าวลงแล้ว พวกเราค่อยไปซื้อมาก็ได้ไม่ใช่หรือ”
จางซื่อยิ้มเย็น ปกติหลิวซื่อผู้นี้ฉลาดทีเดียว แต่ความจริงแล้วไร้สมองเป็นที่สุด ไร้สมองก็ไร้สมองเถอะ นางยังชอบทำเป็นฉลาด เพราะอยากแสดงความสามารถของตนเอง ถึงได้บอกว่าคนอื่นเป็นคนโง่
เจ้าใหญ่โบกมือ “ตอนนี้คนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้หมดแล้ว ใครจะยังให้พวกเรายืมข้าวอีกเล่า เมื่อครู่พบท่านน้าเหลียง นางบอกเร่งให้พวกเรารีบคืนข้าวหนึ่งโต่วที่ยืมพวกนางไปอยู่เลย”
เขานึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง รีบกล่าวว่า “อ้อจริงสิ เมื่อครู่ได้ยินเหล่าซื่อบอกว่า วันนี้ไป๋จื่อกับหูเฟิงเข้าเมืองมา ลากข้าวและแป้งกลับมาด้วยหนึ่งคันรถ คาดว่านางรู้เรื่องราคาข้าวจะขึ้นเช่นกัน ถึงได้ซื้อมามากมายเช่นนั้น”
“หนึ่งคันรถ? นั่นเป็นเงินเท่าไร” หญิงชรามีสีหน้าเจ็บปวดใจ ราวกับไป๋จื่อใช้เงินของนางไปก็ไม่ปาน
เจ้าใหญ่ส่ายหน้า “นั่นใครๆ ก็รู้ว่าต้องไม่น้อยกระมัง แม้จะบอกว่าตอนนี้นางมีเงินแล้ว แต่ก็ไม่อาจใช้จ่ายเช่นนั้นได้ ต้องเป็นหูจ่างหลินที่ยุยงใช้นางใช้เงินเช่นนั้นแน่ เป็นแบบนี้แล้ว สกุลหูไม่ใช่ว่ากินข้าวของของนางได้ตามใจชอบหรือ หนึ่งปีไม่ต้องซื้อข้าวก็ยังได้”
หญิงชรายิ่งฟังก็ยิ่งปวดใจ หนึ่งร้อยตำลึงเงินของไป๋จื่อและจ้าวหลาน เดิมควรจะเป็นเงินของพวกตนสิ
ตอนนี้กลับถูกไป๋จื่อนำไปเลี้ยงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเหล่านั้น แล้วนางจะทนความโกรธนี้ได้อย่างไร
เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคร่ำเคร่งของมารดา เจ้าใหญ่ก็รีบถามว่า “ท่านแม่ ท่านคิดจะทำอย่างไร”
หญิงชราก้มลงมองถังข้าวที่ว่างเปล่า พลางกัดฟันกล่าว “ในเมื่อนางเลี้ยงคนสกุลหูได้ เช่นนั้นพวกเราคนสกุลไป๋ก็ต้องให้นางเลี้ยงเช่นกัน ไป ไปเอาข้าวมาจากนาง”
เจ้าใหญ่นึกถึงหูเฟิงในทันที เขารีบส่ายหน้า “ข้าไม่ได้ ถ้าจะไปพวกท่านก็ไปเถอะ”
จางซื่อก็กล่าวเช่นกัน “ข้าก็ไม่ไปเจ้าค่ะ”
แม่สามีถลึงตามองนางครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หันไปเรียกเจ้ารองที่ ‘นอนเป็นศพ’ อยู่ในห้อง “เจ้ารอง ฟู่กุ้ย ออกไปกับพวกข้าหน่อย”
แม้เจ้ารองจะไม่ได้ออกจากห้อง แต่ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอกอย่างชัดเจน พี่ใหญ่กับภรรยาต่างพูดแล้วว่าไม่ไป เช่นนั้นเขาก็จะไม่ไปเหมือนกัน
“ท่านแม่ ก้นของข้ายังเจ็บอยู่เลย ฟู่กุ้ยก็ยังไม่หายเช่นกัน พวกท่านอยากไปก็ไปเถิด พวกข้าไปไม่ไหว”
หญิงชราโมโหไม่น้อย แต่กลับอดกลั้นไว้ไม่ว่าอะไร ส่วนหลิวซื่อทนความโกรธนี้ไม่ไหวแล้ว นางกล่าวเสียงแหลม “ได้ พวกเจ้าบ้านรองไม่ไปใช่หรือไม่ ตกลง อีกเดี๋ยวพวกข้านำข้าวกลับมาแล้ว พวกเจ้าอย่ากินก็แล้วกัน”
จางซื่อกล่าวเสียงเรียบ “ได้ เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้” พวกนางยังคิดจะไปขอข้าวจากไป๋จืออีกหรือ ไป๋จื่อไม่ปล่อยสุนัขมากัดพวกนางก็นับว่าไม่เลวแล้ว
เจ้าใหญ่มองจางซื่อด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง “ข้าว่านะน้องสะใภ้ ตอนนี้มือทั้งสองข้างของข้าไม่สะดวก ไม่เช่นนั้นจะต้องไปกับพวกนางแน่ น้องสะใภ้ก็ไม่ได้ไม่สะดวกตรงไหน เหตุใดไม่ไปเล่า”
จางซื่อหมุนกาย หันหลังให้กับเจ้าใหญ่ แล้วเดินกลับห้องของตนเองไป นางเดินไปพลาง กล่าวไปพลางว่า “ข้าเพียงไม่อยากไปทำเรื่องไร้ประโยชน์”
เมื่อเข้าห้องไป นางก็ปิดประตูเสียงดังโครม
เจ้ารองผุดกายลุกขึ้น ก่อนจะดึงจางซื่อมาข้างๆ แล้วเอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าคิดว่าท่านแม่กับพี่สะใภ้จะไม่ได้ข้าวมาจริงๆ หรือ”
นางแค่นหัวเราะ “หากมีเพียงจ้าวหลานอยู่ที่บ้าน ก็อาจจะได้มาเล็กน้อยกระมัง แต่ถ้าไป๋จื่ออยู่ด้วยเช่นกัน พวกนางไม่มีทางได้ข้าวมาแม้แต่เม็ดเดียว อีกทั้งยังต้องถูกไป๋จื่อทำให้อับอาย เจ้าเชื่อหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...