คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 229

ตอนที่ 229 หญิงชราเป็นคนร่ำรวยขนานแท้

เมื่อคิดถึงความยากลำบากที่ได้เจอเพราะไป๋จื่อและจ้าวหลานก่อนหน้านี้ หญิงชราก็รู้สึกลังเลขึ้นมาบ้าง หากไป๋จื่อไม่อยู่ มีจ้าวหลานอยู่เพียงลำพังล่ะก็ นั่นอาจจะยังมีโอกาสอยู่บ้าง

เด็กสาวไป๋จื่อช่างใจแข็งนัก ไม่อาจหาประโยชน์ใดจากมือนางได้เลย

ทว่าท้องหิวจนทรมานแล้วจริงๆ นางกินผักป่าจนแทบจะเป็นบ้าแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตัดใจนำเงินที่ซ่อนไว้ในหีบออกมาซื้อเสบียงอาหารไม่ได้…

นางเหลียวซ้ายแลขวา เห็นว่ามีคนซักผ้าและตากลมอยู่ริมแม่น้ำไม่น้อย บางทีต่อหน้าคนในหมู่บ้านเช่นนี้ อย่างไรพวกนางก็ต้องไว้หน้าอยู่บ้าง อย่างน้อยนางก็เป็นย่าของไป๋จื่อ เลี้ยงนางเด็กผู้นี้มาสิบสองปี หรือแม้แต่แตงดินสักสองสามหัวก็ให้ไม่ได้?

หลังจากตัดสินใจแล้ว หญิงชราสกุลไป๋ก็พาหลิวซื่อไปยังข้างกายของจ้าวหลานและไป๋จื่อ ทำท่าทางสนอกสนใจมองมันฝรั่งที่อยู่ในถุง “นี่ กำลังล้างอะไรอยู่หรือ”

สองแม่ลูกหันไปมองนางครั้งหนึ่ง ก่อนจะมุ่นคิ้วพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนสกุลไป๋ช่างไม่ยอมเลิกราเลยจริงๆ

จ้าวหลานก้มหน้าลง ล้างมันฝรั่งของนางต่อไป ทว่าไป๋จื่อกลับยังคงเงยหน้าเล็กๆ เช่นเดิม ยิ้มกล่าวว่า “ท่านย่าเป็นคนร่ำรวยขนานแท้ แม้แต่อแตงดินก็ไม่รู้จักเช่นนี้ ดูท่าปกติจะได้กินแต่ปลาและเนื้อดีๆ ไม่กินอาหารคุณภาพต่ำของชาวบ้านเช่นนี้”

หลิวซื่อยิ้มเจื่อน “จื่อยาโถวพูดจาน่าสนใจจริงๆ อาหารมีแบ่งแยกคุณภาพต่ำสูงอะไรกัน ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เติมท้องให้อิ่มได้ทั้งนั้น”

ไป๋จื่อกลับส่ายหน้า “เมื่อก่อนข้าก็คิดเช่นนั้น ทว่าตั้งแต่ได้ยินที่เจ้าพูดกับท่านย่าครั้งก่อน ข้าถึงได้ความรู้ใหม่ ว่าอาหารมีแบ่งแยกคุณภาพสูงต่ำด้วย”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวซื่อตะลึงไปเล็กน้อย “ข้ากับท่านแม่พูดอะไร” เมื่อถามออกไปแล้ว นางก็เริ่มรู้สึกเสียดาย ไป๋จื่อผู้นี้ไม่มีทางพูดอะไรดีๆ ออกมาได้ ไม่ควรให้โอกาสเด็กสาวได้มีโอกาสพูดเลย

แต่เวลานี้สายไปแล้ว!

ไป๋จื่อวางมันฝรั่งในมือลง แล้วล้างมือที่เปื้อนดินในแม่น้ำจนสะอาด จากนั้นนางถึงผุดลุกขึ้น ขณะเดียวกันก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองหลิวซื่อด้วยแววตาทอประกาย “เจ้ากับท่านย่าบอกว่า โจ๊กและผักที่บ้านเป็นสิ่งที่ให้คนกิน มีเพียงสิ่งที่พวกเจ้ากินเหลือ หรือสิ่งที่ใกล้จะเสีย ถึงจะเป็นสิ่งที่ให้สัตว์กิน และในสายตาของพวกเจ้า ข้าและท่านแม่ของข้าก็คือสัตว์ ทำงานหนักที่สุด กินอาหารน้อยและย่ำแย่ที่สุด แม้แต่วัวหรือม้ายังดีเสียกว่า ความจริงแล้วในสายตาพวกเจ้า เกรงว่าพวกข้าจะสู้หมูหรือสุนัขไม่ได้กระมัง”

สีหน้าของหลิวซื่อและหญิงชราเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก พวกนางจะคิดถึงได้อย่างไร ว่าไป๋จื่อจะพูดถึงเรื่องในอดีตในตอนนั้นที่นี่

เมื่อรู้สึกถึงสายตาเหยียดหยามจากรอบด้านที่มองมาทางพวกนาง พวกนางถึงจะรู้ตัว ว่านางพูดเรื่องเหล่านั้นในเวลานี้ เป็นการพูดให้คนอื่นได้ยินอย่างไม่ต้องสงสัย ถือโอกาสรับความเห็นใจจากทุกคน ทำให้ตนเองดูเหมือนว่าไม่ได้รับความยุติธรรม

หญิงชราโกรธจนแทบคลั่ง นางเพียงแค่ถามว่าพวกนางกำลังล้างอะไรอยู่ ไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่นเลยสักนิด c9’fboก็ไม่ได้ ยังต้องกลายเป็นคนสารเลวอีกหรือนี่

ไม่ได้ นางจะไม่ทนรับความอัปยศเช่นนี้

หญิงชราปั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเหี่ยวย่น รอยยิ้มของนางน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าเวลาร้องไห้อีก

“จื่อยาโถว เจ้าจะต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ๆ ข้ากับป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าไม่เคยพูดอะไรเช่นนั้น ถึงแม้จะเคยพูด ก็ไม่ได้ว่าพวกเจ้าอย่างแน่นอน เจ้าหูฝาดแล้ว”

ไป๋จื่อยักไหล่ “อาจจะเป็นไปได้กระมัง ข้าอาจจะหูฝาด แต่เมื่อก่อนข้ากับท่านแม่ของข้าต้องกินอาหารเหลือ บางครั้งท่านแม่ของข้าทำงานกลับมาถึงบ้านช้า ก็ไม่เหลือแม้แต่อาหารเหลือให้กิน ชีวิตเช่นนี้เป็นปกติของครอบครัวเรา เรื่องเหล่านี้เจ้าจะปฏิเสธหรือ”

เรื่องนี้หญิงชราและหลิวซื่อปฏิเสธสักคำก็ใช้ได้แล้ว ไม่มีใครในหมู่บ้านรู้ไม่ใช่หรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา