คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 283

ตอนที่ 283 กระโดดหน้าผา

หลังจากเสียงป้องกันลูกธนูดังตึงตังระลอกหนึ่งผ่านไป ก็มีเสียงการต่อสู้ดังมาจากข้างนอก ดูท่าทางคนที่ซุ่มโจมตีอยู่ในป่าจะออกมาแล้ว

นางลอบลุกขึ้นไปที่หน้าประตูรถ ก่อนจะยื่นหน้าครึ่งหนึ่งออกไปมองข้างนอก เห็นคนปิดหน้าปิดตา แต่งกายด้วยชุดดำคนหนึ่ง ถูกหูเฟิงเตะคว่ำลงกับพื้น ทำให้ผ้าบังหน้าของเขาถูกลมพัดจนเปิดออกเสียครึ่งหนึ่ง เพราะการล้มลงอย่างแรงก่อนหน้านี้

ไป๋จื่อเห็นใบหน้านั้นพอดิบพอดี เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยมากทีเดียว คนผู้นี้ไม่ใช่เด็กรับใช้ที่รังแกอาอู่ก่อนหน้านี้หรอกหรือ?

เช่นนั้น…คนที่ซุ่มโจมตีพวกนางในวันนี้ คือคนของเถ้าแก่เฉียนหรือ และเถ้าแก่เฉียนก็เป็นพี่เขยของใต้เท้ากู้

หึ เมิ่งหนานเพิ่งจะจากไป เขาก็ร้อนใจมาลงมือกับนาง ดูท่าเขาจะเห็นเมืองชิงหยวนเป็นหลังบ้านของสกุลเฉียนและกู้ไปแล้วจริงๆ

ทันใดนั้นพลันมีลูกธนูทลายลมพุ่งมาอีก ลูกธนูดอกนั้นพุ่งเข้ามาหาไป๋จื่อ นางรีบหดตัวหลบอย่างรวดเร็ว รอดพ้นจากลูกธนูที่หมายเอาชีวิตดอกนี้ไปได้อย่างเฉียดฉิว ธนูแหลมคมเฉียดปอยผมของนางไป ก่อนจะปักลงบนก้นม้าเข้าอย่างจัง

เดิมทีม้าก็ตกใจกลัวเพราะการจู่โจมที่มาอย่างกะทันหันอยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าของไม่ได้ล่ามมันไว้ มันจึงไม่กล้าเคลื่อนไหวไปไหนตามใจชอบ ทว่าตอนนี้ธนูปักลงบนก้นของมันแล้ว ทำเอามันร้องครวญครางเสียงหลง สาวเท้าวิ่งเตลิดไป

หูเฟิงจัดการลูกสมุนสองคนทิ้งได้พอดี ขณะกำลังคิดจะไปลากคอคนที่ปล่อยธนูออกมาจากในป่าไม่ยอมหยุดออกมา จู่ๆ รถม้าก็วิ่งไปอย่างบ้าคลั่ง และบนรถม้ายังมีไป๋จื่ออยู่ด้วย

เขาห้อตะบึงตามรถม้าไปในทันที

ม้าวิ่งอยู่บนทางนาราวกับเป็นบ้า ไป๋จื่ออยากคว้าบังเหียนไว้ ทว่าตัวรถสั่นสะเทือนมากจริงๆ จนข้าวของภายในกลิ้งเกลือกไปมา นางไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้โดยสิ้นเชิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการดึงบังเหียนบังคับม้าเลย

ทางภูเขาข้างหน้าคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ หากยังวิ่งโคลงเคลงไปข้างหน้าต่อไป ไม่นานรถม้าก็จะแยกชิ้นส่วน ไป๋จื่ออาจจะตกหน้าผาไปพร้อมกับรถม้าก็เป็นได้

หูเฟิงตามรถม้าไปอย่างเต็มกำลัง เขาเหมือนกับเทพสวรรค์ที่ลงมาจุติจากเบื้องบน ปรากฏกายต่อหน้าไป๋จื่อที่กำลังหมดหนทางและตกใจกลัว แล้วยื่นมือให้นาง “มานี่เร็ว”

วินาทีที่นางเห็นเขา ความตกใจและหวาดกลัวก็พลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง นางรู้ว่าขอเพียงมีเขาอยู่ ก็ย่อมไม่มีทางเกิดอันตราย ขอเพียงมีเขาอยู่ ไม่ว่าอะไรนางก็ไม่กลัวทั้งนั้น

นางยื่นมือไปให้เขา ก่อนที่เขาจะจับมือนางไว้แน่นขนัด แล้วออกแรงดึงนางเข้าหาหน้าอกของตนเอง เขาโอบเอวบางของนางด้วยแขนข้างเดียว สุดท้ายก็กระโจนตัวครั้งหนึ่ง เพื่อกระโดดลงจากรถม้าบ้าคลั่งที่สูญเสียการควบคุมไปแล้ว

ทว่าสวรรค์ไม่เป็นใจ ขณะที่เขาพานางกระโดดออกจากรถม้า บนภูเขาพลันมีหินขนาดยักษ์ถล่มลงมานับไม่ถ้วน กำลังพุ่งใส่พวกเขาอย่างแรง

หูเฟิงโอบไป๋จื่อหลบหลีกอยู่ระหว่างหินก้อนใหญ่ที่กลิ้งเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่หนทางบนภูเขาคดเคี้ยวยิ่ง ครั้นหินก้อนเบ้อเริ่มพุ่งเข้าใส่ศีรษะของพวกเขา ชายหนุ่มไร้หนทางเลือก ทำได้เพียงพานางกระโดดลงจากหน้าผาที่ไม่รู้ว่าสูงมากเท่าไร

นางแนบชิดอยู่บนหน้าอกของเขา พลางหลับตาปี๋ ได้ยินเพียงเสียงลมหวีดหวิวอยู่ข้างใบหู ปล่อยให้ร่างกายของนางและหูเฟิงร่วงหล่นลงด้านล่าง

ชายหนุ่มชักกระบี่ด้ามยาวแทงเข้าไปบนหินผา เพื่อลดแรงกระแทกยามต้องตกลงไป

ครั้นเห็นว่าใกล้จะถึงพื้นแล้ว เขาก็ออกแรงพลิกตัวอย่างเต็มกำลัง ให้ไป๋จื่อแนบชิดกับตัวเขายิ่งกว่าเดิม ใช้ตนเองเป็นโล่มนุษย์ให้กับนาง

เสียง ‘ปัง’ ดังสนั่นหวั่นไหว ร่างกายของเขากระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง ทว่านางนอนคว่ำอยู่ในอ้อมกอดของเขา โดยที่ไม่บุบสลายแม้สักกระผีก

นางลืมตาที่ผปิดสนิทขึ้นทันควัน มองหูเฟิงที่นอนหงายอยู่บนพื้น ส่วนตัวนางอยู่ภายใต้การป้องกันด้วยอ้อมอกของเขา

เด็กสาวรีบลุกขึ้นจากร่างกายของอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดร่างของเขา “เป็นอย่างไรบ้าง ยังอยู่ดีหรือไม่”

หูเฟิงไม่ตอบนาง ยังคงหลับตาทั้งสองข้างสนิท

……….

ตอนที่ 284 ป่าเขาลำเนาไพร

บัดนี้นางเพิ่งพบว่าหูเฟิงสลบไปแล้ว สีหน้าของเขาก็ดูไม่ค่อยดีเสียด้วย

หลังจากนางประคองหูเฟิงขึ้นมาแล้ว ก็เห็นว่าบนพื้นมีก้อนหินโชกเลือดอยู่ก้อนหนึ่ง นางพลันยื่นมือไปสัมผัสศีรษะของเขา และเจอของเหลวเหนียวหนืดเต็มมือจริงๆ

บัดซบ ศีรษะของเขาถูกกระแทกอีกแล้ว

นางพลิกร่างของหูเฟิงลง เพื่อตรวจสอบบาดแผลบนท้ายทอยของเขา

ขอบคุณฟ้าดิน บาดแผลนี้ไม่นับว่าสาหัสมาก ที่เขาสลบไปในตอนนี้น่าจะเป็นเพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน ทว่าก็ไม่อาจคลายใจได้ เพราะไม่อาจบาดเจ็บได้อีกเป็นครั้งที่สอง ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ย่อมร้ายแรงจนเกินจินตนาการเป็นแน่

กระบี่เหล็กที่ผิดรูปผิดร่างตกอยู่ข้างหลังนาง โชคดีที่หูเฟิงใช้มันปักเข้าใส่หินผาเรื่อยมา ลดความเร็วขณะที่พวกเขาตกลงมาได้ ไม่เช่นนั้นสภาพของพวกเขาในตอนนี้ต้องร้ายแรงเป็นแน่

ตอนนี้ยังคงมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลของหูเฟิง นางรีบหยิบห่อเข็มออกมาอย่างว่องไว หลังจากจัดการบาดแผลอย่างง่ายๆ แล้ว ก็ฝังเข็มให้เขาเพื่อหยุดเลือดทันที

ฝังเข็มห้ามเลือดเป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ ในยุคปัจจุบันแทบจะไม่มีใครสืบทอดวิชาฝังเข็มนี้แล้ว เพราะในยุคปัจจุบันมีวิธีการห้ามเลือดมากมายนัก ทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก อย่างน้อยก็มากกว่าวิธีฝังเข็มห้ามเลือดมากนัก ผู้ที่ใช้วิธีการนี้ห้ามเลือดจึงลดน้อยลงเรื่อยๆ

ไป๋จื่อเองก็ได้เรียนรู้มันจากตำราแพทย์สมัยโบราณเล่มหนึ่งโดยบังเอิญ แต่ไหนแต่ไรนางเป็นคนหัวดี สมองของนางบรรจุวิชามากมายไว้ในนั้นโดยที่ไม่กดดัน ทว่าก็เสียเวลาเรียนวิชาฝังเข็มนี้ไปไม่น้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง นางไปออกค่ายตามชนบท ขณะนั้นขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเพราะวิชาฝังเข็มที่ปกติแล้วใครต่อใครก็ดูถูกนี่เอง นางถึงช่วยชีวิตที่อยู่ในช่วงเวลาวิกฤติเพราะบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมากไว้ได้มากมาย และเพราะวิชาฝังเข็มนี้ นางถึงได้ถูกจดจำว่ามีฝีมือเป็นที่หนึ่ง

เมื่อไม่มีเลือดไหลออกจากบาดแผลแล้ว ลมหายใจของหูเฟิงก็กลับมาคงที่ดังเดิม ชีพจรและการเต้นของหัวใจล้วนเป็นปกติมาก ในที่สุดนางก็วางใจลงได้เสียที จึงถอดเสื้อตัวนอกของตนเองปูบนพื้น ให้หูเฟิงตะแคงข้างนอนลงบนนั้น ศีรษะหนุนบนเสื้อผ้าของนาง

นางมองภูมิประเทศรอบข้าง เมื่อหูเฟิงตื่นแล้ว พวกเขาต้องรีบไปจากที่นี่ เมื่อตกกลางคืนแล้ว สถานที่แห่งนี้อาจจะมีสัตว์ป่าเคลื่อนไหวก็เป็นได้ นางไม่อยากกลายเป็นอาหารเย็นของสัตว์ป่าดุร้ายตัวไหนหรอกนะ

หูเฟิงสลบไสลไม่ได้สติ นางก็ไม่กล้าเดินไปไหนไกล ได้แค่เก็บท่อนไม้มาถือไว้ในมือ พลางมองทั่วทั้งสี่ทิศอย่างระแวดระวัง แม้ดูแล้วที่นี่น่าจะไม่มีบ้านเรือน ทว่าก็ไม่ใช่สถานที่อันตราย นางเห็นมูลวัวที่ใต้ต้นไม้ ไปจนถึงรอยเท้าคน มูลวัวเองก็ยังไม่แห้งสนิท เห็นได้ชัดว่ามันอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเท่าไรนัก

ในเมื่อมีวัวและมีคน เช่นนั้นก็ยืนได้ว่าละแวกนี้ต้องมีคนอาศัยอยู่ เมื่อมีคนอาศัยอยู่ ก็ย่อมมีหนทางรอด

นางคลายใจลงได้บ้างแล้ว ก่อนจะเห็นลำธารสายเล็กๆ อยู่ไม่ไกล น้ำในนั้นใสสะอาดนัก นางจึงรีบนั่งยองลงล้างครบเลือดที่เปื้อนบนมือทิ้ง ก่อนจะหาใบไม้ที่กว้างพอแถวนั้นๆ เพื่อม้วนสำหรับใส่น้ำ

เพื่อไม่ให้น้ำภายในใบไม้หก นางประคองมันไปอย่างระมัดระวัง ก้าวเท้าเร็วๆ เดินไปหาหูเฟิง ระหว่างทางสะดุดก้อนหินเข้า นางเจ็บจนต้องกัดฟัน ทว่ามือกลับยังคงประคองน้ำเล็กน้อยที่เหลืออยู่ในมือไว้อย่างมั่นคง

นางมือนิ่งเสมอมา จึงไม่เสียสมดุลไปเพราะความเจ็บปวดอื่นบนร่างกาย นี่เป็นความสามารถที่นางได้มาจากการฝึกถือมีดในห้องผ่าตัดทุกวี่วัน

หูเฟิงตื่นแล้ว เขาปวดหัวอย่างมาก ราวกับมีใครทุบหัวสมองของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ยอมหยุด

ตรงหน้าพร่าเลือนไปชั่วขณะสั้นๆ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ มองเห็นทิวทัศน์รอบข้างชัดเจน ดูท่าพวกเขาจะตกลงมาจากเนินเขา ครั้นหันมองโดยรอบแล้ว เขากลับไม่เห็นวี่แววของไป๋จื่อ ทว่าบนพื้นกลับมีเสื้อผ้าของนางปูรองไว้

เด็กสาวผู้นี้หายไปที่ไหนกันนะ ป่าเขาลำเนาไพรเช่นนี้ นางไม่กลัวสัตว์ป่าคาบไปเลยกระมัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา