ตอนที่ 305 ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
“ท่านแม่ ท่านไปต้มน้ำสักหม้อหนึ่งนะเจ้าคะ ส่วนท่านลุงหู ท่านเตรียมกะละมังถ่านสองใบ นำถ่านไม้สองก้อนไปจุดในเตา ไม่ต้องมาก สองก้อนก็พอแล้วเจ้าค่ะ พี่อู่ ท่านช่วยข้าจัดการลิ่นที หลังจากน้ำเดือดแล้ว ท่านนำลิ่นลงไปลวกสักหน่อย จากนั้นก็เลาะเกล็ดบนตัวมันออก เมื่อล้างให้สะอาดแล้ว ก็ตากให้แห้งสนิทดี ข้าจะฝังเข็มให้หูเฟิงก่อน แล้วจะมาคั่วมันอีกที”
ทั้งสามคนพยักหน้าหงึกหงัก แล้วแยกย้ายกันไปทำงานอย่างรวดเร็ว
หลี่เฉิงและอู๋เจียงเห็นว่าไม่มีงานของตนเอง จึงบอกลาเพื่อกลับไปทำงานก่อสร้าง
ไป๋จื่อนำล่วมยาออกมาจากในห้อง ก่อนจะมองหูเฟิงที่มีสีหน้าซีดขาว ไร้สติโดยสิ้นเชิง นางรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย ที่หูเฟิงต้องมารับเคราะห์เช่นนี้เพื่อช่วยนาง
หลังจากขยี้จมูกที่จู่ๆ ก็รู้สึกแสบร้อนขึ้นมาแล้ว นางก็นั่งลงที่ข้างเตียง เปิดล่วมยาออก นำเข็มออกมาเข็มแล้วเข็มเล่า แล้วแทงเข็มบริเวณโดยรอบศีรษะอย่างต่อเนื่อง
มีเพียงการฝังเข็มและการใช้ยาละลายลิ่มเลือด ถึงจะขจัดเลือดคั่งในสมองของเขาได้ในเวลาสั้นๆ
เมื่อฝังเข็มเสร็จแล้ว อาอู่กับลุงหูก็ตระเตรียมถอดเกล็ดลิ่นตามวิธีที่นางบอกแล้วเรียบร้อย
เด็กสาวแม้กระทั่งไม่สนใจจะทำความสะอาดคราบเลือดบนร่างกายตนเอง นางไปคั่วเกล็ดลิ่นที่ห้องครัวในทันที ครั้นคั่วดีแล้วก็ค่อยแช่มันลงไปในน้ำส้มสายชู ขณะเดียวกันกะละมังถ่านก็เตรียมพร้อมแล้ว
จ้าวหลานนำกะละมังถ่านสองใบไว้ที่ลานด้านหลัง “จื่อเอ๋อร์ เจ้าจะใช้กะละมังถ่านทำอะไรหรือ”
ไป๋จื่อนำหม้อเล็กๆ ออกจากในห้องครัวสองใบ ใบหนึ่งใช้สำหรับต้มน้ำแกง ใบหนึ่งใช้สำหรับต้มน้ำ
นางคว่ำหม้อสองใบลงบนกะละมังถ่าน ไม่นานที่ก้นหม้อก็เริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว
เด็กสาวนำเกล็ดลิ่นออกจากน้ำส้มสายชูทีละเกล็ด ปูราบไว้ที่ก้นหมอ จากนั้นก็นำปลิงที่ยังตากไม่แห้งดีไว้ด้านบนนั้นเช่นกัน
ระหว่างทำทุกอย่างอยู่นั้น นางยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อ พลางกล่าวกับจ้าวหลานว่า “ท่านแม่ สองสิ่งนี้ต้องตากให้แห้งก่อนถึงจะใช้ได้ ทว่าวันนี้แดดแรงไม่พอ ตากทั้งวันก็น่าจะยังใช้ไม่ได้ อยากให้พวกมันแห้งโดยเร็วที่สุด ก็มีแต่ใช้วิธีการนี้เจ้าค่ะ”
ทั้งสามคนเข้าใจในทันที อาอู่ยิ้มกล่าวว่า “แม่นางไป๋ฉลาดจริงๆ คิดถึงวิธีเช่นนี้ได้ด้วย ถ่านก้อนหนึ่งเผาไหม้อยู่ด้านใน อุณหภูมิก็จะไม่สูงจนเกินไป ไม่ถึงกับทำให้สิ่งเหล่านั้นไหม้ ทั้งยังตากพวกมันให้แห้งได้ไวที่สุด ช่างเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมนัก”
ไป๋จื่อหัวเราะพลางโบกมือ “นี่ไม่นับว่าเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมอะไรหรอกเจ้าค่ะ ก็แค่งานเล็กน้อยเท่านั้น ข้า…” นางยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ ตรงหน้าก็เป็นสีดำสนิท เกือบจะล้มลงกับพื้น โชคดีที่จ้าวหลานอยู่ข้างกายนาง จึงเร่งเข้ามาประคองไว้ทัน
“จื่อเอ๋อร์เป็นอะไรไป” จ้าวหลานถามด้วยความร้อนใจ
ตรงหน้าของไป๋จื่อกลับมาสว่างไสวเหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่นางรู้สึกเวียนศีรษะยิ่งนัก
นางยกมือขึ้นจับหน้าผากของตนเอง มันร้อนลวกจริงอย่างที่นางคิดไว้ เมื่อคืนนอนตากลมหนาว บวกกับเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน บัดนี้จึงไข้ขึ้นสูง นางคาดการณ์ทุกอย่างนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เด็กสาวส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป พักสักหน่อยคงจะดีขึ้น”
ท่านลุงหูรีบกล่าว “เช่นนั้นเจ้ารีบไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ พวกข้าจัดการของพวกนี้เองได้”
จ้าวหลานประคองไป๋จื่อ เตรียมจะพานางเดินไป ทว่าได้ยินเสียงของหูเฟิงดังมาจากในเรือน
ไป๋จื่อรีบดึงมือของจ้าวหลานออก ก่อนจะวิ่งเข้าในไปเรือน
ตอนนี้นางเข้าไปในเรือนแล้ว หูเฟิงนอนอยู่บนพื้น มือข้างหนึ่งยันพื้นไว้ ส่วนมืออีกข้างคลำศีรษะ สีหน้าเจ็บปวดทรมานทีเดียว
นางเข้าไปประคองเขาเอาไว้ พร้อมทั้งต่อว่าด้วยความโมโห “เจ้าจะทำอะไร บาดเจ็บจนมีสภาพเช่นนี้แล้ว เหตุใดถึงยังจะขยับร่างกายตามใจชอบอีก”
หูเฟิงตะลึงงัน พยายามลืมตามองคนตรงหน้าให้ชัดเจน ใบหน้าของคนผู้นี้รางเลือนมาก มีแต่เงาทับซ้อนกัน
เขาสะบัดศีรษะ พยายามลืมตาอีกครั้ง คราวนี้เงาร่างเบื้องหน้าถึงจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...