คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 319

ตอนที่ 319 ไอบูโพรเฟน

หูเฟิงกดปุ่มสีแดงตามที่ไป๋จื่อบอก ได้ยินเสียง ‘คลิก’ ครั้งหนึ่ง ท่อนบนด้านในกล่องลื่นออกมาเป็นลิ้นชักเล็กๆ ชั้นหนึ่ง ในลิ้นชักนั้นเต็มไปด้วยขวดและกระปุกหลายรูปแบบวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ และยังมีตลับขนาดเล็กพร้อมลวดลายแปลกๆ อยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง

ข้าวของพวกนี้คืออะไร เหตุใดทุกอย่างล้วนแปลกประหลาดเช่นนี้

“นำไอบูโพรเฟน[1]มาให้ข้า” ไป๋จื่อกล่าว ร่างกายของนางในตอนนี้ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ เดือนหน้าเพิ่งจะอายุครบสิบสามปี ใช้ไอบูโพรเฟนลดไข้ปลอดภัยกว่า

หูเฟิงตะลึงลาน ขวด กระปุก ตลับน้อยใหญ่เป็นกองเช่นนี้ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งไหนคือไอบูโพรเฟน!

ไป๋จื่อชี้ตลับสีส้มเหลืองที่อยู่ทางซ้ายมือของเขา “ข้างบนเขียนตัวอักษรไว้ แล้วก็มีรูปส้มด้วยอยู่ด้วย”

ชายหนุ่มนำตลับสีส้มออกมา ตัวอักษรด้านบนนั้นไม่เหมือนกับตัวอักษรที่เขาเคยเห็นในชีวิตประจำวัน ทว่ารูปส้มกลับคล้ายคลึงของจริงมาก ราวกับมีส้มจริงๆ วางอยู่ด้านบน

นางรับตลับมากวาดสายตามองครั้งหนึ่ง แล้วหยิบขวดด้านในออกมาทันที หลังจากเปิดฝาป้องกันออกแล้ว นางก็ปรับปริมาณให้เข้ากับอายุของเด็ก แล้วถึงจะกดปุ่ม ยาน้ำรสส้มพลันกรอกใส่ในถ้วยยาที่มีอยู่ภายใน

เด็กสาวดึงถ้วยยาออกมา เงยหน้าขึ้นกระดกมันดื่มจนหมดเกลี้ยง มันมีรสชาติหวานเหมือนกับดื่มน้ำผลไม้

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ดื่มยาพรรค์นี้ นางเคยคิดว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองยารสชาติแบบนี้อีกแล้วเสียอีก

หูเฟิงรับยาที่ไป๋จื่อส่งกลับมาให้ เขาเลียนแบบท่าทางของนาง กดขวดยาขนาดเล็กลงไปในตำแหน่งเดิมของมัน แท้จริงแล้วของพวกนี้มาจากที่ใดกันแน่ ใครเป็นคนทำ ของเหลวสีเหลืองนั่นดมแล้วทั้งหอม ทั้งหวาน มันเป็นยาจริงหรือ

ไป๋จื่อรู้สึกเหนื่อยมาก ไม่มีกะใจจะสนทนากับเขาอีก นางหลับตากล่าวว่า “วางมันไว้ที่เดิม ข้าจะนอนแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”

ชายหนุ่มนำยากลับไปวางไว้ที่ตำแหน่งเดิม เมื่อกดปุ่มสีแดงอีกครั้งก็เป็นที่เขาคาดไว้ ลิ้นชักที่ยื่นออกมาก่อนหน้านี้หดกลับเข้าไปแล้ว

แม้จะมีความสงสัยอัดแน่นอยู่ในอก ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาถาม รอให้นางหายก่อนค่อยถามทุกอย่างก็ยังไม่สาย

เขาวางกล่องกลับไปที่ใต้เตียง เมื่อลุกขึ้นยืนก็ห่มผ้าให้นางอย่างดี ก่อนจะหมุนกายเดินออกไป

จ้าวหลานเห็นเขาออกมา จึงรีบถาม “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง”

“เพิ่งดื่มยาไป ตอนนี้หลับไปแล้ว” หูเฟิงกล่าว

จ้าวหลานรู้ว่าในกล่องนั้นของนางมียาแปลกๆ อยู่ด้วย แม้ยาเหล่านั้นจะแปลก แต่ประสิทธิภาพของมันดีมาก

หูเฟิงพาอาอู่ไปอีกด้านหนึ่ง แล้วถามอีกฝ่ายเสียงเบา “แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

อาอู่ก้มหน้าลง “แม่นางไป๋ไม่ให้ขาพูด”

หูเฟิงแค่นหัวเราะ “ป่านนี้แล้ว ยังไม่บอกความจริงกับข้าอีก อยากให้ข้าไปถามความจริงกับคนแซ่กู้ที่ที่ว่าการอำเภอตอนนี้ใช่หรือไม่”

อาอู่รีบจับแขนเขาไว้ “ไม่ได้นะ อาเฟิง แม่นางไป๋ไม่ให้ข้าพูด ก็เพราะกลัวว่าเจ้าจะไปหาคนแซ่กู้นั่น เจ้าไปไม่ได้เด็ดขาด”

หูเฟิงหัวเราะ “ไม่อยากให้ข้าไป เช่นนั้นก็พูดความจริงมา”

อาอู่ถอนใจเสียงหนึ่ง “ตกลง ข้าจะพูด…เมื่อวานเย็นแม่นางไป๋ตกลงกับข้าไว้ ว่าเช้าวันนี้จะไปร้องเรียนยังที่ว่าการอำเภอ แม่นางไป๋บอกว่าคนแซ่เฉียนรู้ว่าพวกเราอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหวงถัว ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องรู้เรื่องที่พวกเจ้าสองคนยังไม่ตาย คราวนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บหนักยังไม่หาย นางกลัวว่าคนแซ่เฉียนจะมาหาถึงที่ เช่นนั้นแล้วพวกเราล้วนต้องประสบเคราะห์ ถึงได้อยากไปร้องเรียน ณ ที่ว่าการอำเภอ นางบอกว่าใต้เท้ากู้เป็นญาติกับคนแซ่เฉียน อยากจะฟ้องร้องคนแซ่เฉียนย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องมีคนร้องเรียน ใต้เท้ากู้จะได้บอกให้คนแซ่เฉียนสำรวมกิริยาบ้าง ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะมาทำร้ายพวกเราได้อีก”

“แต่ใครจะรู้ว่าใต้เท้ากู้จะหน้าไม่อายได้ถึงขั้นนั้น เขาไม่มองแม้แต่ใบคำร้องของแม่นางไป๋ด้วยซ้ำ ก็ให้นางรับโทษ ให้คนโบยนาง”

……….

ตอนที่ 320 กู้เฟิงคัง

หมัดของหูเฟิงกำเข้าหากันแน่น ได้ยินเพียงเสียงข้อต่อนิ้วดังกรอบแกรบ สีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง

ที่แท้นางโดนโบย มิน่าเล่าถึงได้นอนหลับไปเช่นนี้

“นางโดนโบยไปกี่ไม้” เขากัดฟันถาม

อาอู่รีบตอบ “สามไม้ โชคดีที่เถ้าแก่เฉินร้านสือเค่อมาถึงทันเวลา ช่วยแม่นางไป๋ไว้ได้ ไม่เช่นนั้นหากถูกโบยยี่สิบไม้จริง ไหนเลยจะมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้”

“โดนโบยเพียงสามไม้? ไฉนมีสภาพเช่นนี้ได้” ไป๋จื่อไม่ใช่เด็กสาวอ่อนแอ แม้สามไม้กระทบโดนตัวจะรู้สึกอยู่ระลอกหนึ่ง แต่ไม่มีทางทำให้นางอ่อนแอจนมีสภาพเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

อาอู่ถอนใจ กล่าวว่า “แม่นางไป๋ป่วยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพื่อตามหาสมุนไพรมารักษาเจ้า นางฝืนตัวเองอยู่ตลอด เมื่อโดนโบยอีกสามไม้ ย่อมต้องทนไม่ไหวกระมัง”

เมื่อวานนางป่วย?

มิน่าเล่า ตอนที่เขาพบนางเมื่อวาน สีหน้านางดูไม่ดีเท่าไร

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ นางหลับไปแล้ว” หูเฟิงบอกอาอู่

อาอู่เห็นเขาหมุนกายจะจากไป จึงรีบดึงแขนของเขาไว้ “อาเฟิง เจ้าไปก่อเรื่องที่ที่ว่าการอำเภอไม่ได้นะ”

หูเฟิงพยักหน้า “ข้าไม่ไปหรอก ข้าจะกลับไปกินข้าว”

อาอู่ปล่อยแขนของหูเฟิง มองอีกฝ่ายเดินไปยังลานบ้านด้านหน้าทีละก้าว ในใจของเขาไม่ผ่อนคลายสักนิด หูเฟิงบอกว่าจะไม่ไป แต่เหตุใดเขากลับรู้สึกไม่เชื่อ

ม่านราตรีโรยตัว เงาดำสายหนึ่งออกจากหมู่บ้านหวงถัว เพิ่งถึงถนนบริเวณหน้าหมู่ด้านได้ไม่เท่าไร เงาดำอีกสายหนึ่งก็พลันปรากฏออกมา สองคนเกือบจะประมือกัน ก่อนที่คนหนึ่งในนั้นจะกดเสียงกล่าว “ข้าเอง!”

หูเฟิงเก็บกระบวนท่า แล้วปลดผ้าปิดหน้าลง เขาขมวดคิ้วถาม “เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่”

อาอู่เองก็ปลดผ้าปิดบังใบหน้าลงเช่นกัน เขาเกาศีรษะ “ข้ารอเจ้าอยู่ ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา”

ชายหนุ่มมองอาอู่ที่อยู่เบื้องหน้า รอยมีดบนใบหน้ายิ่งดูหน้ากลัวเมื่ออยู่ภายใต้ยามค่ำคืนที่มืดสลัว ทว่าดวงตาของเขากลับสดใสชัดแจ้ง บนใบหน้าแฝงรอยยิ้มที่ทำให้เขาสบายใจ “เจ้าก็จะไปด้วย?”

อาอู่พยักหน้า “เดิมทีเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะข้า เจ้ากับแม่นางไป๋ต้องรับกรรมหนักเพราะพวกข้า หากข้ายังเป็นเหมือนเต่าหดหัวในกระดองต่อไป เช่นนั้นข้าจะยังเป็นคนได้อยู่หรือ”

หูเฟิงพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน หลังจากพวกเราเข้าเมืองไปแล้วก็แยกทางกัน เจ้าไปหาคนแซ่เฉียน ข้าจะไปหาคนแซ่กู้ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด ต้องระบายความโกรธขึ้งในใจออกมาให้หมด หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในภายหลัง ข้าจะรับผิดชอบเอง”

“ไม่ต้องให้เจ้ารับผิดชอบหรอก ข้าอาอู่ไม่ใช่คนขี้ขลาด ในเมื่อตัดสินใจจะลงมือแล้ว ก็ไม่กลัวเรื่องใหญ่ในภายหลังหรอก”

ทั้งสองคนสบตากันครั้งหนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมา ก่อนจะแฝงตัวเข้าไปในความมืดยามค่ำคืนพร้อมกันในทันที

ยามนี้ประตูเมืองปิดแล้ว ทั้งสองคนหามุมหนึ่งที่เงียบสงบ ก่อนจะใช้วิชาตัวเบาเหาะขึ้นไป

อาอู่กล่าวชมท่าทางปราดเปรียวของหูเฟิง “ฝีมือดี!”

หูเฟิงกวาดสายตามองอีกฝ่ายครั้งหนึ่ง ก่อนจะยิ้มจางๆ “เจ้าเองก็ไม่เลว!”

ทั้งสองคนแยกทางกันเมื่อเข้าไปในเมืองแล้ว หูเฟิงมุ่งหน้าไปยังที่ว่าการอำเภอ เจ้าพนักงานเวรกลางคืนหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เขาตรงเข้าไปที่ศาลาว่าการด้านหลัง หลังจากดูลาดเลาอยู่พักหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงหอบหายใจแห่งความรักใคร่อย่างสุดซึ้งของหนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรีจากด้านนอกเรือนที่ยังจุดเทียนสว่างจ้า

ที่นี่คือด้านหลังเรือนพักอาศัยของกู้เฟิงคัง คนที่สามารถเกี้ยวพาราสีสตรีได้อย่างโจ่งแจ้งในเรือน นอกจากกู้เฟิงคังเองแล้วจะมีใครได้อีก

เขาไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น จึงนำแท่นลงโทษจากด้านหน้ามาก่อน วันนี้กู้เฟิงคังโบยไป๋จื่อสามไม้ เขาก็จะให้กู้เฟิงคังโดนโบยสามไม้เช่นกัน ให้อีกฝ่ายได้ลิ้มรสชาติของไม้โบยนี้ว่าเป็นอย่างไร

หูเฟิงดึงผ้าปิดบังใบหน้าขึ้น อาศัยจังหวะที่บุรุษและสตรีที่อยู่ในห้องกำลังโรมรันกัน ถีบประตูเรือนออกดังโครม แล้วยกแท่นลงโทษเดินวางท่าเข้าไปข้างใน

[1] ไอบูโพรเฟน เป็นยาแก้อักเสบปราศจากสเตียรอยด์ ใช้รักษาอาการปวด ไข้ และอักเสบ รวมถึงอาการปวดประจำเดือน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา