คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 597

ตอนที่​ 597 จับ​หนู​นา​

พวกเขา​ทั้ง​ครอบครัว​มุ่งหน้า​ไป​ทางใต้​ ทั้ง​เหนื่อย​ ทั้ง​หิว​ โชคดี​ที่​ระหว่างทาง​มีลำธาร​สาย​เล็ก​ๆ พวกเขา​จึงดื่ม​น้ำ​กัน​เล็กน้อย​ ไม่เช่นนั้น​หาก​ไม่เหนื่อย​หรือ​หิว​ตาย​ ก็​ต้อง​กระหาย​น้ำตาย​อย่าง​แน่นอน​

เดินทาง​ตั้งแต่​ฟ้าสว่าง​จน​ฟ้ามืด​ ตั้งแต่​ฟ้ามืด​จนถึง​ฟ้าสว่าง​ ในที่สุด​นาง​ก็ได้​รับรู้​ถึงการพัฒนา​โครงเรื่อง​ใน​ภาพยนตร์​ต่างๆ​ แม้อากาศ​จะหนาวเย็น​จับใจ​ ท้อง​หิว​จน​ส่งเสียงร้อง​โครกคราก​ แต่​ทุก​ย่างก้าว​ก็​ต้อง​ใช้เท้า​เดิน​ไป​ ความรู้สึก​ทรมาน​เช่นนี้​ ขอ​เพียง​ได้​เผชิญ​กับ​มัน​ด้วย​ตนเอง​ ถึงจะได้​รู้​ว่า​มัน​ทรมาน​เพียงใด​

“พี่​ไป๋​ นั่น​คือ​อะไร​หรือ​” หรู​เอ๋อร์​เดิน​ไม่ไหว​ตั้ง​นาน​แล้ว​ จึงให้​พวก​ผู้ใหญ่​ผลัดกัน​แบก​นาง​ขึ้น​หลัง​ บัดนี้​นาง​อยู่​บน​หลัง​เสี่ยว​เฟิง ทั้งตัว​ของ​นาง​พาด​อยู่​บน​กาย​ของ​เด็กหนุ่ม​ พลาง​ชี้ไป​ยัง​หลุม​บน​พื้นหญ้า​แห้ง​สีเหลือง​เบื้องหน้า​

ไป๋​จื่อ​กวาดสายตา​มอง​ครั้งหนึ่ง​ ก่อน​จะกล่าวว่า​ “ก็​แค่​หลุม​หนึ่ง​เท่านั้น​ มีอะไร​หรือ​”

“ข้า​เพิ่ง​เห็น​ว่า​มีอะไร​บางอย่าง​เข้าไป​หลบ​ใน​หลุม​นั้น​ เหมือน​จะเป็น​กระต่าย​” หรู​เอ๋อร์​กล่าว​

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ไป๋​จื่อ​ก็​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ในทันที​ แล้ว​เดิน​ไป​มอง​ใน​หลุม​ตรงหน้า​ นาง​เอ่ย​ด้วย​ความดีใจ​ “ที่​ไม่ใช่หลุม​ของ​กระต่าย​หรอก​ แต่​เป็น​หนู​นา​ ข้า​ว่า​พวกเรา​มีของกิน​แล้ว​ละ​”

นาง​ค้นหา​บริเวณ​นั้น​อีก​เล็กน้อย​ และ​พบ​ว่า​มีอีก​หลาย​รู​จริง​ดัง​คาด​

หู​จ่างหลิน​และ​จ้าว​หลาน​ล้วน​เป็นยอด​ฝีมือ​ด้าน​การทำงาน​ใน​ที่ดิน​ เห็น​หนู​นา​มาแล้ว​ไม่น้อย​ ย่อม​รู้​ว่า​ควรจะ​จับ​หนู​นา​นี้​อย่างไร​ ทั้ง​สี่คน​ต่าง​เฝ้าหลุม​ใคร​หลุม​มัน​ แล้ว​ค่อย​ให้​หรู​เอ๋อร์​เติม​น้ำ​ใส่หลุม​หนึ่ง​ใน​นั้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ไม่นาน​นัก​ก็​มีหนู​นา​ตัว​หนึ่ง​วิ่ง​ออกมา​จาก​ใน​หลุม​ หู​จ่างหลิน​เห็น​หนู​นา​วิ่ง​ออกมา​แล้ว​ เขา​ก็​ใช้เท้า​ข้าง​หนึ่ง​เหยียบ​มัน​ไว้​ทันที​ ครั้น​มีอีก​ตัว​หนึ่ง​วิ่ง​ออกมา​ เขา​ก็​ก้มลง​ใช้มือจับ​ไว้​ เสี่ยว​เฟิงจับ​ได้ตัว​หนึ่ง​ จ้าว​หลาน​ก็​จับ​ได้ตัว​หนึ่ง​เช่นกัน​ ส่วน​ไป๋​จื่อ​กลับ​จับ​ไม่ได้​สัก​ตัว​ อย่างไร​เสีย​นาง​ก็​ไม่เคย​จับ​หนู​นา​มาก่อน​ ไม่ค่อย​คุ้นชิน​เท่าไร​นัก​ หนู​นา​ก็​ปราดเปรียว​ดี​ทีเดียว​ มัน​จึงหนี​รอดไป​ได้​อย่าง​หวุดหวิด​

เมื่อ​ฆ่าหนู​นา​เรียบร้อย​แล้ว​ พวกเขา​ก็​หา​ฟืน​มาจำนวน​หนึ่ง​ สุมมัน​เพื่อ​ก่อ​กองไฟ​ แล้วจึง​ย่าง​หนู​นา​กิน​ทั้งอย่างนั้น​ แม้เนื้อ​ของ​มัน​จะไม่มีรสชาติ​อะไร​มาก​ ทว่า​ตอนนี้​พวกเขา​เพียง​อยาก​เติม​ท้อง​ให้​อิ่ม​ ไหน​เลย​จะสนใจ​ว่า​มัน​มีรสชาติ​หรือไม่​

แม้ทุกคน​จะกิน​ไม่อิ่ม​เท่าไร​นัก​ แต่​ดี​เลว​อย่างไร​ก็​ประทัง​ความหิว​ได้​บ้าง​ ดีกว่า​ต้อ​งอด​อยู่แล้ว​

หลังจาก​กิน​เสร็จ​ก็​เดินทาง​ต่อ​ ครั้น​หิว​ขึ้น​มาอีก​ก็​หา​หนู​นา​กิน​ กระหายน้ำ​ก็​ดื่ม​น้ำ​จาก​ลำธาร​ ทำ​เช่นนี้​ไป​สามวัน​สามคืน​เต็มๆ​ ในที่สุด​ก็​ถึงรุ่งอรุณ​ของ​วัน​ที่สี่​ พวกเขา​มองเห็น​ทางหลวง​ยาวเหยียด​ ปลาย​ทางหลวง​เป็น​ประตูเมือง​แห่ง​หนึ่ง​

“ในที่สุด​พวกเรา​ก็​จะได้​เห็น​คน​เป็น​ๆ แล้ว​” หู​จ่างหลิน​ยิ้ม​กล่าว​

ไป๋​จื่อ​กลับ​พูดว่า​ “อีก​เดี๋ยว​ถึงประตูเมือง​แล้ว​ พวกเรา​ก็​ค่อย​ปรับตัว​ตาม​สถานการณ์​ หาก​ที่นี่​ยัง​เป็น​แคว้น​ฉู่ก็​ไม่จำเป็นต้อง​กลัว​ ทว่า​หาก​เป็น​แคว้น​ซีเย​ว่​ เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​เปิดเผย​ตัวตน​ไม่ได้​โดย​เด็ดขาด​ บอก​ไป​ว่า​มาจาก​แคว้น​จิน​ก็แล้วกัน​”

อีก​สามคน​ตกลง​ตามนั้น​ ความ​ปีติ​เมื่อ​ครู่​พลัน​หายวับไปกับตา​ โดย​มีความกังวลใจ​เกิดขึ้น​มาแทนที่​

มีคน​เฝ้าประตูเมือง​ดังที่​คาด​ไว้​ แต่กลับ​มีคน​เข้าออก​น้อย​มาก​ ไม่มีใคร​ถามไถ่พวก​นาง​ด้วยซ้ำ​ ราวกับว่า​สามารถ​เข้าออก​ที่นี่​ได้​ตามใจชอบ​ เช่นเดียวกับ​เมือง​ชิงหยวน​

ดู​จาก​การ​แต่งกาย​ของ​คน​พวก​นี้​แล้ว​ ล้วน​ไม่มีความแตกต่าง​อะไร​กับ​คน​แคว้น​ฉู่ จึงมอง​ตัวอักษร​บน​กำแพงเมือง​ เมือง​ฉี

ทางขวา​ของ​คำ​ว่า​เมือง​ฉี สลัก​ตัวอักษร​ฉู่เอาไว้​ด้วย​

นี่​หมายความว่า​ที่นี่​คือ​แคว้น​ฉู่หรือ​

พวก​นาง​เร่งฝีเท้า​เข้า​เมือง​ไป​ เดิน​ชมรอบ​เมือง​เสีย​รอบ​หนึ่ง​ ในที่สุด​ก็​แน่ใจ​ความจริง​เรื่อง​หนึ่ง​ว่า​ ที่นี่​ก็​คือ​แคว้น​ฉู่ เดิมที​พวกเขา​ยังอยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​ฉู่ ช่างดี​เหลือเกิน​

ครั้น​เห็น​ที่​ข้างทาง​มีร้าน​เล็ก​ๆ ขาย​ซาลาเปา​ หมั่นโถว​ และ​แป้ง​ทอด​ หรู​เอ๋อร์​ก็​น้ำลายไหล​ไม่ยอม​หยุด​ นาง​อยาก​กิน​ แต่​ไม่อยาก​ร้องขอ​

แม้นาง​จะยัง​เด็ก​ แต่​ก็​รู้​ว่า​ตอนนี้​พวก​ตน​กำลัง​ลำบาก​ ไม่ได้​เหมือน​เมื่อก่อน​อีกแล้ว​

ไป๋​จื่อ​เห็น​ท่าทาง​หรู​เอ๋อร์​เป็น​เช่นนั้น​ ก็​พลัน​รู้สึก​เสียใจ​อย่าง​มาก​ ทว่า​ยาม​ที่​นาง​ออกมา​ นาง​ไม่ได้​พก​เงินติดตัว​มาเลย​แม้แต่​เหรียญทองแดง​เดียว​ แล้​วจะ​ซื้อ​อะไร​ให้​หรู​เอ๋อร์​กิน​ได้กัน​

ทันใดนั้น​มีคน​ท่าทาง​เหมือน​ขอทาน​สอง​สามคน​รีบเร่ง​เดิน​มาทาง​นี้​ คน​หนึ่ง​หันมา​มอง​พวก​นาง​ อาจจะ​เป็น​เพราะ​ตอนนี้​พวก​นาง​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​ขอทาน​อย่าง​พวก​ตน​ จึงร้องเรียก​ว่า​ “พวก​เจ้ายัง​ตะลึง​อะไร​อยู่​ เพิง​แจก​โจ๊ก​ข้างหน้า​จะเปิด​แล้ว​ รีบ​ไป​สิ”

……….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา