ตอนที่ 79 สั่งสอน
ไป๋เสี่ยวเฟิงกลับได้กลิ่นหอมสายหนึ่ง ขณะกำลังจะเรียกไป๋จื่อ ใครจะรู้ว่าเด็กสาวไป๋จื่อผู้นี้จะวิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก นางหายไปในพริบตา
ไป๋จื่อนำโจ๊กและผักป่าใส่ในถ้วยใหญ่ของพวกนางทันทีที่กลับเรือน ก่อนจะหามุมซ่อนมันไว้ เพื่อเก็บไว้กินเย็นนี้
ครั้นจ้าวหลานเห็นนางยิ้มแย้ม จึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ทุกวันเจ้ากลับไปเรือนใหญ่แล้วมักจะหน้าตาบูดบึ้ง แต่วันนี้กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้”
เด็กสาวปิดปากพลางหัวเราะเสียงเบา “ท่านแม่ อีกเดี๋ยวท่านก็รู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านป้าสะใภ้ใหญ่จะต้องกรีธาทัพมาถามโทษแน่ ท่านรอดูเรื่องสนุกได้เลย”
และเป็นเช่นที่นางว่าไว้ ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงร้องแหลมของหลิวซื่อดังมาจากในเรือนใหญ่ “น้ำมันหมูเล่า? น้ำมันหมูของข้าล่ะ?”
จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ทั้งร้อนใจและรวดเร็วของหลิวซื่อ ผ่านไปครู่หนึ่งนางก็มาถึงหน้าเรือนไม้ของไป๋จื่อและจ้าวหลาน ก่อนจะถีบประตูที่แง้มอยู่อย่างไม่เกรงใจสักนิด
เห็นเพียงนางเท้าสะเอวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งชี้หน้าต่อว่าไป๋จื่อ “ช่างเป็นเด็กเจ้าเล่ห์นัก เก่งเสียจริงๆ ขโมยน้ำมันหมูของข้าไปซ่อนไว้ที่ใด”
ไป๋จื่อยักไหล่ “ไม่ได้ซ่อนนะเจ้าคะ เมื่อครู่ใช้ตอนที่ผัดผักป่าไปหมดแล้ว ท่านป้าสะใภ้ก็รู้ ว่ามือนี้ของข้าได้รับบาดเจ็บ ถือสิ่งของใดได้ไม่มั่นคง ถ้วยใส่น้ำมันนั้นร้อนลวกนัก ข้าไม่ทันระวัง จึงเผลอเทน้ำมันในถ้วยลงหม้อจนหมด เดิมทีคิดจะตักออกมาบ้าง ทว่าครั้นคิดถึงความรู้สึกที่ท่านป้าสะใภ้มีต่อข้าและท่านแม่ ข้าจึงใช้จนหมดด้วยความซาบซึ้ง ตอนนี้กินหมดไปแล้วเจ้าค่ะ อ้อ รบกวนท่านป้าสะใภ้นำถ้วยนี้กลับไปล้างด้วยนะเจ้าคะ”
จ้าวหลานนับว่าเข้าใจแล้ว เด็กคนนี้ร้ายกาจนัก มิน่าเล่าเมื่อครู่ถึงได้หัวเราะเจ้าเล่ห์เช่นนั้น น้ำมันหมูเป็นสิ่งล้ำค่าของหลิวซื่อ แต่ไหนแต่ไรนางจะซ่อนไว้ให้ไป๋เสี่ยวเฟิงกินแต่เพียงผู้เดียว ใครก็อย่าได้แตะต้อง บัดนี้ไป๋จื่อใช้ไปจนหมดแล้ว นางไม่โกรธสิน่าแปลก
หลิวซื่อโมโหจนตัวสั่นไปทั้งตัว นิ้วมือที่ชี้หน้าไป๋จื่อก็สั่นไม่หยุดเช่นกัน “เจ้าเด็กน่าตายผู้นี้ แม้แต่น้ำมันหมูของข้าก็กล้าแตะต้อง วันนี้ข้าจะ ข้า…”
ไป๋จื่อเลิกคิ้วมองนาง แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับน้ำแข็งในพริบตา “วันนี้อย่างไร? ท่านป้าสะใภ้จะทำอย่างไรกับข้า?”
ครั้นเห็นสายตาเย็นเยียบนั้น หลิวซื่อเพียงรู้สึกหนาวสันหลังวาบ อดไม่ได้ที่จะถอยร่างไปด้านหลังก้าวหนึ่ง เมื่อนึกถึงท่าทางยามไป๋จื่อโหดร้าย นางก็ถอยไปอีกก้าวหนึ่ง ก้าวนี้ไปถึงราวประตูเรือนไม้พอดิบพอดี ร่างของนางจึงหงายหลังล้มออกไปอย่างควบคุมไม่อยู่ ตรงบั้นเอวทับหินก้อนหนึ่ง เจ็บจนนางต้องร้องเรียกมารดาออกมา
ไป๋ต้าเป่าและไป๋เสี่ยวเฟิงยืนแคะฟันอยู่ในลานบ้าน พวกเขาเห็นหลิวซื่อล้มออกมาจากในเรือนไม้ จึงรีบเข้าไปประคองผู้เป็นแม่ให้ลุกขึ้น ฝ่ายไป๋ต้าเป่าชี้หน้าไป๋จื่อ “นางเด็กน่าตาย เจ้ากล้าตีคนหรือ?”
หลิวซื่อไหนเลยจะเป็นคนที่พูดจาตามความจริง เมื่อเห็นบุตรชายทั้งสองคนอยู่ด้วย จึงคิดจะอาศัยมือของพวกเขาสั่งสอนเด็กน่าตายผู้นี้สักหน่อย “เจ้าเป็นคนผลักข้าแท้ๆ เป็นอย่างไรไป กล้าทำไม่กล้ายอมรับหรือ?”
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะ “ใครพูดโกหก ผู้นั้นจะต้องถูกฟ้าผ่า ไม่ว่าผู้ใดย่อมไม่ตายดี ลูกชายก็จะพบกับหายนะไปด้วย ตายอย่างไร้ศพกันทั้งหมด ท่านกล้าสาบานหรือไม่?”
หากพูดเพียงว่าจะถูกฟ้าผ่า หลิวซื่อย่อมกล้า คำกล่าวพรรค์นี้นางเคยพูดมาไม่น้อย ทว่ายังไม่เคยเจอฟ้าผ่า กระนั้นหากสาบานไปแล้วพัวพันถึงลูกชาย นางไม่มีทางยอมแน่นอน ลูกชายเป็นชีวิตจิตใจของนาง ไม่ว่าคำสาบานนี้จะเป็นจริงหรือไม่ นางก็ไม่มีทางนำลูกชายมาสาบานด้วย
“นางเด็กน่าตายผู้นี้ เหตุใดจิตใจช่างโหดเหี้ยมนัก? คำกล่าวชั่วร้ายใดล้วนกล้าพูดออกมา เจ้าไม่กลัวกรรมตามสนองบ้างหรือ?” หลิวซื่อชี้หน้าต่อว่าไป๋จื่อ
……….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...