คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 95

ตอนที่ 95 ขโมยไก่ไม่สำเร็จ เสียข้าวสารอีกหนึ่งกำมือ

คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่านางมีนิสัยอย่างไร ทว่าคนสกุลไป๋จะไม่รู้ได้อย่างไร

รู้ดีแท้ๆ ว่านางไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่กลับใช้วาจาชั่วร้ายเช่นนี้มาทำร้ายนาง จะให้นางไม่เสียใจได้อย่างไร

ไป๋จื่อยืนขึ้นจากในรถเทียมวัว มองหลิวซื่อที่อยู่ริมแม่น้ำราวกับกำลังยิ้ม ก่อนจะพูดเสียงดัง “หลิวกว้าหัว เจ้าต่างหากที่เป็นสตรีที่ชอบดีดดิ้นเช่นนั้น คิดว่าสตรีบนโลกนี้จะเป็นเหมือนเจ้าหรือ เรื่องชั่วช้าที่เจ้ากับหยางซื่อเกินทำ ต้องการให้ข้าพูดต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้านใช่หรือไม่”

หลิวซื่อหน้าเปลี่ยนสีไปมากทีเดียว ชี้หน้าไป๋จื่อพลางร้องตะโกน “เด็กน่าตาย เจ้าพูดมั่วอะไร ข้ากับหยางซื่อเกินบริสุทธิ์ใจ จะมีเรื่องชั่วช้าได้อย่างไรกัน ข้าพูดจาหรือทำอะไรล้วนชัดเจน”

รถเทียมม้าค่อยๆ เคลื่อนออกไปไกล เสียงดังกังวานของไป๋จื่อกลับยังคงดังไปถึงหูของหญิงสาวที่กำลังซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ “ดูสิดู ข้ายังไม่ได้พูดเลย เจ้าก็มีท่าทางร้อนรนเช่นนี้แล้ว หากข้าพูดออกมาจริงๆ เจ้าอาจจะทำอะไรข้าก็ได้ ข้ากลัวเหลือเกิน ไม่พูดดีกว่า”

ไป๋จื่อแค่นหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหมุนกายกลับไปนั่ง

จ้าวหลานมุ่นคิ้ว จ้องไป๋จื่อพลางถาม “ที่เจ้าพูดเมื่อครู่จริงหรือ หลิวกว้าหัวกับหยางซื่อเกินมีอะไรกันจริงหรือ”

เด็กสาวยักไหล่ “นางกับหยางซื่อเกินมีอะไรกันหรือไม่ข้าไม่รู้ ข้าเพียงอยากให้นางลองลิ้มรสชาติการถูกคนใส่ร้ายดูเสียบ้างว่าเป็นอย่างไร”

เช่นนี้เรียกว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน

นางใส่ร้ายคนอื่นได้ แต่คนอื่นใส่ร้ายนางไม่ได้อย่างนั้นหรือ

เหอะ…นางยังมีสามี ลูกชาย และแม่สามี ดูสิว่าผู้ใดจะเสียเปรียบกว่ากัน

หลิวซื่อที่อยู่ริมแม่น้ำขนาดเล็กอยากจะร้องไห้ ทว่าไม่มีน้ำตา เช่นนี้เรียกว่าขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกหนึ่งกำมือ[1]

เดิมทีคิดร้ายต่อไป๋จื่อและจ้าวหลาน แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าไฟนี้กลับเผาใส่ร่างของตนเองแทน

นางกลับหลังหันไปพูดกับหญิงสาวที่อยู่ริมแม่น้ำ “พวกเจ้าอย่าไปฟังคำพูดมั่วของนาง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ข้ากับหยางซื่อเกินเคยพบหน้ากันไม่เกินสองครั้ง ครั้งหนึ่งไปเป็นแม่สื่อให้ไป๋จื่อ อีกครั้งหนึ่งเขามายกเลิกแต่งงานที่สกุลไป๋ ยังพูดกันไม่ถึงสองประโยคเสียด้วยซ้ำ นางพูดจามั่วซั่วเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ไม่มีทางมีอะไรเด็ดขาด”

หญิงสาวหลายคนเพียงหัวเราะ ไม่ได้พูดจา ไม่ได้บอกว่าเชื่อ และไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อเช่นกัน เพียงซักผ้าในมือของตนเองต่อไป ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของหลิวซื่อก็ไม่ปาน

มารดาของอิงจื่อยกผ้าที่ซักเสร็จแล้ว ผุดกายลุกขึ้น สายตาเย็นชาของนางมองไปที่ใบหน้าของหลิวซื่อ ก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้มเสแสร้ง “แม่ต้าเป่า มีสุภาษิตว่าไว้ โลกนี้ไม่มีคลื่นโหมโดยที่ไม่มีลม แมลงวันไม่เจาะไข่ที่ไม่แตก[2]เช่นกัน”

“เจ้าๆๆ เจ้าหมายความว่าอย่างไร” หลิวซื่อรู้สึกร้อนใจแล้ว

มารดาของอิงจื่อยิ้มเย็น ยกกะละมังไม้กลับหลังหัน “ไม่ได้หมายความว่าอะไร แค่รู้สึกอยากพูดเท่านั้น เจ้ากับพวกเจ้าซักผ้าต่อไปเถอะ ข้าซักเสร็จแล้ว” นางหมุนกายจากไปพร้อมแค่นหัวเราะ สาวเท้าออกไปจากสายตาของหลิวกว้าหัวอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวที่เดิมทีซักผ้าอยู่ ก็พากันจบงานในมือตนเอง แล้วแยกย้ายกันไปจนหมดเป็นกลุ่มๆ ไม่มีผู้ใดยอมฟังคำอธิบายของนาง

นางเป็นสตรีที่อยู่ในหมู่บ้านหวงถัวแห่งนี้มานาน จะไม่รู้ความเคยชินของหมู่บ้านนี้ได้อย่างไร ข่าวโคมลอยเช่นเมื่อครู่นี้ ไม่นานต้องแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านแน่

เรื่องที่ไม่มีมูลเช่นนี้ ระหว่างที่แพร่สะพัดออกไป จะถูกคนใส่สีตีไข่ พูดกันอย่างออกรสออกชาติ…

หลิวซื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี หากเรื่องนี้ถึงหูของแม่สามีและเจ้าใหญ่ นางคงไม่มีชีวิตที่ดีแน่

นางเด็กน่าตาย กล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้ คอยดูเถอะว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร

รถเทียมวัวลากพวกไป๋จื่อมาถึงตลาดในเมืองชิงหยวน ตลาดของที่นี่คล้ายกับตลาดในยุคปัจจุบันมาก เพียงแต่ทุกคนล้วนวางผักไว้บนพื้น หรือไม่ก็นำโต๊ะเล็กๆ มาด้วยตนเอง ไม่ได้จัดวางเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านเหมือนในยุคปัจจุบัน

……….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา