หลังจากที่ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของเขา จมูกของเธอเริ่มเจ็บแสบ เธอเงียบปากเอาไว้ เธอเงยหน้าขึ้นและยิ้มซึ่งทำให้หน้าของเธอน่าเกลียดกว่าตอนน้ำตาไหล “ฉันอยู่นี่ค่ะ”
“บอสครับ พี่ ผมจะพาอันยีกลับบ้านก่อน” เซิน โมเฟยหันหน้าเข้าหาลู ชินจิน
เมื่อรู้ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันแล้ว ทัง โรลชูวพยักหน้าและพูดว่า “งั้นกลับบ้านก่อนเถอะ เราก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
เซิน โมเฟยประคองซอง อันยี ด้วยแขนและพาเธอไปที่ลิฟท์
“โมเฟย!” ทัง โรลชูวตะโกนหาเขาอย่างกะทันหัน
เซิน โมเฟย และ ซอง อันยีหยุดและหันหลังกลับ ได้ยินแค่ที่เธอพูดเสริมว่า “โมเฟยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จำไว้นะว่าเธอยังมีพวกเราอยู่นะ”
โมเฟยอ้าปากอย่างช้า ๆ และยิ้มโง่ ๆ ออกมา แววตาของเขาเป็นประกายด้วยความขอบคุณ หลังจากนั้นเขาจับมือของอันยีและเดินต่อไปข้างหน้า ขณะที่ยิ้มจาง ๆ ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาในท้ายที่สุด
คำพูดของพี่สะใภ้ของเขาเป็นเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่นที่พัดผ่านหัวใจที่มืดมนของเขา ขณะที่ความมืดมิดหายไปอย่างรวดเร็ว เขารู้แล้วว่าตอนนี้เขาต้องทำอะไร
…
เมื่อเห็นว่าโมเฟยและอันยีเดินเข้าไปในลิฟท์ ทัง โรลชูว เงียบก่อนที่จะมองไปที่ลู ชินจิน “ชินจิน ฉันต้องเข้าไปดูปู่ไหมคะ?”
ทัง โรลชูวเลิกคิ้วขึ้น “ในฐานะที่ฉันเป็นหลานของเขา ฉันควรจะเข้าไปเยี่ยมเขาสักหน่อยเมื่อฉันมานี่แล้ว”
ลู ชินจินถอนหายใจเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นเข้าไปด้วยกันเถอะครับ”
ทัง โรลชูวตอบกลับอย่างห้วน ๆ ว่า “ค่ะ” และหันไปหาหยิง เสี่ยวเซียว “เสี่ยวเซียว เธออยากไปด้วยกันไหม?”
หยิง เสี่ยวเซียวส่ายหน้าเหมือนกับรัวกลอง ขณะที่สีหน้าของเธอแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างรุนแรง
“ไม่ล่ะ ขอบคุณนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม