แม่บ้านตักข้าวต้มให้จีน่า จีน่าตักข้าวใส่ปากแล้ว ทำปากเบ้ "ไม่เห็นอร่อยเลย ใครทำ แม่บ้านหรอ" จีน่าจงใจว่า ปกติเธอจะตำหนิอาหารแม่บ้านทุกครั้ง จึงทำให้แม่บ้านไม่ชอบเธอ "คุณนารินเป็นคนทำค่ะ ป้าก็ว่าอร่อยนะคะ ทำไมคุณจีน่าถึงบอกไม่อร่อย คุณชายยังทานได้เลยค่ะ" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนตักคำสุดท้ายเข้าปากพอดี จีน่าเห็นแบบนั้นยิ่งไม่พอใจ
"ก็ฉันไม่ชอบกินข้าวต้มหมู สำหรับฉันคือไม่อร่อย ป้าจางเข้าใจหรือยัง" จีน่าพูดแกมต่อว่าเธอมาบ่อยแต่ไม่มีใครสนใจเธอ
"ป้าจางคับ ผมรบกวนป้าจางทำอาหารให้จีน่าใหม่สักที่นะคับ ผมอิ่มแล้ว ผมอยากพัก หนูรินพาฉันไปข้างนอก" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนสั่งป้าจางพร้อมชวนนารินออกจากตรงนั้น เขามีความรู้สึกว่าจีน่าวุ่นวายทั้งที่จีน่าเป็นแบบนี้มาตลอดแต่เขาไม่เคยว่า เพราะเขาตามใจจีน่า
แต่ตั้งแต่เจอนาริน เขารู้สึกหงุดหงิดที่จีน่าทำตัวแบบเดิม นารินเข็นรถพาจิ้นเสี่ยวเยี่ยนออกมานั่งเล่นที่สวนหย่อมเล็กๆ มีสุนัขสองตัววิ่งมาหาจิ้นเสี่ยวเยี่ยนด้วยความดีใจ นารินตกใจที่เห็นสุนัขวิ่งมา รู้ร่างหน้าตาลักษณะน่ากลัวน่าเกรงขาม นารินมองสุนัขกับจิ้นเสี่ยวเยี่ยน
'สุนัขกับเจ้าของลักษณะเหมือนกันเลยนะ' นารินเผลอยิ้มออกมา "เธอมองแบบนี้ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง"จิ้นเสี่ยวเยี่ยนถามเมื่อเห็นสายตาและรอยยิ้มของนาริน เขารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ "เธอคิดว่าฉันเลี้ยงสุนัขเหมาะสมกับตัวเองใช่มั้ย" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนถาม นารินตกใจทำไมเขารู้ใจเธอหล่ะ ทำไมเขารู้ว่าเธอคิดแบบนั้น นารินรู้สึกเขินที่ถูกจับได้จึงหันหลังให้จิ้นเสี่ยวเยี่ยนแล้วแอบหัวเราะ
เขามีความรู้สึกดีกับนารินมากๆ อยู่ใกล้เธอแล้วทำให้เขาอารมณ์ดี รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 'ผู้หญิงคนนี้มีมนตราอะไรนะ' เขาหัวเราะเบาๆ
"แดดร้อนจะแย่ เธอพาประธานจิ้นออกมาตากแดดทำไม" จีน่าทานอาหารเสร็จก็ตามออกมาที่สวน เธอไม่ชอบนารินจึงต่อว่านารินทันทีที่เจอเธอจะไม่ยอมให้นารินอยู่ใกล้ประธานจิ้นมากนัก เพราะเธอมีความรู้สึกว่าจิ้นเสี่ยวเยี่ยนเปลี่ยนไป อาจมีใจให้นาริน
"เอ่อ..ฉันขอโทษค่ะ ฉันเพลินกับการเล่นกับสุนัขไปหน่อย" นารินโค้งพร้อมกล่าวขอโทษจิ้นเสี่ยวเยี่ยน จิ้ยเสี่ยวเยี่ยนเองก็เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที มองจีน่าด้วยสายตาเย็นชา ตอนนี้เขาอยากอยู่กับนารินมากกว่า เขาจึงเอ่ยปากไล่จีน่า
"วันนี้เธอมามีธุระอะไร ถ้าไม่มีก็กลับไปซะ ฉันจะพักผ่อน หนูรินพาฉันเข้าบ้าน"
"ได้ค่ะ" นารินเข็นรถเข็นเดินกลับเข้าบ้านโดยไม่สนใจจีน่า จีน่าได้แต่มองตามหลังทั้งสองด้วยความโกรธ
"ประธานจิ้น คิดจะไล่ฉัน ไม่สนใจฉันแล้วงั้นหรอ ฉันจะทำทุกอย่างให้คุณกับมาหาฉันเหมือนเดิม" จีน่าโกรธมาก ทั้งโกรธทั้งแค้น และก็อายที่เขาไล่เธอต่อหน้านาริน
"นังนารินฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ แกกับฉันเราจะได้เห็นดีกัน" จีน่ากำหมัดแน่จ้องไปที่นาริน
"หนูริน!" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนเรียกนารินด้วยเสียงที่นุ่มลง
"คะ" "ต่อไปต้องลำบากเธอแล้วหล่ะ ช่วยฉันทำให้จีน่าเดินออกไปจากชีวิตฉัน"
"ทำไม เพราะอะไรคะ ดูเขารักคุณมาก"
"ไม่! จีน่าไม่ได้รักฉัน แต่จีน่ารักเงินของฉันต่างหาก เธอต้องช่วยฉันนะ"
"แล้วจะให้หนูรินช่วยแบบไหนคะ"
"เราต้องปรึกษาคุณปู่ก่อน" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนวางแผนไว้หมดแล้วแต่ต้องบอกให้คุณปู่รู้เพื่อความสบายใจกับทุกฝ่าย และนารินจะได้เกรงใจคนใหญ่ด้วย 'แอบร้ายเหมือนกันนะเรา'คิดได้แบบนั้นจิ้นเสี่ยวเยี่ยนก็ยิ้มหัวเราะเบาๆ "นี่คุณจิ้นต้องคิดอะไรไม่ดีใช่มั้ยคะไม่งั้นคงไม่หัวเราะชอบใจแบบนี้" นารินคิดว่าเขาต้องแกล้งอะไรเธออีกแน่ๆ
"แล้วนี้คุณยังเจ็บแผลอยู่มั้ย เดี๋ยวแผลดีขึ้นกว่านี้สักสองสามวันหนูรินจะพาคุณหัดเดินนะคะ เท้าคุณจะได้สัมผัสพื้นจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น"
นารินนั่งย่อลงไปจับที่ขาของเขา
"ไม่เจ็บแล้ว" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนก้มหน้าลงหานาริน เป็นจังหวะที่นารินเหงยหน้าขึ้นพอดี ปลายจมูกสัมผัสกัน อึ้งกันไปชั่วครู่จิ้นเสี่ยวเยี่ยนด้วยความไวจูบที่แก้มนารินทันที ไม่รู้ทำไมเขาอยากจูบเธออยากกอดเธออยากสัมผัสเธอทั้งตัว เขาอยากมีเธออยู่ข้างกายเพียงคนเดียวความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน'หรือจะเป็นรักแรกพบ มีจริงหรอ' จิ้นเสี่ยวเยี่ยนหัวเราะกับความคิดตัวเองเบาๆ ในขณะที่นารินเขินอายจนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก เธอเลยเดินหนีออกมามุมหนึ่งของบ้าน ใจเต้นแรง
'น่าอายที่สุด คนบ้าหอมมาได้' นารินยืนเขินจับแก้มหลบมุมเพื่อปรับอารมณ์อาการใจสั่น
'ฉันยังไม่เคยมีแฟนนะ นายมาทำแบบนี้ได้ยังไง ฉวยโอกาส ถ้ามีอีกครั้งนายเจ็บตัวแน่' นารินคิดเคืองเขาในใจ ถึงช่วงเวลาอาหารเย็นทุกคนทานกันพร้อมหน้า คุณนายหลิ๋นแม่ของจิ้นเสี่ยวเยี่ยนมองดูเด็กสาวที่มาดูแลลูกชายอย่างละเอียด หน้าตาดี ตัวเล็กน่ารัก ผิวสีน้ำผึ้ง ก็ดูน่าสนใจดี เธอไม่ยุ่งเรื่องของลูกชาย เธอจึงไม่ซักถามอะไรมากนัก เพียงแค่พอได้รู้บ้างก็พอ
"หนูริน เธอเป็นคนที่ไหน"เขาเปิดคำถาม
" หนูรินเป็นคนไทยค่ะ มาอาศัยอยู่กับคุณลุงคุณป้าที่นี่ค่ะ เข้าศึกษาที่สถาบันพยาบาลค่ะ"
นารินตอบตามความจริง
"แล้วบ้านที่ไทยเป็นแบบไหน"
"บ้านหนูรินเป็นบ้านไม้สองชั้นค่ะ หลังไม่ใหญ่มาก คุณพ่อคุณแม่ทำสวนปลูกองุ่นส่งออกค่ะ"
"ว้าว!! ฉันอยากไปเที่ยวจังเลย เขาบอกว่าเมืองไทยสวย บรรยากาศดี" คุณนายหลิ๋นทำท่าตื่นเต้น "ได้ค่ะ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวได้ค่ะ หนูรินยินดีต้อนรับค่ะ" นารินตอบ
"ไว้ฉันหายดีเดินได้เราไปเที่ยวหาพ่อแม่เธอกัน" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนพูดขึ้น ทำให้ทุกคนตกตะลึงเงียบกันหมด มีเพียงคุณปู่ที่เข้าใจที่เขาพูดก็ยิ้มออกมา การเข้าหาพ่อแม่เขารู้หมายถึงสิ่งใด แต่ความเข้าใจของนารินการไปเที่ยวบ้านอย่างไรก็ต้องไปหาพ่อแม่
"ได้สิคะ เดี๋ยวหนูรินพาทัวร์เอง" นารินตอบน้ำเสียงดีใจ เพราะตั้งแต่มาที่ประเทศจีนเกือบปีแล้ว คิดถึงพ่อแม่จะแย่แล้ว
จิ้นเสี่ยวเยี่ยนยิ้มแล้วส่ายหน้า'เด็กน้อยเธอนี้ไม่รู้ประสาเสียจริง ไม่เข้าใจความหมายที่ฉันพูด' พอทานอาหารเสร็จนารินก็ส่งจิ้นเสี่ยวเยี่ยนเข้านอน "ราตรีสวัสดิ์นะคะ พรุ่งนี้พบกันค่ะ" "นารินฉันมีอะไรจะบอก ก้มหูมานี่สิ" นารินทำตามที่จิ้นเสี่ยวเยี่ยนบอก ก้มหน้าลงหาเขาเพื่อจะฟังสิ่งที่เขาจะบอก แต่กับเป็นการโดนเขาหอมแก้มฟอดใหญ่ "ฝันดีนะคะ" นารินตกใจทุบไปที่หน้าอกของเขาแต่ไม่แรงนัก
"คุณจิ้น คุณฉวยโอกาส" นารินอายรีบเดินออกจากห้องไป จิ้นเสี่ยวเยี่ยนนอนยิ้มแบบมีความสุข นารินกลับถึงห้องก็นั่งลูบแก้ม "อีตาบ้า คราวหน้าจะตีให้กระอักเลือดเลย คนฉวยโอกาส ชอบรังแกเรานัก อาบน้ำนอนดีกว่า" นารินรีบอาบน้ำ แล้วขึ้นเตียงนอน โดนไม่ลืมที่จะสวดมนต์ก่อนนอน มาต่างที่ต่างถิ่นต้องขออนุญาติเขาหน่อย จะได้นอนหลับสบาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักของท่านประธานกับสาวต่างถิ่น