กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1333

ทันทีที่ฮิโรชิได้ยินดังนี้ เขารีบโพล่งออกไปว่า "ท่านประธานโปรดวางใจได้เลยครับ ผมไม่มีทางเปิดเผยเรื่องที่คุณจะบอกผมให้ใครรู้อย่างแน่นอน"

ยาฮิโกะตอบด้วยความพึงพอใจว่า "ปัจจุบันโคบายาชิ ฟาร์มากำลังผลิตยาผงแก้โรคกระเพาะที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและมียอดขายที่ดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็กำลังขยายตลาดออกไปสู่ตลาดโลกอย่างแข็งขัน ในปัจจุบันผู้คนมักมีอาการไม่สบายท้องในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้นตลาดสำหรับยาประเภทนี้จึงกว้างใหญ่มาก ทันทีที่ยานี้เปิดตัวไปทั่วโลก ก็จะมีผลกำไรต่อปีสูงถึงอย่างน้อย ๆ ก็หลายหมื่นล้านดอลลาร์อย่างแน่นอน"

ฮิโรชิอุทานว่า "มีตลาดใหญ่ขนาดนั้นสำหรับยาแก้โรคกระเพาะด้วยเหรอครับ?”

ยาฮิโกะตอบว่า "นี่เป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้นของฉันเท่านั้น ฉันได้ขอให้ห้องปฏิบัติการเภสัชกรรมในมหาวิทยาลัยโตเกียว ทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบยาแก้โรคกระเพาะของโคบายาชิ ฟาร์มา กับยาแก้โรคกระเพาะที่ผลิตโดยบริษัทยาอื่น ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด ซึ่งมีผลสรุปออกมาว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิเป็นยาที่ดีที่สุดในท้องตลาดจริง ๆ !”

“ดังนั้นในอีกไม่นานนัก ยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิก็จะกลายเป็นยาแก้โรคกระเพาะชั้นนำของโลก ถ้าฉันต้องการที่จับห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ ฉันก็ต้องรีบจับให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการทำให้ตระกูลโคบายาชิเกี่ยวดองกับตระกูลอิโตะด้วยการแต่งงาน และนั่นจะทำให้ฉันเข้าไปลงทุนในบริษัทโคบายาชิ ฟาร์มาได้"

“ถ้าจิโร่กับนานาโกะแต่งงานกัน ฉันก็จะได้ถือหุ้นโคบายาชิ ฟาร์มายี่สิบหรือแม้แต่สามสิบเปอร์เซ็นต์เลย ซึ่งจะสร้างกำไรให้ตระกูลของเราปีละเป็นพัน ๆ ล้านดอลลาร์!"

ฮิโรชิตระหนักขึ้นมาได้ในทันใดแล้วพูดว่า "ท่านประธานครับ ผมเข้าใจในเจตนาของคุณ!”

ยาฮิโกะส่งเสียงพึมพำก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อนายอยู่เคียงข้างเธอในออสเกีย นายก็ต้องหาวิธีเกลี้ยกล่อมเธอให้ได้ นายต้องคอยอยู่ใกล้ ๆ เธอ แล้วพูดเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับจิโร่ให้เธอฟังบ่อย ๆ ถ้านานาโกะยอมตกลงแต่งงานครั้งนี้ นายก็จะจัดการให้เธอแต่งงานกับจิโรในช่วงซัมเมอร์นี้ ทันทีที่เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ถ้านายจัดการในเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ด้วยดี ฉันก็จะให้รางวัลนายห้าล้านดอลลาร์ในเวลานั้นด้วย!”

ฮิโรชิรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งแล้วรีบพูดว่า "ท่านประธานครับ ผมจะทุ่มสุดตัวเพื่องานนี้เลยครับ และจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังด้วยครับ!"

ยาฮิโกะตอบด้วยความพอใจว่า "ดีมาก ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรหานานาโกะก่อน แล้วบอกให้เธอออกไปพบกับจิโร่ในวันนี้ หลังจากพวกเขาได้พบกันแล้ว นายก็ต้องเริ่มพูดเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับจิโร่ให้นานาโกะฟังนะ"

ฮิโรชิรีบตอบว่า "ครับท่านประธาน!”

ในเวลานี้นานาโกะเพิ่งวางโทรศัพท์มือถือลง แล้วกลับมาฝึกซ้อมต่ออย่างไม่ท้อถอย

แต่อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์มือถือของเธอก็เริ่มครางหึ่ง ๆ และสั่นเตือนขึ้นอีกครั้ง นานาโกะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วรู้ว่าเป็นสายเรียกเข้าจากคุณพ่อผู้สูงส่งของเธอนั่นเอง เธอจึงรีบรับสายก่อนจะพูดอย่างนอบน้อมว่า "คุณพ่อผู้สูงส่งคะ ไม่ทราบว่าโทรหาหนูในเวลานี้มีอะไรหรือคะ? คุณพ่อมีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่าคะ?”

ในตระกูลใหญ่ ๆ ที่มีอำนาจในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะใช้การปกครองตามลำดับชั้นที่เข้มงวดมาก เด็กจากครอบครัวโดยทั่วไปมักจะเรียกพ่อแม่ของเขาว่า 'โอโต้ซัง' และ 'โอก้าซัง' ซึ่งก็เหมือนกับที่ชาวออสเกียนเรียกพ่อแม่ของพวกเขาว่า 'ปาป๊า' และ 'มาม๊า' นั่นแหละ

อย่างไรก็ตาม ในระบบการปกครองตามลำดับชั้นของตระกูลใหญ่และมีอำนาจในญี่ปุ่นนั้น ลูก ๆ ทุกคนต้องเรียกพ่อแม่ของพวกเขาว่า 'คุณพ่อผู้สูงส่ง' หรือ 'คุณแม่ผู้สูงส่ง'

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่ควรพูดกับพ่อแม่ในวันธรรมดา ๆ โดยใช้วาจาหรือคำพูดที่ฟังดูไม่เป็นทางการจนเกินไป พวกเขาควรใช้ชื่อที่ให้เกียรติเสมอเวลาพูดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กสาว บทเรียนที่สำคัญบทหนึ่งก็คือ… พวกเขาจะต้องเรียนรู้เรื่องมารยาทของชนชั้นสูงอันน่าเบื่อหน่ายนี้ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งตั้งแต่เด็ก ๆ

ถึงแม้ว่านานาโกะจะคาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด แต่เธอก็ยึดมั่นและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่ยุ่งยากทั้งหมดอย่างเคร่งครัดตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน และไม่กล้าที่จะก้าวข้ามกฎระเบียบใด ๆ เลย

ยาฮิโกะส่งเสียงก้องกังวานอยู่ที่ปลายสายอีกด้านหนึ่ง "นานาโกะ พ่อได้ยินว่าลูกชนะการแข่งขันในวันนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยนะ"

นานาโกะรีบตอบว่า "คุณพ่อผู้สูงส่งคะ การแข่งขันในรอบนี้เป็นรอบคัดเลือกผู้มีคะแนนสูงสุดแปดคนจากสิบหกคน เพื่อให้เข้าไปแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศค่ะ เป้าหมายของหนูคือการคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ ฉะนั้นอย่าลืมแสดงความยินดีตอนที่หนูได้เป็นผู้ชนะเลิศด้วยนะคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ