กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1390

"แต่ผมกลัวว่าจะมีคนในตระกูลเวดพยายามจะทำร้ายคุณ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม นายท่านเวดก็แก่แล้ว ถ้าเขาพาคุณกลับไปที่ตระกูลเวดและเปิดเผยคุณให้สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเวดเห็น เขาก็อาจไม่สามารถปกป้องคุณได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเอาเองที่จะให้คุณตั้งรกรากอยู่ในโอลรัส ฮิลล์ ก่อนที่ผมจะปกปิดตัวตนและข้อมูลของคุณไม่ให้ใครรู้ ผมไม่ได้บอกที่อยู่ของคุณให้คุณยูลจากตระกูลโกลดิ้งรู้ตอนที่เขามาตามหาคุณในตอนนั้น”

ชาร์ลีถามอีกว่า “ทำไมคุณถึงมาตามหาผมแล้วขอให้ผมกลับไปอยู่กับตระกูลเวดเมื่อไม่นานมานี้ล่ะ?”

สตีเฟนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ขอพูดตามตรงนะครับนายน้อย สุขภาพของนายท่านเวดนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่เขายังไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันและสถานะที่เป็นอยู่ของทายาทคนปัจจุบันของตระกูลเวด ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่จะส่งมอบตระกูลเวดให้กับพวกเขา ตอนที่ผมบอกนายท่านเวดว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ตื่นเต้นมาก เขาอยากจะฝึกฝนคุณให้เป็นผู้สืบทอดมรดก โดยมอบบริษัทเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป และเงินจำนวนหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ให้คุณใช้ฝึกฝนความสามารถ เมื่อคุณอยากจะกลับไปอยู่กับตระกูลเวดในอนาคต ก็มีความเป็นไปได้สูงที่นายท่านเวดจะมอบความรับผิดชอบให้คุณ เพื่อจะได้ดูแลทรัพย์สมบัติและทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ของตระกูลเวด”

ชาร์ลีตอบเบา ๆ ว่า “ผมเข้าใจแล้วครับคุณธอมป์สัน ผมทำให้คุณต้องลำบากเพราะเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว”

สตีเฟนรีบตอบว่า “อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับนายน้อย! คุณพ่อของคุณให้ความเมตตากรุณากับผมมาก และผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขาอย่างมากด้วย นี่ยังถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ผมจะไม่รู้สึกลังเลอะไรเลย ถ้าต้องยอมสละชีวิตเพื่อคุณ!”

ชาร์ลีรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากแล้วพูดว่า “ผมไม่สนใจทรัพย์สินของตระกูลเวด เมื่อถึงเวลานั้นผมก็จะทำการตรวจสอบและค้นหาเงื่อนงำที่ซ่อนเร้น ในเรื่องหารฆาตกรรมพ่อแม่ของผมอย่างแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึง ผมก็จะคิดบัญชีกับใครก็ตามที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และไม่ลืมที่จะให้พวกเขาชดใช้ความผิดนั้นด้วยชีวิต”

สตีเฟนรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นในขณะที่พูดว่า “นายน้อย ผมสามารถนอนตายตาหลับได้แล้ว หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากของคุณ! ตอนนี้คุณเป็นที่รู้จักในนามมังกรที่แท้จริงบนโลกใบนี้! ผมเชื่อว่าคุณจะใช้ความแข็งแกร่งและความสามารถในการแก้แค้น ให้กับนายท่านรองและนายหญิงรองได้อย่างไม่ผิดพลาดแน่นอน!”

เมื่อมาถึงจุดนี้สตีเฟนเริ่มน้ำตาไหลแล้ว

ก่อนที่สตีเฟนจะมาเป็นพ่อบ้านให้กับตระกูลเวดนั้น เขาเคยเป็นผู้ช่วยที่ต้องติดสอยห้อยตามพ่อของชาร์ลีไปนู่นมานี่เสมอ เพื่อนเลว ๆ ของเขาสองสามคนได้เพ่งเล็งเขาเพราะเขามีรายได้ดีและร่ำรวย คนพวกนั้นได้ล่อหลอกให้เขาเดินทางไปมาเก๊า ทำให้เขาสูญเสียเงินไปที่โต๊ะพนันจนหมดเกลี้ยง

สตีเฟนติดการพนันจนเสียคน เขาเริ่มหยิบยืมเงินจากเจ้าพ่อเงินกู้ทุกหนทุกแห่ง เพียงเพื่อที่เขาจะได้กลับไปเล่นพนันที่มาเก๊าด้วยความหวังที่จะได้เงินทั้งหมดของเขาคืนกลับมา แต่ผลก็คือยิ่งเขาเล่นพนันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งติดการพนันมากขึ้นเท่านั้น

จนในที่สุดสตีเฟนไม่เพียงแต่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีไปจนหมดเท่านั้น แต่ยังถูกเจ้าพ่อเงินกู้ไล่ล่าด้วย และด้วยความสิ้นหวังในชีวิต สตีเฟนถึงกับวางเดิมพันด้วยมือทั้งสองข้างของเขาในกาสิโน แล้วต้องแพ้พนันมือทั้งสองข้างของเขาอย่างไม่คาดคิด

ตามกฎข้อบังคับของกาสิโนในมาเก๊านั้น ไม่ว่าคุณจะวางเดิมพันอะไร ถ้าคุณแพ้คุณก็ต้องยอมรับการสูญเสีย และต้องเล่นการพนันให้จบไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนติดการพนันจำนวนมากถึงไม่มีมือหรือขา แล้วหาเลี้ยงชีพด้วยการนั่งขอทานตามมุมถนนอยู่ข้าง ๆ กาสิโน

ถึงแม้ว่าจะมีกรณีอย่างนั้นเกิดขึ้น แต่คนติดการพนันพวกนี้จะกระเหม็ดกระแหม่อย่างมาก เพื่อเก็บเงินอันน้อยนิดไว้สำหรับเข้าไปเล่นการพนันในกาสิโนต่อไป ชีวิตของพวกเขาพังพินาศและถูกทำลายอย่างย่อยยับ

เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ของชีวิต สตีเฟนก็เกือบตกหลุมพรางไปในตอนนั้น

ต่อมาพ่อของชาร์ลีเป็นผู้จ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ เพื่อไถ่ตัวเขาออกจากกาสิโนในสภาพสมบูรณ์ โดยไม่ได้รับอันตรายหรือความเสียหายใด ๆ หลังจากนั้นเขาก็บังคับให้สตีเฟนสาบานว่าจะไม่เล่นการพันอีก

เพื่อให้แน่ใจว่าเขาเลิกเล่นการพนันอย่างแท้จริงและมีชีวิตที่ดี พ่อของชาร์ลีได้เลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นพิเศษ โดยแต่งตั้งให้เขาเป็นพ่อบ้านประจำตัวเขา พ่อของชาร์ลีจะพาสตีเฟนไปด้วยทุกที่ตลอดเวลา และไม่ยอมให้เขาเล่นการพนันเลย

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สตีเฟนก็กลับมามีสติและคอยช่วยเหลือพ่อของชาร์ลีอย่างทุ่มเทสุดชีวิตจิตใจโดยอยู่เคียงข้างพ่อของชาร์ลีอยู่เสมอ เขาไม่เพียงแต่ร่วมแบกภาระและความกลุ้มใจจากพ่อของชาร์ลีเท่านั้น แต่ยังเรียนรู้ได้รับประสบการณ์การจัดการและการพัฒนาธุรกิจมากมายจากพ่อของชาร์ลีด้วย ในเวลาเพียงไม่กี่ปีเขาก็ได้กลายเป็นคนรับใช้ของตระกูลเวดที่มีความสามารถมากที่สุด

หลังจากนั้นสตีเฟนก็ได้รับการชื่นชมและการยอมรับจากนายท่านเวด ซึ่งนายท่านเวดต้องการแต่งตั้งสตีเฟนให้เป็นพ่อบ้านของตระกูลเวด แต่สตีเฟนปฏิเสธข้อเสนอของเขา ท้ายที่สุดแล้ว พ่อของชาร์ลีเป็นคนบีบบังคับให้สตีเฟนรับตำแหน่งนั้น

จากคำพูดที่พ่อของชาร์ลีเคยกล่าวเอาไว้ ความสามารถของสตีเฟนได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้นสตีเฟนจึงไม่ควรถูกจำกัดให้ทำงานเป็นแค่พ่อบ้านส่วนตัวของเขาเท่านั้น แต่ควรได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างกว้างขวางมากขึ้น

ในความคิดของเขานั้น ตำแหน่งพ่อบ้านของตระกูลเวดเป็นตำแหน่งสูงสุดที่ตระกูลชั้นสูงมอบให้กับคนนอกได้ ถ้าสตีเฟนยอมรับตำแหน่งนี้ ก็รับประกันได้ว่าเขาจะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์และร่ำรวย พ่อของชาร์ลีไม่อยากให้สตีเฟนละทิ้งโอกาสทองนี้เพียงเพราะเขา

ถึงแม้ว่าสตีเฟนจะไม่ได้เป็นพ่อบ้านส่วนตัวให้กับพ่อของชาร์ลีอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็มีความจงรักภักดีต่อพ่อของชาร์ลีมากขึ้น และยังยกให้เขาเป็นแบบอย่างและผู้ค้ำจุนไปจนตลอดชีวิต

น่าเสียดายที่พ่อของชาร์ลีจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร นี่เป็นความเสียใจและความสำนึกผิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของสตีเฟน

เขาคิดอยู่เสมอว่าถ้าเขายังเป็นพ่อบ้านส่วนตัวให้กับพ่อของชาร์ลีในตอนนั้น พ่อแม่ของชาร์ลีก็คงยังไม่ตาย

เขาอาจจะช่วยบังกระสุนให้พวกเขาในช่วงเวลาคอขาดบาดตายได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็จะมีโอกาสรอดชีวิตได้มากกว่า…