วิลเฮล์มยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง “แหม! ควินน์ ช่างเป็นคนอารมณ์ร้อนซะจริงนะ เราเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันในตระกูลโกลดิ้ง เธออายุมากกว่าฉันแล้วจะยังไงเหรอ? อย่าลืมนะว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคืนอื่นไปไม่ช้าก็เร็ว พอแต่งออกไปแล้วเธอก็ไม่ใช่คนของตระกูลโกลดิ้งอีกต่อไป เธอจะกลายเป็นคนนอก… รู้ตัวไหม?”
ชาร์ลีอ้าปากเหมือนจะพยายามจะพูดอะไร แต่เขาก็ยั้งใจเอาไว้
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลโกลดิ้ง เขาในฐานะคนนอกไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง เขาไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะเข้าไปก้าวก่ายในเวลานี้
นอกจากนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจุดประสงค์ที่เอเดรียนและโรแกนมาที่นี่ในวันนี้คืออะไร ฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจรอดูสถานการณ์อีกสักพักหนึ่งก่อน
ในเวลานี้ยูลส่งเสียงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “พอได้แล้ว! หยุดพูดกันซะที!”
เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเขาทำให้ผู้คนเหล่านั้นเงียบเสียงลงได้ เขาหันไปหาเอเดรียนและโรแกน แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “เอเดรียน โรแกน ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกแกมาที่นี่กันทำไม แต่แกมีอะไรจะพูด ก็หยุดพูดจาอ้อมค้อมเหมือนผู้ชายตุ้งติ้งได้แล้ว พูดออกมาตรง ๆ ซะ อย่าทำให้ตระกูลของเราต้องขายหน้าเลย!”
เอเดรียนยิ้มในขณะที่ใช้มือลูบคางเล่น แล้วถามด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายแต่ฟังดูเสแสร้ง “พี่ชาย ฉันได้ยินมาว่าอาการของพี่แย่ลงอีกแล้วจริงไหม? พี่ปฏิเสธที่จะไปรักษาในโรงพยาบาลเหรอ?”
ยูลตอบอย่างเย็นชา “เสียใจนะที่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว และตัดสินใจที่จะทำการรักษาอย่างจริงจัง ลูกสาวของฉันยังไม่ได้แต่งงาน ฉันจะคงไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาแล้วตายอย่างขี้ขลาดแบบนั้นได้”
เมื่อเอเดรียนและคนอื่น ๆ ได้ยินดังนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
โรแกนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงคร่ำครวญออกมาว่า “ยูล พี่ยังคิดที่จะรักษาตัวอีกเหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงมาเปลี่ยนใจล่ะ? ถึงแม้จะได้รับการรักษาอย่างจริงจัง แต่ก็จะช่วยยืดอายุให้พี่ได้อีกแค่สองถึงสามสัปดาห์เท่านั้น แต่พี่จะต้องพบกับการทรมาน การทนทุกข์ และการทดลองทุกรูปแบบในโรงพยาบาลนะ ทำไมต้องมาลำบากลำบนอีกล่ะ? คิดให้ดีสิ”
ยูลแสดงสีหน้าที่ดูเย็นชามาก เขากัดฟันแล้วพูดว่า “แกพยายามจะพูดอะไรกันแน่? พูดให้ตรงประเด็นไปเลย ไม่อย่างนั้นฉันจะถีบแกก่อนจากบ้านไป!”
เอเดรียนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่ชาย พี่เป็นลูกคนโปรดของพ่อที่แก่ชราของเรา ตอนที่พ่อตายเขาได้ยกทรัพย์สินของตระกูลโกลดิ้งให้พี่ตั้งครึ่งหนึ่ง แต่ยกให้ผมกับโรแกนคนละ 25% เท่านั้น พี่จะเอาทรัพย์สินมากมายไปทำไม? พี่ไม่มีลูกชายแล้วพอลูกสาวแต่งงานไป เธอก็ไม่ได้ใช้นามสกุลของเราอีกแล้ว พี่ต้องอย่าปล่อยให้ทรัพย์สมบัติของครอบครัวเราตกไปอยู่ในมือคนนอกสิ… ถูกไหม?”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เอเดรียนก็มองไปที่ราเชลอีกครั้ง แล้วพูดพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้าย “ยิ่งไปกว่านั้น ราเชลยังสาวยังสวยอยู่เลย พี่คิดเหรอว่าเธอจะยอมเป็นหม้ายไปตลอดชีวิตหลังพี่ตายไปแล้ว? ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องรีบแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนอื่นอย่างแน่นอน! เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะนำทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตระกูลติดตัวไปด้วย พี่ต้องการให้ทรัพย์สินของตระกูลเราตกไปอยู่ในมือของคนนอกเหรอ? ซึ่งก็คือภรรยาและลูกของพี่นั่นแหละ!”
เมื่อราเชลได้ยินดังนี้ เธอไม่เพียงแต่รู้สึกโกรธเท่านั้น แต่ยังอับอายขายหน้าอีกด้วย น้ำตาจึงไหลพรั่งพรูออกมาเหมือนเขื่อนแตก
ควินน์ก็รู้สึกเดือดดาลกับคำพูดที่ฟังไม่เข้าหูนี้ เธอกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคืองใจ
ยูลตัวสั่นด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาซึ่งดูซีดเซียวอยู่แล้ว ยิ่งดูซีดราวกับหิมะเข้าไปอีก เขาตัวสั่นอย่างหนักจนแทบจะตายได้ทุกเมื่อ
ชาร์ลีทนต่อไปไม่ไหว เขาเอื้อมมือออกไปช่วยพยุงร่างที่โอนเอนไปมาของยูล พร้อมกับส่งเสียงคำรามอย่างเดือดดาลสุดขีด “ไอ้สารเลว! แกทำเกินไปแล้วนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ