กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1594

สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์

แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัด

นอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”

“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”

“ไม่ต้องเป็นห่วง! ฉันจะสั่งคนให้คอยสอดส่องและจับตาดูนายทันทีที่นายไปถึงโอลรัสฮิลล์ ถ้านายกล้าที่จะใช้จ่ายเงินมากกว่าหนึ่งหมื่นบาท ฉันก็จะให้นายอยู่ที่โอลรัสฮิลล์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ถ้าคุณใช้เงินหลายแสนบาทที่นั่น ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากโอลรัสฮิลล์อีกเลยในชีวิตนี้!”

เมื่อดีแลนได้ยินดังนี้เขาก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้น

นายน้อยผู้สง่างามของตระกูลโคชอย่างเขาจะถูกสั่งให้อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดได้อย่างไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายเงินมากกว่าหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรวมถึงค่าเช่าห้องของเขาด้วยเหรอ?!

แบบนี้เขาไม่ต้องกินดินแทนข้าวหรือไง?!

ดีแลนร้องไห้ในขณะที่พูดว่า “คุณเวดครับ ผมเกรงว่าเงินหนึ่งหมื่นบาทจะไม่พอเป็นค่าเช่าห้องของผมด้วยซ้ำไป…”

ชาร์ลีตอบอย่างเย็นชาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ค่าครองชีพในโอลรัสฮิลล์ไม่ได้สูงอย่างที่นายคิดหรอก ค่าเช่าห้องเดี่ยวในคลิฟฟ์คูลส์อาจจะแค่สามพันบาทเท่านั้น นายจะมีเงินเหลือตั้งเจ็ดพันบาทสำหรับเป็นค่าครองชีพ ตกวันละมากกว่าสองร้อยบาท นับว่ามากพอสำหรับการดำรงชีวิตอยู่แล้ว”

อันที่จริงชาร์ลีก็เคยต้องใช้ชีวิตอย่างดิ้นรน และผ่านประสบการณ์ที่ท้าทายมามากมายในสังคมชั้นล่างมาหลายปี ดังนั้นเขาจึงเข้าใจวิถีชีวิตของคนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น

ค่าเช่าในคลิฟฟ์คูลส์นั้นมีราคาถูกมาก สมัยนั้นค่าเช่าบ้านชั้นเดียวราคาแค่หนึ่งพันบาทเท่านั้นเอง ยิ่งไปกว่านั้นค่ากินที่นั่นก็ไม่แพงด้วย อาหารหนึ่งจานในร้านอาหารข้างทางมีราคาอยู่ที่ยี่สิบสามสิบบาทเท่านั้น ตอนนั้นเขาสามารถซื้อซาลาเปาสี่ชิ้นได้ในราคาสิบบาทเท่านั้น ซึ่งก็เพียงพอต่อการยังชีพในหนึ่งวันแล้ว

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ญาติของเธอเป็นคนเริ่มและก่อให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้นมาตั้งแต่แรก เธอไม่ต้องการให้ชาร์ลีปล่อยดีแลนไปโดยไม่ลงโทษอะไรเขาเลย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ชาร์ลีก็จะไม่กลายเป็นคนทำผิดอย่างร้ายแรงไปหรอกเหรอ?

ชาร์ลีเป็นผู้มีพระคุณของเธอ และเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอรักอย่างหักปักหัวปำ เธอยอมเห็นญาติของเธอต้องเจ็บปวดใจ มากกว่าจะไปขอร้องชาร์ลีให้ผ่อนปรนเพื่อเห็นแก่เธอ

ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างขวยเขินว่า “คุณป้าคะ หนูไม่สามารถตามใจญาติของหนูได้ตลอดเวลาหรอกนะคะ ไม่งั้นก็จะยิ่งทำให้เสียนิสัยเมื่อเวลาผ่านไป!”

ชาร์ลีพูดขึ้นมาในเวลานี้ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ดีแลน ฉันขอแนะนำให้นายยอมรับข้อเสนอของฉันโดยเร็วก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ ไม่งั้นฉันจะจัดการให้นายไปเป็นคนขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้างที่โอลรัสฮิลล์นะ ฉันเคยรู้จักเจค… เป็นเจ้านายใหญ่อยู่ที่ ‘โอรัส คอนติเนนตัล เทคโนโลยี’ ในโอลรัสฮิลล์ นายรู้ไหมว่าเขาทำอะไรอยู่ตอนนี้?”

ดีแลนส่ายหัวและรู้สึกงุนงงสับสนไปหมด

ชาร์ลีทำเสียงเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “ตอนนี้เขาทำหน้าที่ขนปูนซีเมนต์อยู่ในไซต์ก่อสร้างที่โอลรัสฮิลล์ และเขาต้องทำอย่างนั้นไปอีกยี่สิบปี นายอยากไปอยู่ที่นั่นกับเขาไหมล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ