กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 391

เนื่องจากเอเลนยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองแล้ว และรับประกันว่าเธอเองจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก แคลร์ก็ใจอ่อนและเธอเองก็ตัดสินใจที่จะไม่ติดใจเอาความกับเรื่องนี้อีกต่อไป

เมื่อทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง แคลร์ก็ได้บอกกับชาร์ลีไปว่า “ชาร์ลี แม่ของฉันก็เป็นแบบนี้เสมอ อย่าได้ถือสาตำหนิเธอมากเกินไปเลยนะคะ ตราบใดที่เธอรู้ถึงความผิดพลาดของตัวเอง และเต็มใจที่จะกลับตัวกลับใจ เราก็ควรให้โอกาสเธอเป็นครั้งที่สองนะคะ”

ชาร์ลีจะพูดอะไรได้บ้าง? สุดท้ายแล้ว เธอผู้นี้ก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของแคลร์ และเป็นแม่ยายของเขา ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงยิ้มและพูดไปว่า “ผมเข้าใจคุณนะแคลร์ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผมหรอก คุณสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ด้วยตัวคุณเองเลย ผมเป็นสามีของคุณ และเธอก็เป็นแม่ยายของผม ดังนั้น ผมจะไปกล่าวโทษเธอในสิ่งที่เธอทำได้ยังไงล่ะ”

แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะกอดชาร์ลีเบา ๆ และพูดไปว่า “ที่รักคะ ฉันรู้สึกขอบคุณคุณจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณแม่และฉันก็คงไม่สามารถออกจากสถานที่นั้นมาได้… ”

ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “โอเค ไม่ต้องพูดถึงแล้วนะครับ คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมอีกด้วย!”

“อื้ม… ” แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะพูดไปว่า “เราควรเลื่อนการย้ายออกไปก่อน คุณคิดว่าอย่างไรคะ?"

แม้ว่าชาร์ลีอยากจะย้ายออกไปอยู่กับแคลร์แล้ว แต่เขาก็อยากจะเคารพการตัดสินใจของแคลร์ด้วย

ดังนั้นเขาจึงยิ้มก่อนที่จะพูดไปว่า “ผมไม่คิดที่จะย้ายออกไป หรือถ้าเรายังคงอยู่ที่นี่กันต่อไป มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับผมมากขนาดนั้น”

หลังจากนั้น ชาร์ลีดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงพูดต่อไปว่า “ยังไงก็ตาม การปรับปรุงวิลล่าที่ ธอมป์สัน เฟิร์ส เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากปรับปรุงเสร็จ เราสามารถย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าทั้งครอบครัวด้วยกันได้”

แคลร์รู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย และเธอก็พูดตอบไปว่า “วิลล่าหลังนั้นเป็นของคุณไวท์ มันจะไม่ลำบากสำหรับเราเหรอคะ ถ้าเราย้ายไปอยู่ทั้งครอบครัวแล้ว และถ้าวันหนึ่งเขาตัดสินใจต้องการวิลล่ากลับคืนล่ะ?”

“มันไม่ลำบากอะไรเลย” ชาร์ลียิ้ม “ซีค ได้โอนกรรมสิทธิ์วิลล่าหลังนั้นให้ผมเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของวิลล่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเขาก็จะไม่สามารถเอาวิลล่าคืนจากผมได้อีกต่อไป นอกเหนือจากนั้น ที่นั้นจะเป็นสถานที่ ที่เราได้ใช้ชีวิตกันอย่างเงียบสงบและมีความสุขด้วยกันจนถึงบั้นปลายของชีวิต นอกจากนั้น ถ้าเราย้ายเข้าไปในวิลล่าหลังใหญ่นั้น ในวิลล่ามันจะมีหลายชั้น เราสามารถอาศัยอยู่บนชั้นสามได้ ในขณะที่พ่อแม่ของเราอาศัยอยู่บนชั้นสอง ด้วยวิธีนี้เราก็จะสามารถพบกับพวกเขาได้น้อยลง และเราก็จะมีอิสระมากขึ้น คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

แคลร์กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่ชาร์ลีพูดนั้น สมเหตุสมผลจริง ๆ

เธออยากจะหนีจากปัญหาของครอบครัวนี้มาโดยตลอด แต่บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อแม่ เธอจะย้ายออกไปแบบนั้นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันก็ยากมากที่จะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้

ดังนั้น หากพวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าจริง ๆ ชีวิตก็จะง่ายมากขึ้น ห้องนอนของทุกคน จะไม่ตั้งอยู่บนชั้นเดียวกัน และสามารถลดสิ่งรบกวนต่าง ๆ ได้ แถมยังมีเวลาว่างให้กับตัวเองอีกด้วย

แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะพูดกับชาร์ลีไปว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น เราควรย้ายเข้าไปในวิลล่าทันที ที่การปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์นะคะ!”

***

ในเวลานี้ ณ วิลล่าหลังหนึ่งริมแม่น้ำ กำลังถูกไฟไหม้

รถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ และใช้เวลานานมากในการดับไฟ จนในที่สุดก็สามารถดับได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างภายในวิลล่าได้มอดไหม้ไปหมดแล้ว เหลือเป็นเพียงเถ้าถ่านเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าไปในพื้นที่ หลังจากที่มีไฟไหม้ เพื่อสังเกตและตรวจสอบว่าไม่มีศพมนุษย์ หรือซากศพภายในวิลล่า ซึ่งทำให้พิสูจน์ได้ว่า ไฟไหม้ครั้งนี้ไม่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

โดยปกติแล้ว บ้านที่ถูกไฟไหม้แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต จะไม่มีใครให้ความสนใจหรือพูดถึงมากนัก ดังนั้น บ้านหลังนี้ที่ถูกไฟไหม้ทั้งหลังอย่างกระทันหัน จึงไม่มีใครกล่าวถึงเลย

อันที่จริง สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่พบศพหรือซากศพของมนุษย์นั้น เป็นเพราะจัสตินและเจสันได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว โดยที่ชาร์ลีสั่งฟ้าร้องมาจัดการ ดังนั้น เศษขี้เถ้าของพวกเขาจึงถูกหลอมรวมกับวัตถุอื่น ๆ ทั้งหมดภายในห้อง และเนื่องจากขี้เถ้านั้นละเอียดมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีส่วนประกอบของ DNA หลงเหลืออยู่เลย

นี่คือวิธี ที่ทั้งสองพ่อลูกจากตระกูลแกรนท์ ระเหยจางหายไปจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง

ในเวลานี้ ทุกคนในตระกูลแกรนท์ ต่างกังวลกันเป็นอย่างมาก

พวกเขาไม่รู้ว่าพ่อและลูกชาย สองคนนี้หายไปไหน และไม่มีใครรู้เกี่ยวกับแผนการอันน่าสยดสยองและน่ากลัวที่พวกเขาคิดกันขึ้นมาเพื่อตอบโต้ชาร์ลี วิลล่าที่ถูกไฟไหม้เป็นของตระกูลของพวกเขา และแม้ว่าวิลล่าจะถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน แต่ก็ไม่มีผู้เสียชีวิต! ดังนั้นตระกูลแกรนท์ จึงคิดว่าสองพ่อลูกได้หายตัวไปเท่านั้น!

หลังจากนั้นตระกูลแกรนท์ พวกเขาก็ได้โพสต์รูปถ่ายของทั้งสองคนติดไปทั่วทั้งเมือง และได้เสนอรางวัลเป็นเงินสดจำนวนห้าล้านดอลลาร์ ให้กับทุกคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับจัสตินและเจสัน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพบบุคคลทั้งสองที่หายไปในอากาศที่เบาบางนี้ พวกเขาไม่ทิ้งร่องรอยหรือเบาะแสของการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ