สรุปเนื้อหา บทที่ 793 – กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง
บท บทที่ 793 ของ กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อี้หมิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เซี่ยวอวี๋เซวียนกัดฟันและเดินตามกู้ชูหน่วนไป
อย่าว่ากู้ชูหน่วนจะมีจุดเส้นวรยุทธ์เพียงขั้นสามเลย กำลังภายในของนาง เกรงว่าแม้แต่ระดับสองก็มิอาจวิ่งสู้นางได้
ธรณีสัณฐาณของหุบเขาเจียงเจ๋อซานซับซ้อนและปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
เซี่ยวอวี๋เซวียนตามหากู้ชูหน่วนไปนานพอควรถึงจะพบนางได้
เมื่อเซี่ยวอวี๋เซวียนมาถึง ก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงงงัน ร้องไห้ก็มิได้ หัวเราะก็มิได้
มิรู้ว่าเพราะอะไร ตระกูลไป๋หลี่และตระกูลซั่งกวนถึงได้สู้กันอย่างดุเดือดขึ้นมา
และมิรู้เช่นกันว่าหญิงสาวคนนี้ไปเอารังต่อมาแต่ใด จากนั้นก็โยนรังต่อไปทางทั้งสองตระกูลที่กำลังสู้กันอยู่
เขารู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ต่อธรรมดา แต่เป็นพญาต่อหัวเสือที่มีพิษร้ายแรงและมีฤทธิ์ชา ทั้งยังกำจัดยากอีกด้วย
เพียงแค่ถูกมันต่อย ก็จะพิการภายในระยะเวลาอันสั้น หากร้ายแรงกว่านี้ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้
เมื่อรังต่อโยนไปทางพวกเขา พญาต่อหัวเสือมากมายเห็นคนก็ต่อยในทันที ลูกศิษย์ของทั้งสองตระกูล หลบไม่ทัน จึงถูกต่อยเข้า แต่ละคนกุมศีรษะและตะโกนอย่างเจ็บปวด
“เจ็บ…เจ็บเหลือเกิน พญาต่อหัวเสือมากมายนี้มาจากที่ใดกัน”
“ซั่งกวนชิง คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ได้”
ซั่งกวนชิงเองก็ถูกต่อยเข้าหลายจุดเช่นกัน เขาโกรธนัก “ไป๋หลี่เจิ้น ดวงตาของเจ้าถูกขี้บังไว้อย่างนั้นหรือ? หากเป็นฝีมือข้าจริง พวกข้าจะถูกต่อยเช่นนี้หรือ”
“ที่นี่นอกจากพวกเราแล้ว ยังมีใครอีก”
กล่าวจบ ไป๋หลี่เจิ้นกับซั่งกวนชิงก็นึกขึ้นได้ทันควัน
ตระกูลเหวิน
นอกจากพวกเขาทั้งสองตระกูลแล้ว ยังมีตระกูลเหวินอีก
หรือว่าจะเป็นฝีมือของตระกูลเหวิน?”
ในชีวิตประจำวัน ตระกูลเหวินดูลึกล้ำและสูงส่ง ไม่สนใจไยดีใดๆ ทั้งสิ้น คาดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้อยู่ลับหลัง
“ไฟ ใช้ไฟกำจัดพญาต่อหัวเสือเสียก่อน”
“หึ่ง…”
ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านวิชาเพลิงของทั้งสองตระกูลต่างก็รวมพลังให้เป็นเพลิงไฟ และพ่นไปยังพญาต่อหัวเสือ
พญาต่อหัวเสือเกรงกลัวไฟ รวมทั้งยอดฝีมือของทั้งสองตระกูล จึงทำให้พญาต่อหัวเสือถูกกำจัดอย่างเร็วไว
หลังจากผ่านศึกครั้งนี้ไป พวกเขาก็ถูกต่อยไปไม่มากก็น้อย และมีผู้คนมากมายที่ชาไปทั่วเรือนร่าง ไร้เรี่ยวแรงที่จะยกแขนขึ้น
ตระกูลซั่งกวนเป็นตระกูลหลอมยา ซั่งกวนชิงที่เป็นผู้นำก็เป็นผู้อาวุโสของตระกูลซั่งกวน เขาพูดขึ้นในทันที
“ให้คนที่ไม่ถูกต่อยหยิบยาปลุกจิตออกมาให้กับเหล่าลูกศิษย์เร็วเข้า”
“ขอรับ…”
ลูกศิษย์ตระกูลซั่งกวนที่ไม่ถูกต่อยต่างก็รีบหยิบยาปลุกจิตออกมา
และผู้คนตระกูลไป๋หลี่ที่ไม่ถูกต่อย ก็รีบหยิบยาที่พวกเขาเตรียมมาตั้งแต่ต้นออกมาด้วย
ทว่า…
ไม่รอให้พวกเขาป้อนให้กับทุกคน ลูกศิษย์พวกนั้นก็ล้มลงไปอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าไม่ถูกต่อยมิใช่หรือ?” ไป๋หลี่กล่าวอย่างแปลกใจ
สายตาของซั่งกวนชิงแปรเปลี่ยน “มันคือกลิ่นหอมชวนพิศวาส นี่ก็เป็นควันพิษที่มีฤทธิ์ชาด้วยเช่นกัน เพียงแค่สูดดมเข้าไป ก็จะรู้สึกชาไปทั้งตัวเป็นเวลาสามวันขึ้นไป”
“อะไรนะ…กลิ่นหอมชวนพิศวาส? กลิ่นหอมชวนพิศวาสนั้นล้ำค่ามาก คนทั่วไปไม่สามารถรู้ถึงสมุนไพรและกระบวนวิธีของมันได้ ใครสามารถปรุงกลิ่นหอมชวนพิศวาสนี้ได้กัน หรือว่าเป็นตระกูลเหวินงั้นหรือ?”
นอกจากตระกูลใหญ่สองสามตระกูลแล้ว พวกเขานึกไม่ออกจริงๆ ว่ายังมีใครที่สามารถปรุงกลิ่นหอมชวนพิศวาสนี้ออกมาได้
“น่าเกลียดนัก ก่อนมาก็พูดกันไว้แล้วว่าใครพบสมบัติก่อนก็ให้คนนั้นไปก่อน ผู้อื่นห้ามแย่งชิงไปก่อน พวกข้าพบหยกสวรรค์น้ำแข็งก่อน เพราะเช่นนั้นมันจึงเป็นของตระกูลไป๋หลี่ของข้า”
“ถุย เจ้าพูดออกมาเช่นนี้มิอายบ้างเลยหรือ หยกสวรรค์น้ำแข็งนั้นพวกข้าตระกูลซั่งกวนเป็นคนพบก่อน เพียงแต่ว่าหยกสวรรค์น้ำแข็งนี้ปยิบยากนัก ข้าและลูกศิศย์จึงต้องตามหาเครื่องมือในการหยิบหยกสวรรค์น้ำแข็งให้ได้ หายไปเพียงเวลาหนึ่งพริบตา เจ้าก็อ้างว่าพวกเจ้าพบก่อน นี่เป็นเหตุผลอะไรกัน”
"ตาเฒ่าซั่งกวน จากที่เจ้ากล่าวมา ข้าเองก็สามารถอ้างได้ว่าพวกข้าตระกูลไป๋หลี่พบเจอก่อน เพียงแต่ว่าพวกข้าไปตามหาเครื่องมือในการหยิบสมบัติเท่านั้น”
ซั่งกวนชิงโกรธมาก
กู้ชูหน่วนดึงกางเกงของเขาลงอย่างรุนแรงต่อหน้าทุกคน
“สิ่งของบบนตัวเจ้าไม่มีค่า กางเกงตัวนี้ดูมีค่าดี อ๊ะ กางเกงซับในตัวน้อยของเจ้ายิ่งมีค่ามากกว่า แต่น่าเสียดายที่มีลายมากเกินไป ราวกับกางเกงลายดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น ตาเฒ่า เจ้าอายุเกินกว่าหกสิบแล้วสิท่า ทว่าสุนทรียศาสตร์ยังคงล้ำหน้าอยู่”
“…”
สีหน้าของซั่งกวนชิงเขียวแดงปนม่วง เขาสาบาน
เขามีชีวิตอยู่มาครึ่งชีวิตแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้มือล่วงเข้าไปชิงสมบัติของเขาอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวใดๆ ต่อหน้าเขา ทั้งยังดึงกางเกงของเขาอีกด้วย
ที่สำคัญคือ ยังมีคนมากมายเพียงนี้จ้องมองอยู่
หน้าอันแก่ชราของเขาใบนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว
สายตายกสูงขึ้น เขาเห็นลูกศิษย์มากมายที่กำลังกลั้นขำอยู่ แม้แต่ไป๋หลี่เจิ้นเองก็ยังกลั้นขำด้วย
โกรธ
โกรธมาก
หากสามารถขยับได้ เขาจะต้องหั่นหญิงสาวตรงหน้าออกให้เป็นแปดท่อนอย่างแน่นอน
“ทั้งสองตัวนี้ยอดเยี่ยมนัก อบอุ่นเมื่อหนาวเย็นและเย็นสบายเมื่อร้อน เนื้อผ้ายังทำมาจากหนังอสุรกายชั้นสูงอีกด้วย ตาเฒ่า เจ้าช่างมีสายตาหลักแหลมจริงๆ เพียงแต่มิรู้ว่าเจ้าโง่หรือไม่ มิเช่นนั้นผ้าชั้นดีเพียงนี้ น่าเสียดายที่ไม่เอามาทำเครื่องนุ่งห่มส่วนบน”
ซั่งกวนชิงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
“ข้าสาบานว่าเจ้าจะตายอย่างไม่อนาถนัก”
กู้ชูหน่วนตบแผ่นอกของตน และกล่าวปลอบโยนว่า “วางใจเถอะ ข้าเด็กกว่าเจ้ามากนัก ไม่มีทางตายก่อนเจ้าแน่นอน รอให้เจ้าตายไปเสียก่อน ข้าจักเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้”
“…”
กู้ชูหน่วนไม่พูดยังดีกว่า ทุกประโยคที่นางพูดออกมา สีหน้าของซั่งกวนชิงก็แย่ลงตาม จิตสังหารเพิ่มพูนเป็นหลายเท่านับไม่ถ้วน
ผู้คนรอบๆ ต่างก็กังวลแทนหญิงสาวคนนี้
เดือดร้อนใครไม่เดือดร้อน มาเดือดร้อนผู้อาวุโสซั่งกวนชิง เขามีชื่อเสียงด้านการพิทักษ์ และการแก้แค้นด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...