มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1066

เมื่อได้ฟังคำพูดที่หยิ่งยโสของฉีเติ่งเสียนแล้ว ดวงตาของอวี้ซุนหยวนแทนอยากที่จะพ่นไฟออกมาทันที

ว่ากันว่าแผ่นดินปรากฎผู้สามารถ เธอก็คืออัจฉริยะของรุ่นที่แล้ว ในใจจึงมีความภูมิใจอยู่ไม่น้อย

เมื่อเห็นเหลยเทียนซื่อกำลังจะตอบรับข้อตกลงของเธอ แต่ฉีเติ่งเสียนก็โผล่มาทำให้เสียเรื่องซะก่อน ฝ่ายตรงข้ามก็พูดจาไม่มีมารยาท ราวกับว่าไม่ได้เห็นเธอที่เป็นถึงผู้อาวุโสอยู่ในสายตา จึงทำให้เธอโกรธเป็นอย่างมาก

“โอเคโอเค ฉันเคยได้ยินมานานแล้วเกี่ยวกับทำลายความว่างปล่า ยอดฝีมือที่เกินระดับมนุษย์ไปถึงระดับเซียนแล้ว วันนี้ช่วยแสดงให้ฉันดูที！” อวี้ซุนหยวนพูดเสียงเย็น

เธออายุราวสี่สิบปี แต่หน้าตายังคงอยู่ในลักษณะไม่เกินสามสิบ นี่ไม่ใช่เพียงเพราะบำรุงรักษาดี แต่เป็นเพราะตอนวัยรุ่นได้ฝึกวิชาเปาตาน ได้ล็อคระบบเลือดลมของตนเองเป็นที่เรียบร้อย จึงทำให้เลือดลมเสื่อมช้าลง ดังคนจึงทำให้คนดูเด็กโดยธรรมาชาติ

ฉีเติ่งเสียนยกมือซ้ายของตนขึ้นมาด้วยความเย็นชา บนฝ่ามือ ได้มีถ้วยชาวางอยู่ เขามองไปที่อวี้ซุนหยวน“ถ้าเธอทำให้น้ำชาในถ้วยชานี้กระเด็นออกมาได้ ถือว่าเธอชนะ！”

อย่าว่าแต่ตัวของอวี้ซุนหยวนเองเลย แม้แต่เหลยเทียนซื่อที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างได้ยินเข้า ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนนั้นหยิ่งยโสเกินไปแล้ว

ผู้จัดการเหลยก็ถือว่าเป็นคนในวงการศิลปะการต่อสู้ แต่การกระทำของฉีเติ่งเสียนนี้ กลับทำให้เขารู้สึกว่าประมาทไปหน่อย

“ได้！”

อวี้ซุนหยวนไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังจากที่ตอบตกลงไป ก็เคลื่อนไหวทันที

ในสายตาของเหลยเทียนซื่อ รู้สึกเหมือนตาฟาด เพียงเสี้ยววิอวี้ซุนหยวนก็ได้มาอยู่ด้านหน้าของฉีเติ่งเสียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้น เขามองอะไรไม่ชัดเลยสักอย่าง รู้สึกได้แค่เหมือนตัวเองตาลายเท่านั้น ภาพตรงหน้ารวดเร็วจนมองไม่ทัน

อวี้ซุนหยวนแต่ต้นก็ใช้กระบวนท่างูในทันที แขนขาวยกขึ้นอยู่ในลักษณะ ดั่งงูพิษ จากนั้นจึกเล็งเข้าไปยังหลังหูของฉีเติ่งเสียน

หลังหูเป็นจุดอันตรายของร่างกาย หลังใบหูนี้เป็นส่วนที่เบาะบาง หากได้รับการโจมตีเข้า จะทำให้รู้สึกปวดหัวจนเหมือนหัวจะแยกออกจากกัน

หากเป็นคนที่มีทักษะธรรมดา เจอเข้ากับท่านี้ของอวี้ซุนหยวน ไม่มีทางที่จะต้านได้แน่นอน และเสียชีวิตในทันที

แต่ฉีเติ่งเสียนมีทักษะระดับไหนกัน？

เมื่อครู่ที่อวี้ซุนหยวนได้เคลื่อนไหวเข้ามา เขาก็ได้วิเคราะห์การต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เคลื่อนหัวหลบนิดเดียวเท่านั้น ก็หลบการโจมตีของอวี้ซุนหยวนที่ดูไม่อันตราย แต่จริงๆแล้วเต็มไปด้วยจิตสังหารอันโหดเหี้ยม

เมื่อโจมตีไม่โดน อวี้ซุนหยวนจึงเปลี่ยนกระบวนท่าในทันที ในขณะเดียวกันก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ตามมาด้วยกระบวนท่าต่อไป

แต่ฉเติ่งเสียนอาศัยช่วงจังหวะที่เธอกำลังจะเปลี่ยนกระบวนท่านี้ ยื่นมือออกไป มือขวายกขึ้น นิ้วสองนิ้วของเขาอยู่ใกล้กันดั่งดาบ ราวกับมีเข็มที่ซ่อนอยู่ในสําลี แทงเข้าไปยังท้องของอวี้ซุนหยวนอย่างไร้เสียง

หากเป็นนักศิลปะการต่อสู้คนอื่นล่ะก็ ไม่มีทางรู้สึกได้แน่นอน และถูกทำลายลมที่จุดตันเถียนและล้มลงตรงนั้นในทันที

แต่“พลังสดับ”ของอวี้ซุนหยวนนั้นไม่ได้อ่อนด้อย เมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่ท้อง ก็รู้ได้ทันทีว่าแย่แล้ว จึงหมุนจุดศูนย์รวมตันเถียน พร้อมกับหมุนเอว คนทั้งคนราวกับว่าไร้กระดูกก็ไม่ปาน หลบการโจมตีกระบวนท่านี้ของฉีเติ่งเสียนได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่เธอกำลังหลบกระบวนท่า“เข็มใต้สมุทร”ของฉีเติ่งเสียนนั้น ก็ไม่ได้หลบเพียงอย่างเดียว แขนได้ขยับตามร่างกายด้วยความเคยชิน จากนั้นกระชับกล้ามเนื้อ ข้อสอกยกขึ้น ราวกับรถไฟที่กำลังวิ่งออกจากอุโมงค์ พุ่งเข้าไปที่หน้าอกของฉีเติ่งเสียนในทันที ！

เหลยเทียนซื่อที่ดูอยู่หน้าประตูนั้นภายในใจมีแต่ความเยือกเย็น แรงที่ข้อสอกได้ส่งออกมานั้นช่างน่ากลัวเป็นอย่างมาก ขณะที่แรงนั้นทะลุผ่านอากาศ ได้ส่งเสียนออกมาอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ขาดความยื่นหยุ่นและความคล่องตัวเลยสักนิด