กลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์จัดตั้งขึ้นโดยศาสนาศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้กำจัดพวกนอกรีตโดยเฉพาะ อัศวินทุกคนได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี จะพูดว่าเลือกหนึ่งในหมื่นก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
"ถวายบังคมฝ่าบาท หัวหน้าร็อบเบนต้องการเข้าเฝ้าขอรับ!" ผู้ช่วยเคาะประตูห้องพระสันตะปาปา ก่อนจะรายงานเสียงเบา
"เข้ามาได้!" พระสันตะปาปากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง สวมชุดนักบวชสีขาวสะอาด ร่างกายเหมือนมีแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายออกมา
หลังจากที่ร็อบเบนเข้ามาแล้ว เขาก็ยกมือข้างหนึ่งวางแนบอกทำความเคารพ ก่อนจะพูดช้าๆ "ถวายบังคมฝ่าบาท!"
พระสันตะปาปายิ้ม "ร็อบเบน ไม่ใช่ว่านำฝึกอยู่หรอกเหรอ? ทำไมถึงมานครรัฐวาติกันได้ล่ะ?"
ร็อบเบนตอบ "ฝ่าบาท เมื่อสักครู่อวตาร......เอ่อ พระอัครสังฆราชฉีโทรมา บอกว่าจับพวกนอกรีตจากลัทธิแดร็กคูล่าได้ แถมยังเค้นความลับสำคัญได้ด้วย"
พระสันตะปาปาชะงัก "หืม? พระอัครสังฆราชฉีก็ใช้งานได้เหมือนกันนี่ ไม่เสียแรงที่ให้เขาเข้าร่วมศาสนาศักดิ์สิทธิ์ด้วย และแน่นอนว่าไม่เสียแรงที่เขามีจิตวิญญาณแห่งแซมสัน!"
ร็อบเบนพูด "เพราะฉะนั้น ผมคงต้องรีบกลับไปเซียงซานสักหน่อย"
"พวกนอกรีตน่ะ ส่งไปให้พระผู้เป็นเจ้าจัดการโดยตรงก็พอแล้วล่ะ" พระสันตะปาปาพูดเสียงเรียบ
"เขาบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมหาวิหารอวตารในหนานหยางด้วย ต้องปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง" ร็อบเบนพูด
พระสันตะปาปาได้ยินดังนั้นก็ไม่สงบนิ่งอีกต่อไป "เกิดอะไรขึ้น?"
ร็อบเบนพูด "พวกนอกรีตบอกว่าสมรู้ร่วมคิดกับสมาคมหัวเมิ่น และวางแผนที่จะทำลายมหาวิหารอวตารที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้สามารถเผยแผ่ศาสนาศักดิ์สิทธิ์ในหนานหยางได้"
พระสันตะปาปาสีหน้าพลันเย็นชา สมาคมหัวเมิ่น?
เขาลูบเคราสีเงินของตัวเองเบาๆ รู้ว่าฉีเติ่งเสียนกำลังเหยียบย่ำผู้อื่นภายใต้ร่มเงาของศาสนาศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว!
"เขามีหลักฐานหรือเปล่า?" พระสันตะปาปาถาม
"มีขอรับ ตอนนี้เขาจับกุมพวกนอกรีตเอาไว้ และยังมีรูปที่เขาโดนแถบถ่ายไว้ด้วย มีคนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของเขาตลอด" ร็อบเบนตอบเสียงขรึม
พระสันตะปาปาพูด "อ้อ มีหลักฐานสินะ! งั้นก็ไม่เป็นไร นายไปเถอะ"
ร็อบเบนยกมือวางแนบอก "ขอตัวลา"
รอจนร็อบเบนออกไปแล้ว พระสันตะปาปาก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ แต่ก็รู้สึกว่ายังดีที่ฉีเติ่งเสียนมีหลักฐาน
นอกจากนี้ พวกนอกรีตพวกนั้นยังถูกเขาคุมตัวไว้ ต่อให้เรื่องจะยุ่งยากมากไหน แต่หากถูกฟ้อง ศาสนาศักดิ์สิทฑิ์จะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังแน่นอน
"ช่างมัน ไม่สนแล้ว!" พระสันตะปาปาขี้เกียจคิดเรื่องนี้อีกต่อไป จึงอ่านหนังสือต่ออย่างสบายใจ
ไม่นาน ร็อบเบนก็พาคนจากกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเครื่องไปด้วยสองคน ตรงไปยังเซียงซาน
ฝ่ายฉีเติ่งเสียนเองก็ให้อวี้เสี่ยวหลงคุมขังคนที่ยังมีชีวิตอยู่จากลัทธิแดร็กคูล่าไว้ชั่วคราว ส่วนคนที่ตายไปแล้วนั้น ก็ส่งศพไปให้สถาบันวิจัยทำการวิจัยต่อ
อวี้เสี่ยวหลงพูดกับฉีเติ่งเสียน "นายคิดว่าทำแบบนี้ได้จริงๆเหรอ? ใช้ศาสนาศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องมือ ระวังพระสันตะปาปาจะไม่พอใจเอา!"
ฉีเติ่งเสียนตอบ "พระสันตะปาปารู้ดีว่าใครมีประโยชน์ต่อเขา และใครไม่มี ถ้าผมทำผลประโยชน์ที่มากขนาดนี้ให้เขาไม่ได้ เขาคงเขี่ยผมทิ้งไปนานแล้ว แต่พอดีว่าผมทำสิ่งที่เขาต้องการไปเยอะ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยช่วยผม"
"หืม?" อวี้เสี่ยวหลงถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...