อวี้เสี่ยวหลงนอนอยู่บนราว ร่างกายได้โค้งลงมา จากนั้นจึงขำออกมาอย่างอดไม่ได้
ปกติเธอจะอยู่ในมาดเข้มขรึมไม่ค่อยหัวเราะ แต่เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนที่หลอกสามอัศวินศักดิ์สิทธิ์ในท่าทีที่จริงจัง เธอจึงกลั้นขำไม่ไหว
เธอได้รับการฝึกมาอย่างดี ไม่ว่าจะตลกขนาดไหน เธอก็ไม่มีทางขำออกมา นอกจากว่าจะอดทนไม่ไหวแล้ว
“แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่พระอัครสังฆราชที่แท้จริง ก็แค่แอบอ้างตนเท่านั้นแหละ!” อวี้เสี่ยวหลงคิดในใจ
แน่นอนว่า ฉีเติ่งเสียนยังคงหลอกสามอัศวินศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ใบหน้าเข้มขรึม เมื่อมองแล้วก็รับรู้ได้ถึงความจริงจัง
“พวกเราสามารถเข้าร่วมกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ด้านความกตัญญูแห่งศรัทธา รับรองได้เลยว่าไม่มีปัญหาแน่นอน!ฉันพูดได้เลยว่า ผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้น ล้วนมีความกตัญญูและศรัทธาในศาสนาศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้า!” ร็อบเบนมองไปที่ฉีเติ่งเสียนแวบหนึ่ง จากนั้นจึงพูดขึ้นมาด้วยความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
ความกตัญญูเป็นหลักธรรมประจำใจของเขา การที่ฉีเติ่งเสียนพูดแบบนี้นั้น ราวกับสงสัยในความกตัญญูของเขาอย่างไรอย่างนั้น แบบนี้จึงทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า“มีแค่ความกตัญญูนั้นไม่พอ......พระองค์ได้กล่าวไว้ ต้องเพิ่มเงิน!”
ทั้งสามคนชะงัก พูดแบบนี้ด้วยหรอ?
ในจุดนี้ฉีเติ่งเสียนไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เป็นความจริงที่พระสันตะปาปาให้เขาเพิ่มเงิน ถึงจะมอบ“เคล็ดลับศักดิ์สิทธิ์”ให้กับเขา
“ไม่มีของดีตกลงมาจากฟ้าได้ พระเจ้าได้สอนพวกนายว่าตะวันขึ้นตื่นมาทำงาน ตะวันตกจึงพักผ่อน ซึ่งเป็นการสอนว่าไม่ให้เป็นผู้ที่ขี้เกียจ ต้องพึ่งความขยันเพื่อที่จะได้มาซึ่งอาหาร!”
“ในขณะเดียวกัน พวกนายอยากจะดูเคล็ดลับศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ล่ะก็ แน่นอนว่าต้องมีค่าตอบแทนเป็นไปตามกฎ”
“ธุรกรรมเงินที่ยุติธรรม จะไม่ถูกเกลียดชังจากพระผู้เป็นเจ้า!”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง สายตาของเขาที่มองไปยังสามอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้น เต็มไปด้วยพลังแห่งพระเจ้า
ร็อบเบนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเหมือนมีตรงไหนไม่ถูก แต่เพื่อครู่เจอเข้ากับ“พลังลาเซ็งกัน”ของฉีเติ่งเสียนเข้าไป จึงทำให้เขาเลื่อมใสอย่งสุดจิตสุดใจ แบบนี้ไม่ใช่เวทมนตร์แล้วเป็นอะไร?
“ดูแล้วเหมือนพวกนายจะยังไม่ค่อยเชื่อนะ แบบนี้ ฉันจะแสดงเวทมนตร์อีกอย่างให้ดู จะเต็มใจเรียนไหม ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกนาย!” ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ
เขาให้เยเลน่าและลาเต๋อกังเดินมาอยู่ข้างตนโดยยืนห่างเป็นระยะสามฟุต จากนั้นจึงพูดว่า“ท่านี้เรียกว่า ข่ายเทพพิชิตฟ้า เป็นการใช้เวทมนตร์ในการทำให้อากาศโดยรอบระเบิด ส่งผลให้ศัตรูพลังถดถอยและวิงเวียน”
อวี้เสี่ยวหลงมองฉีเติ่งเสียนที่พูดมั่วซั่วด้วยความสนใจ นี่ไม่ใช่ว่าเอากังฟูของหัวกั๋วมาหลอกคนต่างชาติหรอกหรือ ยังมีหน้าบอกว่าเป็นเวทมนตร์อีก......
หมอนี้มันพิเรนจริงๆ เมื่อครู่เป็นพลังลาเซ็งกัน ตอนนี้เป็นข่ายเทพพิชิตฟ้า......
เมื่อทั้งสองประจำที่เป็ฯที่เรียบร้อยแล้ว ฉีเติ่งเสียนได้ท่านั่งม้า จากนั้นทั้งสองมือได้ทำท่าตราประทับจิตรจุลนาคาออกมา พลังภายในร่างกายและพลังหยางของหัวใจได้รวมกันเป็นหนึ่ง จากนั้นจึงปรากฏออกมาเป็นพลังระเบิดออกมาทันที!
ทันทีที่เขาคำราม ภายในร่างกายของเขาได้ส่งพลังอันน่ากลัวออกมาสู่ภายนอกทันที!
ทันทีที่พลังระเบิด อากาศรอบตัวเขาก็สั่นพร้อมกับอากาศที่ถูกระเบิด อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รู้สึดได้ราวกับมีพลังแรงกดดันที่สามารถทำให้คนขาดหายใจตายได้ออกมา ตามด้วย พลังสายใหญ่ที่ทำให้ทั้งสองกระเด็นไปด้านข้าง
ทั้งสองคนถอยหลังไปหลายก้าว ถึงจะหยุดยืนอย่างมั่นคงได้
ร็อบเบนที่อยู่ด้านข้างตกตะลึง พูดขึ้นมาด้วยความตะลึงว่า“สุดยอดมาก!”
“เป็นอย่างไร ไม่ได้หลอกพวกนายเห็นไหม?” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความภูมิใจ
เขาลักไก่ล้วนๆ ด้วยศิลปะการต่อสู้และความสามารถทางกายภาพของเขา ที่หลอกคนต่างชาติที่ไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ของหัวกั๋ว บวกเข้ากับเในมือที่มีเคล็บลับของพระสันตะปาปาอยู่จริง เป็นไปได้ง่ายที่จะหลอกคนได้
“เจ๋งเป้ง!” เยเลน่าพูดออกมาอย่างอดไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...