สวี่ฉางเกอกำลังจะเข้ารับตำแหน่งนายหางเสือของสาขาเซียงซานหลงเหมิน มันทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ยังไงก็ตาม ก่อนหน้านี้ สวี่ฉางเกอเป็นคนไม่สุภาพและอวดดีมาตลอด ธุรกิจก็ทำได้งั้นๆ โอ้อวดต่อผู้คน
แต่ฉีเติ่งเสียนก็ได้ให้สวีฉางเกอรับหน้าที่นายหางเรือเสือด้วยความเต็มใจ
พวกคณาธิปไตยประเทศเสวี่ยพูดอะไรบางอย่างที่บ้าคลั่ง พวกเขาถือเพียงแค่ว่าให้ลิงตัวหนึ่งเป็นประธานาธิบดี นั่นมันไม่มีปัญหา
อย่างงั้น ฉีเติ่งเสียนก็สามารถพูดได้เช่นเดียวกัน เขาก็เพียงแค่ให้ลิงตัวหนึ่งมารับหน้าที่นายหางเรือเสือของสาขา ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้าน
ในที่สุดสวีฉางเกอก็ได้ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของหลงเหมินเลย แต่เมื่อเข้าสู่หลงเหมิน ก็สามารถเป็นนายหางเสือของสาขาได้ทันที
“ช่วยไม่ได้ ใครให้เขามีลูกสาวที่ดีแบบนี้หล่ะ? มีบางคนอดไม่ได้ถอนหายใจที่มีคนซ่อนคุณสมบัติที่โดดเด่นไว้
แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพราะความสัมพันธ์กับสวี่อี้หรู มันเป็นเรื่องง่ายที่ฉีเติ่งเสียนจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสวี่ฉางเกอ
อีกอย่าง สวี่ฉางเกอยังเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับหยางกวนกวน ดูยังไงก็นับว่าเป็นคนของตัวเอง
หลี่เหอถูได้พบกับสวี่ฉางเกอเป็นการส่วนตัวแล้ว ยังไงก็ตาม ฉีเติ่งเสียนพูดว่าต้องการให้สวี่ฉางเกอรับตำแหน่ง สำหรับตำแหน่งประธานสมาคมของเขามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของคนก่อน
“ประธานสมาคม” หลังจากสวี่ฉางเกอได้เจอกับหลี่เหอถู ก็ได้รีบทักทายอย่างสุภาพทันที
“คุณสวี่ ตั้งแต่วันนี้ไปคุณก็นับว่าเป็นนายหางเสือของสาขาย่อยในเซียงซานหลงเหมินแล้ว การที่จะต้องรับผิดชอบหน้าที่สำคัญมาถึงแล้ว!” หลี่เหอถูพูดและตบไปที่ไหล่ของสวี่ฉางเกอ
หลังจากสนิทสนมกับสวี่ฉางเกอ เขาก็รู้สึกว่าคนผู้นี้เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งหน้าที่นี้อย่างมาก ยังไงก็ตาม เซียงซานในตอนนี้ สิ่งที่ต้องการคือความมั่นคง
สวี่ฉางเกอมีวิชาความรู้และสง่าอีกยังอ่อนโยนต่อผู้คน ทั้งมีบุคลิกที่มีเสน่ห์ มันเพียงพอสำหรับสิ่งที่หลี่เหอถูเขาต้องการ
ฉีเติ่งเสียนก็ได้ถึงที่หมายกับหยางกวนกวนแล้ว เมื่อถึงที่สนาม หนุ่มหล่อที่สุดเป็นไปตามธรรมชาติ ยังไงก็ตาม พูดถึงในช่วงนี้ เขาก็เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเซียงซานแล้ว
“อะไร วันนี้คนของพระจันทร์เต็มดวงไม่มาหรอ?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะมองหาไปรอบๆ เอ่ยถามกับหลี่เหอถู
“ตอนนี้คุณเป็นคลื่นยักษ์ที่ทรงพลังในเซียงซาน ผู้คนก็ไม่ใช่คนโง่ เป็นไปได้หรือว่าจะรวมหัวกันมาให้คุณจัดการน่ะ?” หลี่เหอถถามกลับด้วยความชิลๆ
“โหยวหยางซือเป็นถึงคนที่พระจันทร์เต็มดวงฝึกฝนมา ความล้มเหลวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเซียงซานแล้ว พวกเขาจะไม่สนใจได้ยังไง?” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างครุ่นคิด
หลี่เหอถูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา พูด: “อะไร คุณยังหวังว่าผู้คนจากพระจันทร์เต็มดวงจะมาต่อต้านเรื่องนี้หรอ?”
ฉีเติ่งเสียนพูด: “ฉีนเพียงแค่สงสัย หงฮวาถิงของสมาคมหง มีหงเซิงซือผู้มีฝีมือสูงระดับนี้อยู่ ถ้าอย่างงั้น พระจันทร์เต็มดวงของหลงเหมิน สิ่งที่ยังซ่อนอยู่เป็นยังไงล่ะ?”
หลี่เหอถูพูด: “เดิมที่มีคนต้องการมาที่พระจันทร์เต็มดวง รวมถึงประธานสมาคมพวกนั้น มีบางพวกนั้นถอดใจกับพวกเราไปนานแล้ว”
ฉีเติ่งเสียนพูด: “อ้อ?ถ้ายังไงทำไมไม่มีคนมา?”
หลี่เหอถูมองไปที่เขา และพูด: “คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?”
“ฮา?” ฉีเติ่งเสียนงงงัน ได้ยินท่าทางการพูดนี้ของเขา มันเหมือนกับเยาะเย้ยถากถาง
“มีไอ่ใบ้หนึ่งคนพาพระภิกษุไปที่พระจันทร์เต็มดวงเพื่อดื่มชา หลังจากนั้นยังระเบิดสมองไปถึงสอง” แก้มของหลี่เหอถูกระตุก หลังจากนั้นพูดด้วยความโกรธ
ไม่อย่างงั้นล่ะก็ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นั่นเทียบเท่ากับการที่ฉีปู้อวี่จับคอทั้งหมดในหลงเหมินด้วยมือเดียว ตบปากที่ใหญ่ต่อหน้าพวกสมาคมทั้งหลายเพื่อเป็นการทั้งทาย
ถึงแม้ว่าหลงเหมินอาจจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่แน่นอนว่าจะทำให้เขาเดือดร้อนได้อย่างแน่นอน
“พวกเขาคิดเลขเก่งนะ ยืมมือพ่อของเขาเป็นปัจจัยที่มาชำระความไม่มั่นคงภายใน” ฉีเติ่งเสียนส่ายส่ายหัว พูดอย่างอดไม่ได้
“เรื่องนี้เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่อย่างงั้นล่ะก็ เมื่อคนของพระจันทร์เต็มดวงมาถึงเซียงซาน แม้ว้าคุณจะสามารถหยุดมันได้ด้วยพลังของคุณ แต่ยังไงก็ต้องเกิดการขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หัวหน้าสมาคมพวกนั้น ที่ต่อต้านมัน จะอาศัยโอกาสนี้สร้างปัญหาอย่างแน่นอน” หลี่เหอถูตอบด้วยใบหน้าที่เย็นชา
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วหัวเราะอีก พูด: “นี่ก็ดี ในช่วงไม่กี่ปี่นี้พ่อของฉันจัดการอย่างเงียบๆ เป็นการดีที่จะให้เขาออกมาเดินซักสองก้าว ต้องรู้ไว้ว่า ฉันเป็นคนที่สามารถแข่งขันกับพ่อของฉันได้เช่นกัน!”
หลี่เหอถูเงียบไปชั่วขณะ ซักครู่ถึงได้อ่ยพูด: “พ่อของคุณนี้ ดีที่สุดอย่าไปสู้ดีกว่า ครั้งนี้ให้เขาลงมือ จริงๆ แล้วเพียงแค่อยากกำจัดสองคนนั้น ใครจะรู้ว่าหมัดของเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ ในเวลาอันสั้น มันสมองก็หลุดออกมาแล้ว......มันสายเกินไปที่จะช่วย”
“เอ่อ......”
เปลือกตาของฉีเติ่งเสียนกระตุก หลังจากนั้นกล่าวเอ่ย: “คงเป็นเพราะสองคนนั้นพูดมากเกินไปแล้ว พ่อของฉันค่อนข้างเกลียดคนพูดมาก ไม่เหมือนฉัน ผู้คนพูดจาเยาะเย้ยฉันยังไง พ่นยังไงใส่ฉันก็ไม่เป็นอะไร”
นี่ก็เป็นเรื่องจริง ถ้าหากว่าเอาฉีเติ่งเสียนและฉีปู้อวี่สลับกันดู เกรงว่าในเส้นทางนี้ มันสมองคงเต็มพื้นไปหมด
หลี่เหอถูมองดูนาฬิกา กล่าวเอ่ย: “โอเค ไม่พูดมากกันแล้ว ถึงเวลาแล้ว ฉันต้องไปเป็นประธานในการประชุมคราวนี้!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาหันและจากไป ขึ้นไปที่เวที หยิบไมโครโฟนขึ้นมา เตรียมพร้อมเป็นประธานในการประชุม
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสตระกูลจี้ สองพี่น้องตระกูลเหลย หวงเหวินหลั่ง รวมไปถึงเฉินหยูและคนสำคัญคนอื่นๆ ในเซียงซานก็ค่อยๆ มาถึงสถานที่ มาร่วมแสดงความยินดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...