มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1261

คำพูดของเจียงชิงเย่ว์ พูดได้ว่าไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากแต่เป็นการดูหมิ่นการมากเกินไป

ใบหน้าของเหอเซียวถึงกับตกใจ อะไรนะ?กลัวตัวเองถูกทุบตีจนตาย?เป็นชาวต่างชาติ กล้าทำร้ายคุณชายตระกูลเฮ่อจนตาย?

“คนชั่ว อย่าคิดว่าคุณพูคำพูโพวกนี้แล้วฉันจะใจอ่อนปล่อยคุณไปนะ!”เหอเซียวพูดอย่างโกรธๆ

ฉีเติ่งเสียนทนฟังไม่ไหวแล้วพูดขึ้น: “รีบเลย ให้โอกาสคุณเรียกคน อย่าทำให้ฉันเสียเวลากินมือดึก ถ้าพูดอีกหน่อยจะตัดลิ้นคุณทิ้งก่อนเลย!”

หลังพูดจบ เขาก็หยิบมีดขึ้น แล้วแตะไปที่ท้องของเหอเซียว แตะจนคนทั้งคนม้วนไปมา เขาที่นอนอยู่บนพื้นก็อ้วกออกมา

“ฉันไม่มีทาง...ปล่อยคุณไปแน่นอน!”เหอเซียวกัดฟันแล้วพูดอย่างทนความเจ็บเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ที่โหดร้ายของคุณชาย

“ให้คุณเรียกคน ไม่ได้ให้คุณพูดไร้สาระ!”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่พอใจแล้วแตะไปอีกหนึ่งรอบ

จิ่วเฮิงที่มองอยู่ข้างๆก็หัวเราะขึ้น

รู้สึกน่าตลกเพราะว่าฉีเติ่งเสียนมีวิชากังฟูที่สูงขนาดนี้ แล้วเขาเป็นคนใหญ่โตนอกเขต แต่กลับจะมาสู้อย่างโหดร้ายกับคุณชาย รู้สึกน่าตลกและสนุก

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น: “จะเรียกคนไหม?ถ้าไม่เรียก ฉันจะไปแล้วนะ!”

เหอเซียวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น แม่ของเขาทราบข่าวแล้วมาถึงที่

“คนต่ำ กล้าทำร้านลูกชายของฉัน!”แม่ของเหอเซียว คุณน้าสามตระกูลเหอซูหงจวนพูดด้วยดวงตาที่แดง

“แม่?”เหอเซียวตะลึง จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงจะร้องไห้

มีคนหลายคนตามหลังของซูหงจวนเข้ามา หนึ่งในนั้นฉีเติ่งเสียนรู้จัก อีกทั้งยังเป็นคนในสายเลือดเดียวกัน นี่ทำให้เขานั้นตกตะลึง

หวังซานยื่อเห็นคนของตระกูลเหอมา ก็ตกใจจนตัวสั่น แล้วใช้สายตาที่อ้อนวอนส่งให้กับฉีเติ่งเสียน หวังว่าท่านนี้จะไม่สนใจตัวเองเพราะความกดดัน ไม่อย่างนั้นเขาคงตายอย่างไร้ที่ฝัง

เหอเซียวกัดฟันแล้วพูด: “แม่ คนต่ำพวกนี้คงคิดว่าตระกูลเหอเราตกต่ำ ทั้งคนทั้งผีกล้ามาเหยียบหัว?ถ้าวันนี้ไม่สั่งสอนพวกเขาหน่อย เกรงว่าอีกหน่อยคงจะพุ่งมาทางพวกเราอย่างไม่กลัวอะไรแล้ว!”

ซูหงจวนก็ออกฉีเติ่งเสียนออกตั้งแต่แวบแรก นี่ทำให้เขานั้นตะลึง เธอไม่ใช่คนที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อน รู้ว่าฉีเติ่งเสียนนั้นเป็นใคร

และแล้ว เขาก็หันตัวไปแล้วพูดกับชายหนุ่นวัยสามสิบ: “คุณฉี ในเมื่อพวกเราลงทุนที่จะพ่งพาคุณแล้ว อย่างนั้นเรื่องวันนี้ก็รบกวนคุณแล้วนะ!”

ชายคนที่เขาเรียกว่า“คุณฉี” ก็คือพี่ชายของฉีเติ่งเสียน ฉีหยุนเฟิงนั้นเอง

ครั้งก่อนที่ทั้งสองเจอกัน ตอนที่อยู่จงไห่ จากนั้นก็นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ของฉีปู่อวี่และฉีเติ่งเสียน ดูแล้วความสัมพันธ์ทั้งสองนั้นไม่ค่อยดี อีกทั้งเมื่อแสดงออกมาแล้วเป็นชุดๆเลย คนนอกไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริงเป็นยังไง

“คนต่ำ ลือบอกพวกคุณไปแล้ว ตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง ตอนนี้มีพวกเรานั้นอยู่เบื้องหลัง!”เหอเซียวเช็ดเลือดแล้วลุกขึ้นมาพูดแล้วหัวเราะขึ้น

ฉีหยุนเฟิงพูดอย่างนิ่งๆ: “ฉันก็ว่าใครกันที่กล้าวิ่งมาถึงที่เมืองจิงเต่ามายุ่งกับคุณชายเหอ ที่แท้ก็คือคุณเอง!”

“ไม่คิดเลย ไม่เจอกันหลายปีคุณก็ยังไม่มีอะไรพัฒนาขึ้น เหมือนพ่อคุณเลยไร้สมอง ใช้เป็นแต่กำลัง”

จิ่วเฮิงพูดกับฉีเติ่งเสียน: “ทำไมยังต้องพูดมากอีก พวกเราทั้งสองร่วมมือกัน พวกที่อวดเก่งพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาไก่แล้ว”

ผู้มากฝีมือข้างหลังของฉีหยุนเฟิง ฝึกฝนมาอย่างดี เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่เคยปฏิบัติงานมาก่อน

คำพูดแบบนี้ของจิ่วเฮิง ทำให้พวกเขานั้นรู้สึกโกรธมากๆ

แต่ว่าคำพูดของจิ่วเฮิง นั้นเป็นความจริงมีเหตุผล!

วิชาการต่อสู้ของเขาและร่วมมือกับฉีเติ่งเสียนที่แข็งแกร่ง ใต้หล้าไม่มีใครสามารถตั้งรับได้ แม้ว่าคลาร์กที่เก่งกาจมาก็คงจะแพ้พ่ายในสิบท่า

ฉีหยุนเฟิงทนไม่ไหวมองหน้าของจิ่วเฮิง ไม่รู้ว่าไอ้โง่นี่มากจากไหน พูดจาโอ้อวด!

แต่ว่า เมื่อเขาดวงตาของเขาและจิ่วเฮิงจ้องกัน รู้สึกทั่วร่างกายหนาวสั่นขึ้นทันที ขนลุกขึ้น รู้ลึกว่าถึงความอันตราย

ซูหงจวนก็ทนไม่ไหวแอบกลัวขึ้น เธอรู้ว่าฉีเติ่งเสียนมาเข้าใกล้เพื่อเมืองเซียงซาน เพื่อจะให้ตระกูลจี้ก้มหัว!คนแบบนี้ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร?แต่ว่าตอนนี้เธอได้รับการสนับสนุนจากตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง ใครมาเขาก็กล้าไปยุ่งด้วย!

ฉีหยุนเฟิงพูดอย่างเย็นชา: “แม้ว่าคุณถูกไล่ออกจากตระกูล แต่ยังไงความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือด ฉันไม่อยากให้ใครๆเขาพูดกันว่าทำร้ายคนในสายเลือดเดียวกัน”

“แต่ว่า วันนี้คุณทำผิดก่อน ควรต้องเอาเอกสารทางการมาจัดการเรื่องนี้?”

“หืม?!”

ขนาดที่พูดอยู่ เสียงของฉีหยุนเฟิงก็ดูแข็งและเข้มขึ้น คนทั้งคนก็เข้มงวดขึ้นเช่นกัน ทำให้คนนั้นไม่กล้าขัด