“คุณหุนหันพลันแล่นเกินไป มันไม่ฉลาดเลยที่จะท้าทายคนของแก๊งบิ๊กเซอร์เคิล!”
หยางหยุนจือผู้หญิงที่เคยสงบ ดูฉลาดมาโดยตลอด อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อยให้กับฉีเติ่งเสียนในตอนนี้
กังฟูของฉีเติ่งเสียนทรงพลังมากก็จริง แต่ก็ไม่เหมาะสมที่จะท้าทายกองกำลังทางอากาศของแก๊งบิ๊กเซิร์เคิลเพราะทุกคนล้วนมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากกว่า
ไม่ว่าทักษะจะแข็งแกร่งแค่ไหน หากถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มมือปืนกับระเบิดจำนวนมากหนึ่งถูกขว้างเข้าไป ฝ่ายเราจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบเอง
เพราะกำลังคนมีจำกัด อาวุธสมัยใหม่ก็เป็นศัตรูที่ทรงพลังที่สุดของนักศิลปะการต่อสู้เสมอ
แม้ว่าจะฝึกกังฟูมามากกว่าสิบหรือยี่สิบปี มันจะกลายเป็นยอดฝีมือที่สามารถใช้พลังเพื่อหลบกระสุนได้เท่านั้น แต่อาจจะถูกลูกกระสุนเจาะเข้าตอนไหนก็ได้
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะและพูดว่า “คุณนาย เรื่องนี้คุณไม่ต้องห่วง ฉันมีแผน”
จิ่วเฮิงกล่าวว่า: “แค่อยากเจอพวกเขา อยากเห็นด้วยว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีมันไปถึงไหนแล้ว!”
ฉีเติ่งเสียนกลอกตา ความคิดของจิ่วเฮิงไม่ค่อยดีนัก เขาจะไม่ทำแบบนั้น การเผชิญหน้ากับพลร่มของแก๊งบิ๊กเซิร์เคิลก็ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย
เนื่องจากฉีเติ่งเสียนพูดอกมาแบบนี้ หยางหยุนจือจึงไม่อยากพูดอะไรอีก
เพราะไม่ว่าเธอจะรับฉีเติ่งเสียนให้เข้าร่วมแก๊งค์หรือจะร่วมมือกับแก๊งบิ๊กเซอร์เคิลต่อไป มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเธอมากนัก
เนื่องจากทั้งคู่อยากมีปัญหากัน ก็เชิญพวกเขามีกันไปเลย! แต่คงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ถ้า ฉีเติ่งเสียนจะเสียชีวิตลงไป เฮ่อตั่วเหลียนรารถนาที่อยากจะให้ลูกสาวฝากตัวเป็นลูกศิษย์
เฮ่อตั่วเหลียนตกตะลึงและไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา เธอหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอให้ท่านอาจารย์ฉี ชนะและประสบความสำเร็จ!”
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดอะไร เพียงดื่มชาไปอึกเดียว
พนักงานเสิร์ฟใช้เวลาไม่นานในการนำอาหารทุกจานเข้ามา ขั้นตอนของอาหารบางจานนั้นซับซ้อนมากจนทำให้คนมองรู้สึกปวดหัว เพราะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับส่วนประกอบของอาหาที่ทำในแต่ละจาน
เมื่อฉีเติ่งเสียนเห็นโต๊ะที่มีอาหารที่ดูน่าเอร็ดอร่อย เขาแอบรู้สึกชมเชย: “คุณนายสามารถเชิญท่านไป๋หลิวให้เป็นหัวหน้าพ่อครัวของเธอได้นี่สุดยอดจริงๆ! มีไม่กี่คนที่สามารถปรุงอาหารออกมาได้แบบนี้”
หยางหยุนจือยิ้มและพูดว่า: “ฉันกินแค่ครั้งเดียวในโรงแรมที่แผ่นดินใหญ่ ฉันคิดว่ามันอร่อยมาก จึงเริ่มทำการชิงตัวมา”
การมีเงินนั้นประโยชน์แน่นอน เพราะของส่วนใหญ่ที่คุณชอบหรือแม้แต่คนที่คุณชอบก็สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
“คุณฉี เล่าความสัมพันธ์ของคุณกับเชฟไป๋ก่อนหน้าให้เราฟังหน่อยได้หรือเปล่า?” เฮ่อตั่วเหลียนถามอย่างสงสัย
“ก็ไม่มีอะไร หากสงสัยอะไร สามารถถามเธอได้เลย ให้เธอเป็นคนตอบคำถามเอง” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ และถ้าเขาพูดถึง มันจะเป็นการเพิ่มบาดแผลก็ได้
เฮ่อตั่วเหลียนทำได้เพียงยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ไม่พูด มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร
เมื่อจิ่วเฮิง ที่กินซาลาเปาติดกันมาหลายปี เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและพูดว่า: “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าในโลกจะมีอาหารอร่อยขนาดนี้! ห้าสิบปีก่อนฉันใช้ชีวิตเหมือนสุนัขจรจัด!”
เมื่อเขาคำพูดหลุดออกมา เฮ่อตั่วเหลียนกับหยางหยุนจือก็ประหลาดใจ
จิ่วเฮิงตกตะลึงและเกือบจะด่าออกมา ตามที่เขาคาดไว้ ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี!
หลังจากได้ยิน อวี้เสี่ยวหลงตกใจและพูดว่า: “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? แก๊งบิ๊กเซอร์เคิลรู้ว่าประเทศหัวกั๋วของเรามีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวด พวกเขาเลยหาทางออกอื่น พวกเขาเลยส่งกองกำลังทางอากาศเข้าสู่จิงเต่างั้นเหรอ แน่ใจนะ?”
“แน่นอน ว่าฉันแน่ใจและมั่นใจมาก! กองกำลังทางอากาศพวกนี้ มาพร้อมกับอาวุธสมัยใหม่จำนวนมาก ภายในสามวันนี้พวกเขาจะขึ้นฝั่งจากบริเวณอู่ต่อเรือที่ถูกทิ้งร้างไว้อย่างแน่นอน”
“ฉันสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการต่อสู้ในตระกูลเฮ่ออย่างแน่นอน เพราะคนที่ได้รับการสนับสนุนจากแก๊งบิ๊กเซิร์เคิลคืออนุภรรยาของเฮ่อฮงบิน ชื่อหยางหยุนจือ”
“ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดครั้งใหญ่ในจิงเต่า ซึ่งจะส่งผลกระทบครั้งใหญ่เมื่อถึงเวลานั้น”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ดูกังวลเกี่ยวกับประเทศกับประชาชน
อวี้เสี่ยวหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเย็นชา: “ถ้ากองกำลังทางอากาศของพวกเขากล้าที่จะขึ้นฝั่งที่จิงเต่าด้วยอาวุธครบมือ ฉันจะฆ่าพวกนั้นที่อยู่รอบ ๆ อู่ต่อเรือร้างนั้นทั้งหมด! แก๊งบิ๊กเซอร์เคิลมีกองกำลังชั้นยอด อาวุธที่ทันสมัย งั้นต้องเจอกับทหารที่ฝีมือเก่งกาจ ที่ได้รับการฝึกจากประเทศของเรา!”
ฉีเติ่งเสียนตอบรับก่อนจะพูดว่า “ดี งั้นเอาแบบนี้ ฉันเอาข่าวมาให้แล้ว เธอลองคิดหาวิธี หากเธอจะจัดการลงมือภายในสามวันนี้ ฉันจะไปด้วย!”
อวี้เสี่ยวหลงกับฉีเติ่งเสียนตกลงนัดแนะกันก่อนจะวางสายไป
ฉีเติ่งเสียนเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างพอใจ หันกลับมาเห็นจิ่วเฮิง ที่กำลังมองเขาราวกับปีศาจ เขาจึงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“มองบ้าอะไร?” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างเหลืออด รู้สึกว่าการมองมานั้นทำให้เขาไม่ชอบใจอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...