มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1362

ถึงแม้ว่าจินถงอวี้หนี่ว์ เหมือนจะถูกฉีเติ่งเสียนเอาเปรียบ แต่ จะไม่พูดก็ไม่ได้ ก็เพราะว่าเสียเปรียบ พวกเขาถึงรักษาชีวิตไว้ได้

ไม่อย่างนั้น จะต้องไปสังหารอาจารย์จางเทียน?

นี่คือฉีเติ่งเสียนช่วยพวกเขาไว้

หลังจากที่บอกลากันแล้ว ฉีเติ่งเสียนเดาว่า สองคนนี้ได้รับภารกิจจากสวีเอ้าเสวี่ย ในอนาคตเกรงว่าจะไม่สามารถอยู่ในประเทศเสวี่ยได้

ถึงเวลานั้น เขายื่นสัญญาให้ นำทั้งสองคนเข้ามาอยู่ใต้ปีกของตัวเองก็ได้แล้ว!

ถึงยังไงหลานอวี่ก็เป็นคนของตระกูลจ้าว ถึงแม้ว่าจะเป็นคนใช้ของจ้าวหมิงลู่ แต่ตำแหน่งและฐานะก็ค่อนข้างมีอำนาจและชื่อเสียง ถ้าเธอตาย ก็ทำให้ตระกูลจ้าวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอน

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะขอบคุณคนรักเก่าของตัวเอง ที่เข้ามาเพิ่มความช่วยเหลือให้ตัวเอง

“ทำไมสองคนนี้ถึงเป็นคู่รักกันล่ะ?จินถงกับอวี้หนี่ว์…ยังเป็นนักฆ่า?”หลี่อวิ๋นหว่านกลับมาแล้ว จึงถามฉีเติ่งเสียนด้วยความสงสัย

ดังนั้น ฉีเติ่งเสียนก็นำเรื่องราวของทั้งสองคนบอกกับเธอ ฟังจนเธออดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้น

หลี่อวิ๋นหว่านก็พูด“จินถงเป็นผู้ชายที่มีจิตใจดี อวี้หนี่ว์ก็เป็นคนจงรักภักดีเปลีแปลง ไม่เคยทรยศเขา ดูถูกความรักไม่ได้จริงๆ!”

ฉีเติ่งเสียนก็พูด“ใช่!ฉันก็คิดว่าจินถงเป็นคนที่มีจิตใจดีเหมือนกับฉัน”

ฉับพลันหลี่อวิ๋นหว่านก็พูดเหยียดหยาม“คุณคู่ควรไหม?”

ฉีเติ่งเสียนกลับพูดว่า“เธอดูเถอะ…ไม่ว่าเธอจะเสแสร้งเป็นตำรวจหรือพยาบาล หรือว่าแอร์โฮสเตส จนกระทั่งเพลย์บอย ก็ยังไม่เคยเปลี่ยน จนกระทั่งยังเพิ่มความร้อนแรง”

หลี่อวิ๋นหว่านรู้ว่าผู้ชายเลวคนนี้ไม่ได้พูดเรื่องดี ก็ยกนิ้วกลางใส่เขา ในขณะเดียวกันก็ศรัทธาความรักของจินถงอวี้หนี่ว์

ในสายตาของหลี่อวิ๋นหว่าน มีความอิจฉาและอวยพรให้จินถงกับอวี้หนี่ว์ทั้งสองคน

เห็นว่ามืดแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็ค่อยๆพาเธอเดินเล่นกลับไป

แม้ว่าพระอัครสังฆราชจะสูญเสียคทาที่แสดงถึงอำนาจของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็ไม่ได้สูญเสียคทาของผู้ชาย ยังมีพลังปราบปีศาจได้อีกด้วย

หลี่อวิ๋นหว่านเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นปีศาจ ดังนั้น พระอัครสังฆราชก็ต้องจัดการนางปีศาจ

รุ่งสางวันต่อมาฉีเติ่งเสียนก็กำลังฝันว่า ตัวเองกลายเป็นม้า กำลังควบม้าอย่างอิสระในสนามรบ เวลาที่ลืมตาขึ้นมา ก็ค้นพบว่ามีอัศวินสาวแสนสวยขี่ตัวเองอยู่จริงๆ

“นี่ เธออย่าโลภแบบนี้ได้ไหม!”ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะชะงัก หลังจากนั้นก็จับเอวเล็กของเอาไว้

หลี่อวิ๋นหว่านฟุบลง พูดเสียงต่ำข้างหูของเขา“อีกเดี๋ยวคุณจะพาลูกศิษย์ไปฝึกฝน วันนี้ฉันก็อยากฝึกฝนเหมือนกัน”

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนที่ร็อบเบนเรียก เปลี่ยนชื่อเป็นคำสาปพิฆาตก็ช่างเถอะ หลีกเลี่ยงที่จะให้คนฉวยโอกาสที่เขาไม่ป้องกัน ถีบพระอัครสังฆราชออกไป

ความจริงทีผ่พิสูจน์ได้ แอโรบิกขณะอดอาหารเป็นวิธีเผาผลาญไขมันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด มิน่าล่ะรูปร่างของหลี่อวิ๋นหว่านถึงดีขนาดนี้ ถึงแม้ว่าไม่ได้เรียนกังฟูกับฉีเติ่งเสียน แต่ไม่เคยหยุดออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

เพียงแต่ เต้นแอโรบิกในขณะท้องว่าง ต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง

จิ่วเฮิงตื่นแต่เช้าทุกวันเพื่อฝึกซ้อมมวยและต่อยเสาไม้ ตอนนี้ กำลังต่อยเสาไม้เสียงดังเพียะเพียะอยู่ลานหน้าบ้านแล้ว และฉีเติ่งเสียนก็เป็นคนที่ขยัน สักพักในห้องก็มีเสียงเพียะเพียะดังขึ้นมา

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนฝึกฝนเสร็จแล้ว เฮ่อตั่วเหลียนก็มาถึงพอดี

“ฉันยังคงขยันเป็นอาจารย์ ต้องตื่นเร็วกว่าลูกศิษย์ก่อนหนึ่งชั่วโมงเพื่อออกกำลังกายและอบอุ่นร่างกาย!”ฉีเติ่งเสียนคิดในใจอย่างพอใจ คิดว่าตัวเองเป็นอาจารย์ที่ดีมาก

วันนี้เฮ่อตั่วเหลียนยังต้องยุ่งเรื่องงานวันเกิดของเฮ่อฮงบิน แต่ยังคงมาฝึกฝนตั้งแต่เช้า สำหรับเรื่องศิลปะการต่อสู้ก็ยังกระตือรือร้นมาก

“พลังที่แข็งแกร่ง ทำให้ตัวเองเดินทางผิด และยิ่งเป็นอำนาจ ดูพวกสุนัขเลี้ยงแกะเถอะ เวลาที่มันควบคุมสุนัข มันเห่าดังกว่าสุนัขธรรมดาไกม?”ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจ แค่พูดเสียงเย็นชา

เฮ่อตั่วเหลียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และพูด“ขอบคุณอาจารย์ที่สั่งสอน ฉันจะจำไว้”

หลังจากที่ฝึกฝนเสร็จแล้ว เฮ่อตั่วเหลียนก็รีบออกไป วันนี้มีเรื่องต้องให้เธอไปจัดการเยอะมาก

เวลาตอนเที่ยง หยางกวนกวนจึงกลับมาที่จิงเต่า และนำตัวแทนจากบอสใหญ่ทั้งหมดในเซียงซานมาด้วย ในมือของตัวแทนเหล่านี้ มีเอกสารอยู่ในมือ ล้วนเป็นโครงการความร่วมมือเชิงพาณิชย์ เตรียมช่วยเฮ่อตั่วเหลียนแย่งชิงอำนาจ

ประมาณห้าโมงเย็น ฉีเติ่งเสียนและคนอื่นก็ไปงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของเฮ่อฮงบิน

มาถึงหน้าประตู ก็พบกับเฮ่อเซี่ยวและฉีหยุนเฟิง

“นี่ ไอ้สวะ นายมาแล้วเหรอ!”ฉีหยุนเฟิงมองเห็นฉีเติ่งเสียน สีหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชา พูดเสียงดังขึ้นมา

“เหอะ นายเห่าอะไร?”ฉีเติ่งเสียนให้ความร่วมมือแสดงละคร พูดตอบเสียงเย็นชา

หยางกวนกวนกับหลี่อวิ๋นหว่านรู้เรื่องราว อดไม่ได้ที่จะหมดคำจะพูด จำเป็นไหม?เดินชนไหล่ก็ได้แล้ว จะต้องแสดงละครให้

ฉีหยุนเฟิงก็พูด“ไม่รีบไสหัวไป ยังจะรอให้คนมาช่วยเก็บศพนาย?”

ฉีเติ่งเสียนก็พูด“คำพูดนี้ควรเป็นฉันที่พูดกับนาย อย่ามาบ้าระห่ำ ไม่มีประโยชน์”

ฉีหยุนเฟิงยกหมัดขึ้นจะต่อยคน

คนที่อยู่ด้านข้างเขาดึงเอาไว้ และพูด“คุณฉี ช่างเถอะ…”

เฮ่อเซียนเซียนชำเลืองมองฉากนี้ สีหน้าปรากฏรอยยิ้มลำพองใจขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง