ที่พระอัครสังฆราชฉีได้รับความดีความชอบไม่ได้มาจากการประจบสอพลอ แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนติดดินและทำงานหนัก
เศรษฐกิจและการพัฒนาต้องจับมือไปพร้อมกันและมือทั้งสองก็ต้องเข้มแข็ง
“ฝ่าบาทก็พูดเกินไป การได้ช่วยท่านแก้ปัญหา นับเป็นเกียรติของผม!” ฉีเติ่งเสียนพูดพลางตบหน้าอกตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“คุณมีความแค้นกับตระกูลรอธไชล์ด งั้นต่อจากนี้ผมจะให้คุณจัดการฮิลเด” พระสันตะปาปาพูดขณะจับเคราของตนเอง
ฉีเติ่งเสียนรับปากโดยไม่พูดอะไรสักคำ สมเด็จประสันตะปาปาไม่ใช่ตัวละครที่เข้ากับใครได้ง่ายๆ เขาเป็นผู้ช่ำชองที่สามารถเข้าใจอะไรได้ง่ายแม้จะมีเบาะแสเพียงน้อยนิด
แน่นอนว่าความขัดแย้งกับตระกูลรอธไชล์ดคงเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ ดังนั้นปล่อยให้ฉีเติ่งเสียนจัดการจะดีกว่า หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็สามารถแสดงตัวอย่างเปิดเผยได้
พระสันตะปาปาพูดว่า “ส่วนเรื่องกำไร เอาเป็น 20/80 แล้วกัน!”
เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ยินเช่นนั้น เขาก็อารมณ์ขึ้นทันที “ฝ่าบาท ผมเป็นหนี้มหาศาลจากการสร้างมหาวิหารหนานหยาง! การจับแกะอ้วนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านต้องให้ส่วนแบ่งผมมากกว่าสิถึงจะถูก”
พระสันตะปาปาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “การเป็นหนี้เพื่อพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นเกียรติแล้วหรือ”
ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนแดงก่ำ เขาพูดว่า “แน่นอนว่ามันเป็นเกียรติ แต่...”
พระสันตะปาปาโบกมือและพูดว่า “เอาล่ะ 20/80 เท่านั้น ไม่มีมากกว่านี้! การพัฒนาศาสนาศักดิ์สิทธิ์ในช่วงนี้ต้องใช้เงินมาก”
ฉีเติ่งเสียนโต้เถียงด้วยเหตุผล “ผมว่า 50/50 เหมาะที่สุด 50/50 สุดยอด!”
พระสันตะปาปาขี้เกียจจะพูดพร่ำกับฉีเติ่งเสียนและออกปากไล่เขา เขาจึงไม่มีทางเลือก เพราะอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็เป็นพระสันตะปาปา ฉีเติ่งเสียนจึงตอบโต้อะไรไม่ได้
“ให้ตายเถอะ หม่นหมองเกินไปแล้ว ได้มาห้าพันล้านแต่ต้องเสียสี่พันล้าน! เงินพันล้านดอลลาร์ยังไม่พอใช้หนี้เลย...” ฉีเติ่งเสียนเกาหัวด้วยความงุนงง
ตอนแรกเขาก็คิดว่าครั้งนี้จะทำให้เขาใช้หนี้หมดได้ภายในคราวเดียว เขาไม่คิดเลยว่าพระสันตะปาปาจะชั่วร้ายขนาดที่จะฮุบไป 80% แบบนี้!
ฉีเติ่งเสียนออกจากที่นั่นด้วยความไม่พอใจและไปยังสถานที่คุมขังฮิลเด
หลังจากฮิลเดเห็นฉีเติ่งเสียนเข้ามา เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชี้หน้าฉีเติ่งเสียนและพูดด้วยความโมโหว่า “ไอ้สกุลฉี แกจำไว้เลยนะ ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”
ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วก่อนจะตบอีกฝ่ายไปฉาดใหญ่และพูดเยาะเย้ยว่า “ไอ้คนนอกรีต พูดพร่ำอะไรนักหนา”
ฮิลเดถูกตบจนโลกแทบหมุนและได้แต่ยืนงง จากนั้นเขาก็ได้สติและคำรามลั่น “แกกล้าตบฉันเหรอ!”
“ฉันถนัดสู้กับพวกนอกรีตน่ะ!” ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะและตบไปอีกครั้ง
เขาที่มีอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำเล็กน้อยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ลูกตบสองครั้งของเขาทำให้แก้มทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแดงไปทั้งแถบ ดูแล้วสบายใจขึ้นเยอะ
ฮิลเดโมโหจนแทบเป็นบ้าตาย เขาเจ็บมากก็จริง แต่ความอับอายทำให้เขาทนไม่ไหวมากกว่าเจ็บตัวเสียอีก!
เขาเป็นสายเลือดของตระกูลรอธไชล์ด ไม่ว่าจะไปที่ไหนคนอื่นก็ต้องเคารพเขาไม่ใช่เหรอ ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่มีคนตบหน้าเขาแบบนี้!
“ความอับอายที่แกมอบให้ฉัน ฉันจำได้ขึ้นใจ เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะเอาคืนแกเป็นสองเท่า!” ฮิลเดพูดด้วยความโกรธแค้น
“แกก็พูดแบบนี้ตอนที่บอกว่าจะแก้แค้นจิมมี่” ฉีเติ่งเสียนคว้าคอเสื้อของฮิลเดและกระชากอีกฝ่ายมาตรงหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก็ตบหน้าอีกฝ่ายซ้ำๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...