มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1451

พูดตามหลักแล้ว วันนี้ฉีเติ่งเสียนน่าจะวุ่นวายมาก

เพราะสถานการณ์ในจิงเต่าถูกสับเปลี่ยนใหม่ หลังจากการตายของเย่จีสง โดยเฉพาะยิ่งหลานอวี่เสียชีวิตหลังจากของเย่จีสงเสียชีวิตได้ไม่นาน

ก่อนหน้านี้กองพวกนี้กำลังร่วมเดิมพันด้วย เพราะต่างก็ตื่นตระหนก พวกเขาทั้งหมดอยากจะคุกเข่าลงต่อหน้าฉีเติ่งเสียน เพื่อแสดงความภักดี

และคนในตระกูลเย่ก็รู้สึกไม่พอใจกับเย่จีกั๋ว ต่างก็ผิดหวัง คนใจแข็งบางคนถูกกำจัด บางคนที่มีจิตใจอ่อนแอคุกเข่าลง

เย่หลานตบเย่จีสงพร้อมทั้งหลั่งน้ำตาและรู้สึกละอายใจมาก เธอไม่รู้ว่าจะในวันข้างหน้าจะเผชิญหน้ากับพี่ชายของเธออย่างไร

ฉีเติ่งเสียนไม่ได้จะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในจิงเต่าเอง แต่หน้าที่ทั้งหมดตกเป็นของหยางกวนกวนและให้หลานโหยวคอยช่วย

การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของหยางกวนกวนได้เปลี่ยน เซียงซานกับจิงเต่าจากนี้ เป็นสิ่งที่เธอจะต้องรับผิดชอบ แน่นอนว่า เธอได้รับอนุญาตให้สับเปลี่ยนเพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในอนาคต

คาสิโนหยุดกิจการมีอยู่เพียงในนามเท่านั้น และกองกำลังที่จะเข้าร่วมคาสิโนได้มาหาหยางกวนกวน ทีละคนโดยบอกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขโมย แต่ตอนนี้พวกเขาหวังว่าคุณฉีจะจัดการบางอย่างได้

ถึงหยางกวนกวนจะไม่เชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้ แน่นอนว่าเธอจะไม่เปิดเผยออกไปเพราะการสับเปลี่ยนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อฆ่าผู้ชายคนที่ดุร้ายมากๆคนหนึ่ง

สำหรับเจียงชิงเย่ว์นั้น ฉีเติ่งเสียนไม่กล้าพาเธอกลับบ้านด้วย เขาเพียงดื่มกาแฟกับเธอและส่งเธอกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน พร้อมบอกว่าช่วงนี้เขากำลังยุ่งๆ

เขามีอะไรให้ต้องยุ่งกัน?

ในการแข่งขันครั้งนี้เขาไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ เพราะมีคนอื่นๆ กำลังจัดเตรียมและดูแลทุกอย่างแทนทั้งหมด

จากนั้น กองกำลังในจิงเต่าที่ถูกสับเปลี่ยน หยางกวนกวนเองก็เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดเอง

การกวาดล้างอำนาจของตระกูลเย่ ก็ดำเนินการโดยเย่จิงกั๋วเช่นกัน

“เป็นผู้ชายอบอุ่นนี่ยากจริงๆ”

ฉีเติ่งเสียนเดินออกจากห้องดีลักซ์ของโรงแรม ยกกางเกงขึ้นและรัดเข็มขัดให้แน่น

เขากลับบ้านอย่างสงบ จากนั้นเขาก็เห็นคนสองคนในสวน พวกเขาคือจินถ้งอวี้หนี่ว์

“เฮ้ ทำไพวกเธอสองคนถึงมาที่นี่ ลมอะไรหอบพวกเธอมาที่บ้านฉันกัน?” ฉีเติ่งเสียนถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณฉี คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? คุณรู้ว่าพวกเราต้องการจะฆ่าใคร ทำไมไม่บอกพวกเราสักนิด?” อวี้หนี่ว์จ้องไปที่ฉีเติ่งเสียนและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

เธอไม่ชอบฉีเติ่งเสียนมานานแล้ว อาจเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงและเกลียดคนหลอกลวงเป็นที่สุด

เมื่อเปรียบเทียบกับจินถ่งแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ฉีเติ่งเสียนตกตะลึงและพูดว่า “ทำไมฉันจะไม่บอก ฉันไม่ได้บอกเธอหรือว่าให้ไปขอเงินจากนายของเธอเพิ่มหากรับทำงานนี้ นี่ไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อเลยหรือไง?”

มุมปากของอวี้หนี่ว์อดไม่ได้ที่จะกระตุก จากนั้นเธอก็พูดอย่างขมขื่น: “ถ้าคุณบอกข้อมูลหลานอวี่ให้เราก่อนสักนิด หากพวกเราทำสำเร็จคงจะรีบออกจิงเต่าหนีไปยุโรปทันที! จะได้ไม่มืดแปดด้านแบบนี้”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ ฉีเติ่งเสียนเพียงยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านเท่านั้น

จินถ่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ: “ท่านอาจารย์ฉี คุณฉี พี่ฉี... เราทุกคนต่างก็รู้จักกัน ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรือเปล่า?”

“เฮ้อ!”

ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและแตะศีรษะเล็กๆ ของจินถ่งแล้วพูดว่า: “คิดว่าตอนนั้นฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้หรือ? อีกอย่างนายเป็นนักฆ่าอันดับต้นๆ ที่มีชื่อเสียงในโลกนักฆ่า แบบนี้ ถือว่าฉันไม่ห่วงชีวิตของนายหรือไง?”

จินถ่งพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน: “ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าหรือไม่ แต่ใครจะกล้ารุกรานจ้าวหมิงลู่กับจ้าวซวนหวงแห่งตระกูลจ้าวกัน? คุณรู้ แต่จงใจไม่บอกออกมา หลังจากที่เราเริ่มลงมือ แล้วข่าวก็รั่วไหลออกไปอย่างรวดเร็ว คิดว่าจะไม่โดนสงสัยหรือไง”

“ฉันช่วยพวกนาย....แล้วหากพวกตระกูลจ้าวคิดว่าฉันจ้างพวกนายฆ่าหลานอวี่ล่ะ?” ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว มองอย่างครุ่นคิด

จินตงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า: “ถ้าคุณไม่ช่วย ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลจ้าว ฉันกับอวี้หนี่ว์คงไม่รอดแน่....”

ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและพูดว่า: “ในเมื่อขอร้องขนาดนี้ เพราะงั้นเดี๋ยวฉันช่วยเอง! ให้ฉันใช้สิทธิ์อัครสังฆราชแห่งศาสนาศักดิ์สิทธิ์ไหม? ศาสนาศักดิ์สิทธิ์ของเราขึ้นชื่อเรื่องความเมตตากรุณา ...อวยพระพร....อาเมน!”

ฉีเติ่งเสียนยกมือขึ้นเพื่อก้มศีรษะ แต่ทันใดนั้น เขาก็ยกมือขึ้นจิ้มหน้าผากแล้วพยักหน้า...

“แน่นอน การดำรงอยู่ที่ฉันเชื่อมากที่สุดก็คือเทียนจวิน พวกท่านจะคุ้มครองฉัน” ฉีเติ่งเสียนคิดกับตัวเอง

เวลาที่เขาทำอะไรผิด เขามักจะมีความคิดแบบนี้ เพราะฉีเติ่งเสียนเชื่อว่าพระเจ้าอยู่ในความคิดเสมอ

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “เอาแบบนี้ รอให้เรื่องมันซาก่อน ฉันจะส่งไปที่หนานหยาง ที่หนานหยางฉันกำลังขาดคน พวกนายไปช่วยงานแล้วกัน ในส่วนของเงินเดือน ฉันให้ไม่น้อยแน่นอน”

แต่อวี้หนี่ว์รู้สึกไม่พอใจ รู้สึกว่าการทำงานให้กับโจรอย่างฉีเติ่งเสียนนั้นถือว่าไม่คุ้มค่าเท่าไหร่

แต่จินถ่งไม่คัดค้าน เรื่องนี้อาจจะทำให้ตระกูลจ้าว รู้สึกขุ่นเคือง ทางข้างหน้าอาจจะหมดหวัง การติดตามฉีเติ่งเสียนคงจะดีกว่า มีลูกพี่คอยปกป้อง อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตมากนัก!

การแสดงออกของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไป ก่อนจะกล่าวว่า “ทางที่ดีพวกนายรีบไป อย่าพึ่งออกมา”

จินถ่งยังรู้สึกเหมือนกับว่าจิตวิญญาณถูกกระตุ้น ร่างกายของเขาชาไปทั้งตัว

“ไปกันเถอะ!” เขาดึงอวี้หวี่น์หลบไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ

ฉีเติ่งเสียนเดินไปที่กลางลาน ชี่กับเลือดในร่างกายเริ่มเดือดพล่าน ภายในพริบตาเดียว มีการระดมคนเกิดขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง