หลิวปิงเว่ยแสดงความรู้สึกขอโทษต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะเดิมทีตั้งใจจะมาเลี้ยงข้าวฉีเติ่งเสียนและเย่จีกั๋ว แต่ก็กลับเกิดเรื่องที่ไม่น่าภิรมย์แบบนี้ซะได้
ในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ก็เป็นสัญญาณเตือนภัยให้แก่หลิวปิงเว่นเช่นเดียวกัน เขาเป็นถึงหัวหน้าพรรคไผ่เขียว แลเหมือนว่าจะมีตัวตนอยู่เพียงในนามเท่านั้น
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ หลิวปิงเว่ยก็ได้จัดการที่พักให้กับฉีเติ่งเสียนและเย่จีกั๋วได้พัก อยู่ใกล้สำนักงานใหญ่พรรคไผ่เขียว หากมีเรื่องอะไร ก็สามารถดูแลได้ตลอดเวลา
เย่จีกั๋วก็อดไม่ได้ที่จะถามฉีเติ่งเสียนอย่างระมัดระวัง “คุณฉีครับ เมื่อกี้ใครให้คุณขึ้นไปคุยข้างบนเหรอครับ?”
ฉีเติ่งเสียนมองไปที่เขาแว้บเดียวแล้วตอบกลับด้วยเสียงเรียบ “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องรู้ คุณไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ“
เย่จีกั๋วได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบรับปากทันที “เอ่อ ใช่ครับใช่ ผมเข้าใจแล้วครับ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เรื่องที่เกิดในวันนี้ มันช่างน่าแปลกจริง ๆ ! แม้ว่าหลิวปิงเว่ยจะถูกฝ่ายในไม่พอใจ แต่ในที่สุดเขาก็กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคไผ่เขียว
ดูเหมือนว่าเขาจะร่วมมือกับแก๊งสี่ไห่ เขาทำออกหน้าออกตาขนาดนี้ ทำไมทางด้านพรรคไผ่เขียวไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิดล่ะ?”
เย่จีกั๋วพบเห็นเบาะแสตั้งนานแล้ว เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า “ต้องเป็นเถียนชิ่งโหย่วคนนั้นแน่ ๆ ที่ต้องการให้พี่ใหญ่ผมล้มเลิกในการสนันสนุนจั่วเฉิง เพราะฉะนั้นก็เลยทำเรื่องนี้ขึ้นมายังไงล่ะครับ!”
พอฉีเติ่งเสียนได้ยินก็ชะงัก ในขณะที่พยักหน้าก็ครุ่นคิดไปด้วย แล้วพูดว่า “พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกัน เรื่องราวระหว่างพวกเขา ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราที่จะเข้าไปยุ่ง”
เย่จีกั๋วพูด “ใช่ครับ!”
พอคิดไปคิดมามันก็ใช่ ถ้าเรื่องราววันนี้ไร้คนชักใยข้างหลัง คนอย่างหลิวปิงเว่ยจะมาพูดว่าเป็นหัวหน้าพรรคไผ่เขียวได้อย่างไร เขาจะถูกระงับอย่างอนาถได้อย่างไร?
เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ หลังจากที่หลิวปิงเว่ยและเถียนชิงโหย่วกลับไป ก็เกิดความขัดแย้งขึ้น
ยังไม่ทันที่หลิวปิงเว่ยจะเอยวาจาออกมา เมื่อหันกลับมา เขาต่อยเถียนชิ่งโหย่วที่แก้มด้วยหมัดหนัก จนเถียนชิ่งโหยวล้มลงไปกับพื้น
“มันสนุกมากไหม? ที่มาหักหลังฉัน!” หลิวปิงเว่ยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา จนดวงตาแดงก่ำ
“พี่ใหญ่…”เถียนชิ่งโหยวโดนมัดนี้เข้าไปถึงกับงุนงงเล็กน้อย พอหลังจากได้สติเขาก็ส่ายหน้าทันที “ฉันไม่ได้หักหลังพี่นะ ฉันแค่อยากจะให้พี่เปลี่ยนเส้นทางเดินก็เท่านั้น ถ้าพี่ขืนไปทางนี้ต่อ พี่จะมีแต่ตายกับตาย!”
หลิวปิงเว่ยหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้แต่แก่ก็คิดว่าทางที่ฉันเลือกมันเป็นเรื่องผิดอย่างนั้นเหรอ? ไม่ควรที่จะสนับสนุนจั่วเฉินใช่ไหม?”
เถียนชิ่งโหยวถึงกับถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “นี่พี่ใหญ่ พี่ก็เห็นว่าสถานการณ์ของจั่วเฉินแย่แค่ไหน! แม้แต่คุณนายซูแห่งอาณาจักรโคกูรยอนายทุนซ่านซิง
ก็เป็นเพราะว่าสนุนเขา ก็ยังถูกหน่วงเหนี่ยว โดนคนฝังชิป ถ้าพี่ดึงดันอย่างนี้ต่อไป ตำแหน่งหัวหน้าพรรคของพี่ก็ช่วยชีวิตพี่ไม่ได้!”
ทางด้านหลิวปิงเว้ยก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงแค่มองไปที่เถียนชิ่งโหย่วอย่างเย็นชา
เถียนชิ่งโหย่วยังพูดต่ออีกว่า “นี่พี่ใหญ่! รองประธานอวี๋ติดต่อกับคนตระกูลซุนได้แล้ว ถ้าคนของตระกูลซูยินยอมจะออกหน้าช่วยเขาพูด อย่างนั้น พี่คิดว่าลุงกงจะยอมให้พี่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่ออย่างนั้นเหรอ?! ”
คำพูดนี้ของเถียนชิ่งโหย่ว ทำให้รูม่านตาของหลิวปิงเว่ยอดไม่ได้ที่จะหดตัวลงอย่างแรง!
รองประธานอวี๋ เขาเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่สองของพรรคไผ่เขียว มีความคิดที่จะห้ามหลิวปิงเว่ยมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้น ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่ได้มีโอกาส อีกทั้งยังถูกหลิวปิงเว่ยเพิกเฉยด้วยซ้ำ
แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ หลิวปิงเว่ยเลือกยืนข้างจั่วเฉิน มันทำให้แกนนำและพี่น้องหลายคนในพรรคต่างไม่พอใจ แม้แต่ลุงกงคนที่ได้ความเคารพอย่างสูงที่เกษียณไปแล้วยังเสียเป็นอย่างมาก นี่เลยเป็นช่องว่างให้รองประธานอวี๋ดำเนินการได้
ช่วงนี้ รองประธานคนนี้ก่อปัญหา โดยพยายามไล่หลิวปิงเว่ยออกไปและเข้ามาแทนที่เขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...