มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1499

คนตระกูลซุน กลับเลือกที่จะเจอหน้าหลี่เสวียนเจินก่อน!

สำหรับซุนอิ่งซูแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องดี!

และแน่นอนว่าหลี่เสวียนเจินจะต้องพูดอะไรกับคนตระกูลซุนบ้างแน่ แม้ว่าเดิมทีคนตระกูลซุนจะไม่มีความคิดอะไรไปทางด้านนั้น แต่ก็เกรงว่าจะถูกคำพูดของเธอทำให้สั่นคลอนได้บ้างแน่

“ทำยังไงดี เริ่มยุ่งยากเข้าแล้ว ไหงท่านผู้เฒ่าซุนถึงอยากเจอหลี่เสวียนเจินก่อนนะ!” ซุนอิ่งซูพลันกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ถามฉีเติ่งเสียน

“กลัวอะไร คนที่หัวเราะในตอนสุดท้ายถึงจะเป็นผู้ชนะ!” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือลูบใบหน้าของภรรยานายทุน ผิวช่างขาวใสเนียนละเอียดเสียจริง

ไม่พูดไม่ได้ มีเงินนี่ดีจริงๆ ใช้เครื่องสำอางราคาแพงที่สุด สกินแคร์แพงที่สุด กินอาหารชั้นยอด ผิวพรรณนี้ เทียบกับสาวน้อยอายุสิบแปดปีแล้วก็มีน้ำมีนวลนุ่มนิ่มกว่ามาก

มิน่าคนโคกูรยอจำนวนมากถึงได้อยากเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูคุณชายตระกูลนายทุน

ซุนอิ่งซูหายใจลึกๆ พูดว่า “แพ้ก็แพ้ไปแล้วกัน อย่างมากก็แค่เริ่มใหม่ ยังไงก็มีคุณคอยช่วยฉันอยู่ใช่มั้ย?”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า พูดว่า “แน่นอน”

แต่ว่าคนอื่นๆของนายทุนซ่านซิงกลับอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา เดิมทีหลี่เสวียนเจินต้องการทำลายให้เรื่องเสีย แม้ว่าตระกูลซุนจะตัดสินใจพบเธอก่อน แต่นั่นก็แสดงว่าซุนอิ่งซูแพ้ไปแปดส่วนแล้ว!

ถึงบอกว่าซุนอิ่งซูและหลี่เสวียนเจินพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ตำแหน่งพอๆกัน แต่จากที่คนนอกมองมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายังคงเป็นหลี่เสวียนเจินเจ้าหญิงจางแห่งซ่างซิงที่มีตำแหน่งสูงกว่านิดหน่อย

ซุนอิ่งซู คนคนนั้นเป็นเพียงหญิงม่าย เอาอะไรมาเท่าเทียมกับหลี่เสวียนเจิน?

เวลานี้ หลี่เสวียนเจินมาถึงส่วนด้านในบ้านของตระกูลซุนแล้ว ตลอดทางที่เธอเดินทาง รู้สึกได้เพียงว่าร่างกายหนาวเยือกขึ้นมา ราวกับมีมีดเหล็กบินผ่าน

ความจริงแล้วในบ้านตระกูลซุนมียอดฝีมือซ่อนอยู่คอยจับตามองหลี่เสวียนเจิน เพียงแต่ว่าหลี่เสวียนเจินไม่ได้เรียนรู้วรยุทธ์ ดังนั้นจึงสัมผัสถึงความมีอยู่ของคนเหล่านี้ไม่ได้

ไม่นาน หลี่เสวียนเจินก็มาถึงห้องๆหนึ่ง

ซุนเจี้ยนเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “คุณปู่อยู่ด้านใน คุณหลี่มีอะไรอยากพูดก็เชิญเข้าไปพูดกับคุณปู่ได้เลย!”

หลี่เสวียนเจินเข้ามา เห็นว่าในห้องมีผู้สูงวัยอยู่สองคน คนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ บนศีรษะเต็มไปด้วยเข็มเงิน เห็นได้ชัดว่าเป็นซุนกั๋วฉวินผู้สูงวัยที่มีคุณธรรมสูงที่สุดในผึ่งไหล!

ส่วนอีกคนหนึ่ง ในมือกำลังถึงเข็มเงิน กำลังฝังเข็มลงไปบนแขนของซุนกั๋วฉวิน

เห็นคนนอกเข้ามา คนชราที่กำลังฝังเข็มกลับไม่สนใจมอง ยังคงฝังเข็มให้ซุนกั๋วฉวินอย่างตั้งใจและเป็นระเบียบ ทำไปพลางพูดไปพลางว่า “ดีนะที่ฉันมาช่วยรักษา ไม่งั้นร่างกระดูกนี้คงอยู่ได้ไม่อีกกี่วัน ฮึ!”

หลี่เสวียนเจินฟังแล้วอดตะลึงไม่ได้ คนชราผู้นี้เป็นใครใหญ่มาจากไหนถึงได้กล้าพูดกับซุนกั๋วฉวินขนาดนี้!

ซุนกั๋วฉวินพูดขมขื่น “นี่ อย่าแค้นอะไรฉันมากเลย พวกเราแยกกันตั้งแต่เด็ก นั่นก็เพราะถูกบังคับนะ...”

คนชราผู้นั้นยิ้มเย็นพูดว่า “ถูกบังคับอะไร! ตอนที่นายมีอำนาจมากที่สุดก็ไม่เห็นจะพยายามมาเจอกันเลย? ฉันว่านะ นายน่ะได้ดิบได้ดีแล้วลืมคนข้างหลัง ฮึ!”

ซุนกั๋วฉวินรีบอธิบาย “ฉันเองก็มีความลำบาก เข้าใจฉันหน่อยเถอะนะ! แล้วช่วยพูดจาระวังหน่อยเถอะ ยังไงพวกเราก็เป็นพี่น้องมีสายเลือดเกี่ยวพันกันนะ...”

คนชราผู้นั้นยิ้มเย็น พูดต่อว่า “สมมุติไม่ใช่เพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน แล้วนายป่วยเจ็บไข้จนตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?!”

พูดคำนี้จบ คนชราฝังเข็มสุดท้าย ยืนขึ้น บิดตัวยืดกระดูกและเส้นสาย

ฉีเติ่งเสียนกลับยืนขึ้น วางมือบนไหล่ของซุนอิ่งซู พูดกับซุนเจี้ยนเฉินว่า “รบกวนคุณซุ่นแจ้งให้หน่อยครับว่าพระอัครสังฆราชทางใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ขอเข้าพบ”

“ปู่นับถือนิกายพุทธศาสนา ไม่นับถือศาสนาศักดิ์สิทธิ์” ซุนเจี้ยนเฉินหัวเราะหยันเสียงหนึ่ง ส่ายหน้าปฏิเสธที่จะแจ้งให้

หลี่เสวียนเจินอดหัวเราะดังๆไม่ได้ ได้ใจอย่างที่สุด พูดกับซุนอิ่งซูว่า “อิ่งซู เอาหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั่นออกมาดีๆเถอะ ยอมแพ้เสีย!”

ฉีเติ่งเสียนหรี่ตา วิธีแรกไม่ได้ผล แน่นอนว่าเขาก็มีวิธีอื่นอีก

“งั้นรบกวนเปลี่ยนคำพูด บอกไปว่าลูกชายของศัตรูฉีปู้อวี่ขอเข้าพบ!” ฉีเติ่งเสียนค่อยๆพูดเน้นเสียง

ซุนเจี้ยนเฉินได้ยินชื่อนี้แล้วก็นิ่งอึ้งไปอย่างที่คิด หลังจากนั้นก็กวาดสายตาแหลมคมมองฉีเติ่งเสียน สำรวจตัวเขาขึ้นลงอย่างหยุดพัก ราวกับกำลังหาว่าบนร่างเขามีส่วนที่คล้ายกับฉีปู้อวี่หรือไม่

สีหน้าของหลี่เสวียนเจินอดเปลี่ยนเล็กน้อยไม่ได้ เธอรู้สึกได้จากสีหน้าท่าทางของซุนเจี้ยนเฉินได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้ว

ความจริงแล้วเธอเองก็หวาดกลัวฉีเติ่งเสียนมาก เพราะอย่างไร แผนการมากมายของเธอล้วนถูกฉีเติ่งเสียนทำให้เสียไป

หลังซุนเจี้ยนเฉินกวาดตามองฉีเติ่งเสียนพักใหญ่ถึงได้ถามว่า “เป็นลูกชายของฉีปู้อวี่จริงๆเหรอ?!”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า พูดว่า “ฉีปู้อวี่คือพ่อของผมจริงๆ”

ซุนเจี้ยนเฉินพลันหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง หลังจากนั้นพูดอย่างดุดันว่า “ดีมาก ที่แท้ก็คือลูกชายของฉีปู้อวี่นี่เอง! โจรเฒ่านั่นขโมยเงินของตระกูลไปสองพันล้าน เขาไม่กล้าโผล่หน้าแต่กลับส่งลูกชายมาถึงหน้าบ้านเสียได้! ดีมาก!”

คำนี้พูดออกมา ฉีเติ่งเสียนก็งงงัน ส่วนซุนอิ่งซูที่อยู่ด้านข้างเองก็มองอย่างบื้อใบ้ไปแล้ว

แม้แต่หลี่เสวียนเจินเองก็ตะลึงอย่างอดไม่ได้ หลังจากนั้นก็แทบจะหัวเราะเสียงดังออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง