คนตระกูลซุน กลับเลือกที่จะเจอหน้าหลี่เสวียนเจินก่อน!
สำหรับซุนอิ่งซูแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องดี!
และแน่นอนว่าหลี่เสวียนเจินจะต้องพูดอะไรกับคนตระกูลซุนบ้างแน่ แม้ว่าเดิมทีคนตระกูลซุนจะไม่มีความคิดอะไรไปทางด้านนั้น แต่ก็เกรงว่าจะถูกคำพูดของเธอทำให้สั่นคลอนได้บ้างแน่
“ทำยังไงดี เริ่มยุ่งยากเข้าแล้ว ไหงท่านผู้เฒ่าซุนถึงอยากเจอหลี่เสวียนเจินก่อนนะ!” ซุนอิ่งซูพลันกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ถามฉีเติ่งเสียน
“กลัวอะไร คนที่หัวเราะในตอนสุดท้ายถึงจะเป็นผู้ชนะ!” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือลูบใบหน้าของภรรยานายทุน ผิวช่างขาวใสเนียนละเอียดเสียจริง
ไม่พูดไม่ได้ มีเงินนี่ดีจริงๆ ใช้เครื่องสำอางราคาแพงที่สุด สกินแคร์แพงที่สุด กินอาหารชั้นยอด ผิวพรรณนี้ เทียบกับสาวน้อยอายุสิบแปดปีแล้วก็มีน้ำมีนวลนุ่มนิ่มกว่ามาก
มิน่าคนโคกูรยอจำนวนมากถึงได้อยากเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูคุณชายตระกูลนายทุน
ซุนอิ่งซูหายใจลึกๆ พูดว่า “แพ้ก็แพ้ไปแล้วกัน อย่างมากก็แค่เริ่มใหม่ ยังไงก็มีคุณคอยช่วยฉันอยู่ใช่มั้ย?”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า พูดว่า “แน่นอน”
แต่ว่าคนอื่นๆของนายทุนซ่านซิงกลับอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา เดิมทีหลี่เสวียนเจินต้องการทำลายให้เรื่องเสีย แม้ว่าตระกูลซุนจะตัดสินใจพบเธอก่อน แต่นั่นก็แสดงว่าซุนอิ่งซูแพ้ไปแปดส่วนแล้ว!
ถึงบอกว่าซุนอิ่งซูและหลี่เสวียนเจินพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ตำแหน่งพอๆกัน แต่จากที่คนนอกมองมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายังคงเป็นหลี่เสวียนเจินเจ้าหญิงจางแห่งซ่างซิงที่มีตำแหน่งสูงกว่านิดหน่อย
ซุนอิ่งซู คนคนนั้นเป็นเพียงหญิงม่าย เอาอะไรมาเท่าเทียมกับหลี่เสวียนเจิน?
เวลานี้ หลี่เสวียนเจินมาถึงส่วนด้านในบ้านของตระกูลซุนแล้ว ตลอดทางที่เธอเดินทาง รู้สึกได้เพียงว่าร่างกายหนาวเยือกขึ้นมา ราวกับมีมีดเหล็กบินผ่าน
ความจริงแล้วในบ้านตระกูลซุนมียอดฝีมือซ่อนอยู่คอยจับตามองหลี่เสวียนเจิน เพียงแต่ว่าหลี่เสวียนเจินไม่ได้เรียนรู้วรยุทธ์ ดังนั้นจึงสัมผัสถึงความมีอยู่ของคนเหล่านี้ไม่ได้
ไม่นาน หลี่เสวียนเจินก็มาถึงห้องๆหนึ่ง
ซุนเจี้ยนเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “คุณปู่อยู่ด้านใน คุณหลี่มีอะไรอยากพูดก็เชิญเข้าไปพูดกับคุณปู่ได้เลย!”
หลี่เสวียนเจินเข้ามา เห็นว่าในห้องมีผู้สูงวัยอยู่สองคน คนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ บนศีรษะเต็มไปด้วยเข็มเงิน เห็นได้ชัดว่าเป็นซุนกั๋วฉวินผู้สูงวัยที่มีคุณธรรมสูงที่สุดในผึ่งไหล!
ส่วนอีกคนหนึ่ง ในมือกำลังถึงเข็มเงิน กำลังฝังเข็มลงไปบนแขนของซุนกั๋วฉวิน
เห็นคนนอกเข้ามา คนชราที่กำลังฝังเข็มกลับไม่สนใจมอง ยังคงฝังเข็มให้ซุนกั๋วฉวินอย่างตั้งใจและเป็นระเบียบ ทำไปพลางพูดไปพลางว่า “ดีนะที่ฉันมาช่วยรักษา ไม่งั้นร่างกระดูกนี้คงอยู่ได้ไม่อีกกี่วัน ฮึ!”
หลี่เสวียนเจินฟังแล้วอดตะลึงไม่ได้ คนชราผู้นี้เป็นใครใหญ่มาจากไหนถึงได้กล้าพูดกับซุนกั๋วฉวินขนาดนี้!
ซุนกั๋วฉวินพูดขมขื่น “นี่ อย่าแค้นอะไรฉันมากเลย พวกเราแยกกันตั้งแต่เด็ก นั่นก็เพราะถูกบังคับนะ...”
คนชราผู้นั้นยิ้มเย็นพูดว่า “ถูกบังคับอะไร! ตอนที่นายมีอำนาจมากที่สุดก็ไม่เห็นจะพยายามมาเจอกันเลย? ฉันว่านะ นายน่ะได้ดิบได้ดีแล้วลืมคนข้างหลัง ฮึ!”
ซุนกั๋วฉวินรีบอธิบาย “ฉันเองก็มีความลำบาก เข้าใจฉันหน่อยเถอะนะ! แล้วช่วยพูดจาระวังหน่อยเถอะ ยังไงพวกเราก็เป็นพี่น้องมีสายเลือดเกี่ยวพันกันนะ...”
คนชราผู้นั้นยิ้มเย็น พูดต่อว่า “สมมุติไม่ใช่เพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน แล้วนายป่วยเจ็บไข้จนตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?!”
พูดคำนี้จบ คนชราฝังเข็มสุดท้าย ยืนขึ้น บิดตัวยืดกระดูกและเส้นสาย
ฉีเติ่งเสียนกลับยืนขึ้น วางมือบนไหล่ของซุนอิ่งซู พูดกับซุนเจี้ยนเฉินว่า “รบกวนคุณซุ่นแจ้งให้หน่อยครับว่าพระอัครสังฆราชทางใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ขอเข้าพบ”
“ปู่นับถือนิกายพุทธศาสนา ไม่นับถือศาสนาศักดิ์สิทธิ์” ซุนเจี้ยนเฉินหัวเราะหยันเสียงหนึ่ง ส่ายหน้าปฏิเสธที่จะแจ้งให้
หลี่เสวียนเจินอดหัวเราะดังๆไม่ได้ ได้ใจอย่างที่สุด พูดกับซุนอิ่งซูว่า “อิ่งซู เอาหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั่นออกมาดีๆเถอะ ยอมแพ้เสีย!”
ฉีเติ่งเสียนหรี่ตา วิธีแรกไม่ได้ผล แน่นอนว่าเขาก็มีวิธีอื่นอีก
“งั้นรบกวนเปลี่ยนคำพูด บอกไปว่าลูกชายของศัตรูฉีปู้อวี่ขอเข้าพบ!” ฉีเติ่งเสียนค่อยๆพูดเน้นเสียง
ซุนเจี้ยนเฉินได้ยินชื่อนี้แล้วก็นิ่งอึ้งไปอย่างที่คิด หลังจากนั้นก็กวาดสายตาแหลมคมมองฉีเติ่งเสียน สำรวจตัวเขาขึ้นลงอย่างหยุดพัก ราวกับกำลังหาว่าบนร่างเขามีส่วนที่คล้ายกับฉีปู้อวี่หรือไม่
สีหน้าของหลี่เสวียนเจินอดเปลี่ยนเล็กน้อยไม่ได้ เธอรู้สึกได้จากสีหน้าท่าทางของซุนเจี้ยนเฉินได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้ว
ความจริงแล้วเธอเองก็หวาดกลัวฉีเติ่งเสียนมาก เพราะอย่างไร แผนการมากมายของเธอล้วนถูกฉีเติ่งเสียนทำให้เสียไป
หลังซุนเจี้ยนเฉินกวาดตามองฉีเติ่งเสียนพักใหญ่ถึงได้ถามว่า “เป็นลูกชายของฉีปู้อวี่จริงๆเหรอ?!”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า พูดว่า “ฉีปู้อวี่คือพ่อของผมจริงๆ”
ซุนเจี้ยนเฉินพลันหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง หลังจากนั้นพูดอย่างดุดันว่า “ดีมาก ที่แท้ก็คือลูกชายของฉีปู้อวี่นี่เอง! โจรเฒ่านั่นขโมยเงินของตระกูลไปสองพันล้าน เขาไม่กล้าโผล่หน้าแต่กลับส่งลูกชายมาถึงหน้าบ้านเสียได้! ดีมาก!”
คำนี้พูดออกมา ฉีเติ่งเสียนก็งงงัน ส่วนซุนอิ่งซูที่อยู่ด้านข้างเองก็มองอย่างบื้อใบ้ไปแล้ว
แม้แต่หลี่เสวียนเจินเองก็ตะลึงอย่างอดไม่ได้ หลังจากนั้นก็แทบจะหัวเราะเสียงดังออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...