ซุนกั๋วฉวินดูเหมือนจะอยู่ในสภาพที่ไม่สนใจเรื่องทางโลกซักเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วกลับรู้เรื่องสถานการณ์ในผึ่งไหลเป็นอย่างดี
หลังจากเปลี่ยนสถานที่พูดคุยแล้ว ซุนกั๋วฉวินถึงได้รู้ว่าฉีเติ่งเสียนเป็นลูกชายของฉีปู้อวี่ ทันใดนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไป
“คุณคือลูกชายของเจ้าคนขี้โกงนั้นเหรอ?” ซุนกั๋วฉวินเห็นสายตาของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไปในทันที
“คนขี้โกง?ฉันสงสัยจริงๆว่าเขาไปโกงตระกูลซุนตั้งสองพันล้านได้ยังไง!”ฉีเติ่งเสียนถามอย่างสงสัย จนถึงขั้นต้องการจะเรียนรู้
ซุนกั๋วฉวินปิดปากลงในทันที แล้วกล่าวว่าไม่ต้องการพูดถึงอดีตอีก อีกทั้งในเมื่อฉีเติ่งเสียนเป็นอาจารย์ของซุนชิงเสวียน เช่นนั้นบุญคุณความแค้นก็ให้มันจบลงตรงนี้
ซุนกั๋วฉวินยิ่งไม่พูด ฉีเติ่งเสียนก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก
ฉีปู้อวี่เป็นคนพูดไม่เก่ง เขาจึงสงสัยว่าฉีปู้อวี่ทำอย่างไรถึงโกงเงินของตระกูลซุนมาได้ตั้งสองพันล้าน คงจะไม่ใช่ทำเช่นเดียวกับที่เขาลักพาตัวจี้ข่ายมาลักพาตัวคุณชายของตระกูลซุนหรอกนะ?
“โฮ้ ใช่แล้ว ฉันต้องการให้ซุนเจี้ยนเฉินช่วยฉันเรื่องหนึ่ง”ฉีเติ่งเสียนกล่าว
“เรื่องอะไรกัน?”ซุนกั๋วฉวินเริ่มตื่นตัวขึ้นมา
ฉีเติ่งเสียนคิดว่าท่าทีของซุนกั๋วฉวินที่มีต่อตนนั้นเปลี่ยนไป ตั้งแต่ทราบว่าเขาเป็นลูกชายของฉีปู้อวี่ เขาก็ระมัดระวังตัวขึ้นมาก แม้แต่คำถามเล็กน้อยก็ยังต้องถามอย่างละเอียด ราวกับว่ากลัวจะถูกเขาหลอกไปฆ่า
ทำให้ฉีเติ่งเสียนรู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่ได้แสดงออก แล้วอธิบายอย่างอดทนว่า:“เป็นแบบนี้ ตอนนี้หลิวปิงเว่ยประมุขพรรคไผ่เขียวกำลังประสบเหตุการยากลำบาก มีรองประธานสมาคมต้องการยึดอำนาจของเขา คุณให้ซุนเจี้ยนเฉินช่วยหลิวปิงเว่ยออกหน้าเสียหน่อย เช่นนั้นตำแหน่งเขาก็จะมั่นคงขึ้น”
หลังจากที่ซุนกั๋วฉวินได้ฟัง เขาก็ทบทวนอย่างละเอียดคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรถึงจะพยักหน้าตอบรับแล้วพูด:“ได้เลย ไม่มีปัญหา เอาตามนั้นเถอะ!”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะไม่ออก ตอนนั้นฉีปู้อวี่ไปทำเรื่องโหดร้ายเช่นนั้นกับตระกูลซุนลงได้ยังไง หลอกเงินไปสองพันล้าน อีกทั้งยังทำให้ตระกูลซุนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หลังจากคุยกับซุนกั๋วฉวินแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็เตรียมที่จะพาซุนอิ่งซูจากไป
ก่อนหน้านี้ซุนกั๋วฉวินต้องการจะให้เขาอยู่รอทานอาหารเย็นด้วยกัน แต่ท่าทีกลับเปลี่ยนไป ทั้งยังอดไม่ไหวที่จะไล่เขาไปให้พ้นๆ
“หลี่เสวียนเจินล่ะ?”ซุนอิ่งซูถามซุนเจี้ยนเฉินที่ออกมาส่งพวกเขา
“จากไปแล้ว”ซุนเจี้ยนเฉินตอบ
ซุนอิ่งซูหัวเราะเย็นชาแล้วกล่าว:“หลี่เสวียนเจินแพ้ไม่เป็นจริงๆ แค่นี้ก็หนีไปเสียแล้ว!ไป ฉันจะพาคุณไปไล่ฆ่าเธอเอง จะต้องแบ่งหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์จากเธอมาให้ได้”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า จากนั้นก็ยิ้มให้ซุนเจี้ยนเฉินแล้วกล่าว:“อีกสองวันไว้เจอกันใหม่!”
“หึ่ม!”
ซุนเจี้ยนเฉินสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วคำรามออกมา เขาแค้นคนชั่วเช่นฉีเติ่งเสียนจริงๆ
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับไม่ได้สนใจท่าทางของซุนเจี้ยนเฉินเลย หลังจากหัวเราะแล้วก็ทักทายเสี่ยวฮั่วคนขับรถ ให้เขาพาตัวเองกลับ เขากับนายหญิงซุนจะไป “ไล่ตาม” หลี่เสวียนเจิน
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ซุนอิ่งซูกับฉีเติ่งเสียนก็ตามรอยของหลี่เสวียนเจินมาถึงโรงแรม
“หลี่เสวียนเจิน คุณยอมแพ้ไม่เป็นเหรอ?ลงมาพนันต่อหน้าทุกคนสิ ทำท่าทางไม่ธรรมดาแต่กลับหนีหัวซุกหัวซุน?!”ซุนอิ่งซูถามด้วยเสียงเย็นเยียบ
หันเฉิงจุนก็ถูกคำพูดของฉีเติ่งเสียนยั่วโมโหจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใจเย็นเพียงใดเมื่อมาอยู่ต่อหน้าของฉีเติ่งเสียนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องระเบิดอารมณ์อออกมา
“คุณช่างฝีปากกล้าจริงๆ ไม่รู้ว่าฝีมือจะยอดเยี่ยมเหมือนกับฝีปากหรือไม่!”หันเฉิงจุนหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นแววตาก็ปรากฏแสงเยียบเย็นเต็มไปด้วยความแค้น
“ลองดูมั๊ยล่ะ?”ฉีเติ่งเสียนถามไปหัวเราะไป “วางใจได้ ฉันจะไว้ชีวิตสุนัขของคุณให้กลับไปยังโคกูรยอแน่นอน”
หันเฉิงจุนหรี่ตาลงจากนั้นกล่าว:“ได้เลย ฉันอยากจะประลองกับคุณมาตั้งนานแล้ว!เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้กับศิษย์น้องทั้งหลาย ไม่งั้นจะเริ่มตอนนี้เลยมั้ย?”
หลี่เสวียนเจินโบกมือแล้วกล่าว:“ไม่รีบ ไม่รีบ!ฉันได้จัดงานชุมนุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ห้าชาติ ถึงตอนนั้นคุณก็มาเข้าร่วมแล้วกัน”
“งานชุมนุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ห้าชาติ?”ซุนอิ่งซูอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ไม่ทราบว่าหลี่เสวียนเจินต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ใช่สิ งานชุมนุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ห้าชาติ แบ่งเป็นโคกูรยอ เจียเผิง เทียนจู๋ หัวกั๋ว และผึ่งไหล!”หลี่เสวียนเจินกล่าว
หลังจากฉีเติ่งเสียนได้ยินสามคำสุดท้าย ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเยียบเย็น คนอย่างหลี่เสวียนเจินจะต้องวางแผนอะไรไว้แน่!
ซุนอิ่งซูเป็นคนฉลาด แน่นอนว่าฟังความหมายออก ก็อดไม่ได้ที่ตอบอย่างเย็นชา:“หลี่เสวียนเจิน คุณกำลังขุดหลุมฝังศพตัวเองอยู่”
หลี่เสวียนเจินตอบอย่างไม่รีรอ:“คุณกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันฟังไม่รู้เรื่อง!ฉันก็แค่จัดงานแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ เชิญผู้ฝึกยุทธ์ของแต่ละประเทศมาร่วมงาน ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองใดๆซ่อนเร้นอยู่”
ฉีเติ่งเสียนโบกมือเพื่อขัดจังหวะหลี่เสวียนเจินไม่ให้พูดจาไร้สาระ แล้วกล่าว:“อย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉัน รีบมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ให้กับซุนอิ่งซูเสียเถอะ ไม่อย่างนั้นก็อย่างมาโทษว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน ”
หลี่เสวียนเจินกัดฟันแน่น แต่เธอแพ้พนันจึงไม่รู้จะทำอย่างไรดี การพนันนี้มีคนเป็นพยานมากมาย หากจะกลับคำพูด เมื่อถึงเวลาจะถูกคนดูถูกเอา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...