คำพูดของต้วนเทียนชง ทำให้หลิวปิงเว่ยมีสีหน้าที่ไม่สบายใจ แต่ฉีเติ่งเสียนกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมาโดยตรง
ต้วนเทียนชงจึงกล่าวถามว่า: "อาจารย์ฉีขำอะไร มีเรื่องอะไรน่าขำเหรอ?"
ฉีเติ่งเสียนจึงกล่าวว่า: "ความหมายของคุณคือ คุณสามารถนำเงินทั้งหมดไปโดยไม่จัดการเรื่องราวอย่างนั้นเหรอ?"
ต้วนเทียนชงกล่าวอย่างนิ่งๆ ว่า: "ถ้าหากคุณให้เงิน ฉันก็จะต้องไปจัดการอย่างแน่นอน เพียงแต่จะทำสำเร็จหรือไม่นั้น ฉันไม่รู้หรอก!"
สายตาของฉีเติ่งเสียนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมา ต้วนเทียนชงไม่มีความบริสุทธิ์ใจโดยสิ้นเชิง ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนมีอำนาจเป็นหัวหน้าของเทียนเต้าเหมิง ถ้าหากพูดโน้มน้าวต้วนเทียนหยาละก็ เช่นนั้น ต้วนเทียนหยาจะต้องไม่เข้าร่วมเป็นแน่!
แต่ทว่าตอนนี้ เขากลับใช้ท่าทีชุ่ยๆ มาจัดการแก้ไขเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือว่ามีเจตนาที่ไม่ดีบางอย่าง
ถ้าหากการประชุมศิลปะการต่อสู้ห้าชาติสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เช่นนั้นสำหรับจั่วเฉินแล้ว ก็คือการโจมตีอย่างหนึ่ง และสำหรับหัวกั๋ว ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีเช่นเดียวกัน
"ทำไม อาจารย์ฉีถึงใช้สายตาเช่นนี้มองฉันล่ะ ไม่พอใจกับข้อแก้ต่างของฉันเหรอ?" ต้วนเทียนชงยิ้มเล็กน้อย และทำท่าทีเหมือนไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด
"ฉันกลัวว่าคุณจะไม่ห้ามเขา และเมื่อถึงเวลานั้นฉันก็จะพลั้งมือฆ่าคนตายน่ะสิ นี่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเทียนเต้าเหมิงและพรรคไผ่เขียวแล้ว ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่อย่างใด!" ฉีเติ่งเสียนกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
ในเมื่อต้วนเทียนชงมีท่าทีเช่นนี้ ฉีเติ่งเสียนจึงหักหน้าเขาอย่างไม่เกรงใจ โดยใช้วิธีการใช้อำนาจคุกคามมาจัดการแก้ไขปัญหาโดยตรง
และคำพูดนี้ของฉีเติ่งเสียน ทำให้ต้วนเทียนชงที่ค่อนข้างคดในข้องอในกระดูกค่อนข้างโมโหอย่างเห็นได้ชัด
"เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ของอาจารย์ฉีแล้ว คือคิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งมาก ฝีมือสูงส่งกว่าพี่ใหญ่ของฉันอย่างนั้นเหรอ?" ต้วนเทียนชงโมโหจนหัวเราะออกมา และไม่ได้เห็นฉีเติ่งเสียนอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง
"เจ้าหนุ่มคนนี้ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริงๆ เรียนวิชามวยมาสองสามปี ก็กล้ามายั่วยุพี่ใหญ่ของฉันที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของผึ่งไหลเสียแล้ว!"
"ในตอนนั้นที่พวกเราเรียนวิชามวย ก็ไม่เคยอวดดีและบ้าบิ่นเหมือนกับคุณเลยด้วยซ้ำไป!"
ฉีเติ่งเสียนกล่าวด้วยสายตาที่เย็นชาว่า: "หากไม่มีพลังที่แข็งแกร่งจะเรียกว่าชายหนุ่มเหรอ? ฉันคิดว่าคนอย่างคุณ เวลาพูดคุยกับฉัน ล้วนไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย"
หลิวปิงเว่ยรีบลุกขึ้นยืน และกล่าวว่า: "ทั้งสองท่านอย่าเพิ่งโกรธเคืองกันเลย เรื่องเหล่านี้สามารถนั่งพูดคุยเจรจากันได้ ไม่เห็นจะต้องฟาดฟันกันเช่นนี้เลย"
ต้วนเทียนชงกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า: "หัวหน้าหลิว วันนี้ฉันเห็นแก่หน้าคุณนะ จึงรีบมาร่วมงานเลี้ยง! แต่ว่า คุณกลับพาเจ้าหนุ่มที่ไม่รู้จักประมาณตนมาพูดจากับฉันเช่นนี้ ช่างไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยจริงๆ! หรือว่า ฉันไม่ใช่หัวหน้า คุณก็เลยดูถูกเหยียดหยามฉัน?"
หลิวปิงเว่ยส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า: "คุณต้วน ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติก็เท่านั้น"
ต้วนเทียนชงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า: "คุณเป็นหัวหน้าของพรรคไผ่เขียว ซึ่งฉันก็เคารพคุณเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้คุณกำลังชดใช้ความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งตำแหน่งหัวหน้านี้ก็คงจะเป็นได้อีกไม่นานหรอก! ถึงเวลานั้น ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นศพนอนอยู่บนถนนก็เป็นได้ อีกทั้งยังมีกะจิตกะใจมาช่วยไอ้เด็กหนุ่มจากแผ่นดินใหญ่มาก้าวก่ายเรื่องของพวกเราอีก!"
สีหน้าของหลิวปิงเว่ยเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมาทันที จากนั้นจึงคำรามด้วยเสียงอันเคร่งขรึมว่า: "ต้วนเทียนชง คุณพูดเช่นนี้หมายความว่ายังไง? นี่คือกำลังยั่วยุฉันอย่างนั้นเหรอ? ต้องการที่จะเปิดสงครามกับพรรคไผ่เขียวของพวกเราหรือยังไง? !"
ในเวลานี้ฉีเติ่งเสียนกลับไม่โกรธเคืองแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง และกล่าวว่า : "ดูเหมือนว่าเทียนเต้าเหมิงยังยืนยันที่จะทำตามใจโดยไม่รับฟังผู้อื่นนะ คุณคิดว่าต้วนเทียนหยาพี่ใหญ่ของคุณจะดวงแข็งพองั้นเหรอ ก็ดี ถึงเวลานั้นฉันจะทำให้เขาตายอยู่หน้าประตูห้องประชุมของการประชุมศิลปะการต่อสู้เลย แล้วจะดูสิว่า เขาจะนำเกียรติอะไรมาให้คุณได้บ้าง!"
ต้วนเทียนชงกล่าวว่า : "ลิโป้ไม่อยู่ซะแล้ว ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับลิโป้ทั้งนั้น เจ้าหนุ่ม แกเคยเห็นโลกมาน้อยเกินไป จึงไม่รู้ว่าท้องฟ้ามันสูงแค่ไหน และแกยิ่งไม่รู้เลยว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในระดับพี่ใหญ่ของฉันนั้นมันน่ากลัวขนาดไหน! เกรงว่าเมื่อแกได้เจอเขาแล้ว แม้แต่จะลงมือก็ยังไม่กล้า"
หลังจากพูดจบ ต้วนเทียนชงก็ลุกขึ้นยืน เตรียมตัวที่จะออกจากที่นั่งไป
เขาเหลือบไปมองหลิวปิงเว่ย และกล่าวว่า : "หัวหน้าหลิวเดิมทีฉันไม่ได้อยากจะขัดแย้งกันกับคุณหรอกนะ แต่ว่าคุณไร้มารยาทเกินไป! รอให้ถึงวันเกิดของคุณปู่พรรคไผ่เขียวก่อน เทียนเต้าเหมิงของเราจะไม่นิ่งดูดาย เราจะสนับสนุนการแต่งตั้งรองหัวหน้าอย่างเต็มที่ และจะคอยดูว่าคุณจะยังนั่งในตำแหน่งหัวหน้าได้อย่างมั่นคงอยู่อีกไหม"
ทันใดนั้นสีหน้าของหลิวปิงเว่ยก็เปลี่ยนเป็นย่ำแย่ลงอย่างมาก พรรคไผ่เขียวในบรรดาสามสมาคมใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุด แต่ว่า ถ้าเทียนเต้าเหมิงยืนกรานที่จะเข้ามามีส่วนร่วม มันยังคงทำให้เกิดความไม่มั่นคงแก่เขา
"ไม่เจียมตัว แกมันไม่คู่ควร ไสหัวไปซะ!" ฉีเติ่งเสียนโบกมือ และกล่าวอย่างเย็นชา
เขาไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับต้วนเทียนชง อย่างไรก็ตาม หากเขาทำแบบนั้น มันจะส่งผลกระทบที่เลวร้ายจนเกินไป ต่อไปใครจะกล้ามาเจ้าร่วมงานเลี้ยงของเขาอีกล่ะ?
ต้วนเทียนชงหัวเราะหึหึ เตรียมที่จะจากไป แต่เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตู ประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออก และคนที่เดินเข้ามา เขาคือซือถู่หนานหัวหน้าแก๊งสีไห่
ซือถู่หนานกล่าวว่า : "ฉันได้ยินมาว่าคุณต้วนมาทานข้าวที่นี่ ดังนั้นจึงตั้งใจมาดูเป็นพิเศษ เพื่อเจอกับมิตรที่ดี จับมือกัน และดื่มเหล้ากันสักสองแก้ว"
ต้วนเทียนชงหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า : "ที่แท้ก็คือรองหัวหน้าใหญ่ซือถู่นี่เอง เราควรดื่มกันสักสองแก้ว เพื่อเฉลิมฉลองความรุ่งเรืองของผึ้งไหลเป็นการล่วงหน้า!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...