มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1540

“เพราะฉะนั้น ฉันเลยให้คนจองตั๋วเครื่องบินมาผึ่งไหลแล้ว นายรีบบินมาที่นี่ซะ”

“พอถึงตอนนั้น พวกเรามาร่วมมือกัน มาจัดการฆ่าเด็กเหลือขอเหล่านี้กันเถอะ!”

“มาหนึ่งคนก็ฆ่า มาสองคนก็ฆ่าให้หมด!”

ฉีเติ่งเสียนพูดกับจิ่วเฮิงที่ปลายสายด้วยน้ำเสียงที่อาฆาตเล็กน้อย

เจียงชิวเย่ว์ก้มลงนวดครีมบำรุงผิวให้ทั่วน่องขาเรียวยาวของเธอ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียนเธอก็อดไม่ได้ที่จะหันมองดูเขา

ฉีเติ่งเสียนสงบสติอารมณ์กับการแสดงออกที่ดุร้ายของเขา เขายิ้มให้เธอ แล้วโบกมือ

เจียงชิงเย่ว์ก็ยิ้มกลับมาให้เขาเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็มาตั้งใจบำรุงผิวขาของเธอต่อ

จิ่วเฮิงฟังคำพูดของฉีเติ่งเสียนเป็นเวลานาน เขากลับพูดเตือนไปว่า“ไม่ใช่ ฉันรู้สึกเหมือนนายกำลังพยายามหลอกให้ฉันทำงานเป็นอันธพาลเพื่อนายอีกแล้วงั้นเหรอ?”

ช่วงเวลานั้นฉีเติ่งเสียนก็โกรธขึ้นมาและพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันดูเป็นคนแบบนั้นหรือไง? ฉันทำเพื่อช่วยนายให้สกิลสูงขึ้น ต้องหนักใจเสียแรงไปเท่าไรนายรู้ไหม? ครั้งนี้ถ้านายไม่เอาลูกปะคำพุทธโรสวูดมาให้ฉัน ฉันจะโทษนาย!”

จิ่วเฮิงยิ้มที่มุมปากแล้วพูดว่า “ฉันแน่ใจ ว่านายหลอกฉัน!”

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าจิ่วเฮิงเป็นคนฉลาดและไม่ยอมถูกหลอกง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจและพูดว่า “คนเก่งก็มี ชื่อคลาร์กน่ะนายรู้จักใช่ไหมล่ะ เป็นอเมริกันในกรมcai ที่แข็งแกร่งที่สุด ยังมีทักษะศิลปะการต่อสู้ชั้นยอดที่ไม่อาจทำลายล้างได้!”

พอจิ่วเฮิงได้ยินถึงตรงนี้ ก็มีแรงฮึบทันทีแล้วพูดว่า “ที่นายพูดมา มันจริงใช่ไหม?!”

ฉีเติ่งเสียนพูดตอบไปว่า “จริงแน่นนิสิ ถ้าฉันโกหกนาย อย่างเลวร้ายที่สุด ฉันจะต่อยนายด้วยมือของฉันเอง

เช้ากลางวันเย็นต้องมีสักหนึ่งหมัด นายจะว่าอย่างไร?”

“วันหนึ่งสามหมัดเลยหรือ?!”จิ่วเฮิงยืนยันอีกครั้ง

“อืม!”ฉีเติ่งเสียนตอบรับอย่างหนักแน่น

“น้อยสักหมัดหนึ่งก็ไม่ได้เลยเหรอ?”จิ่วเฮิงถาม

“ไม่ได้สิ!”ฉีเติ่งเสียนพูดตอบกลับไป

จิ่วเฮิงถึงกับดีใจ แล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ กลับไปฉันจะให้เฮ่อตั่วเหลียนเป็นคนจัดการ นายก็นัดนายคลาร์กให้แนได้เลยฉันอยากจะประลองกับเขาสักตั้ง!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วตอบไปว่า “วางใจเถอะ คงจะมีโอกาสได้เจอเขา”

หลังจากที่วางสายไป เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก จิ่วเฮิงปรมาจารย์ที่เกือบจะเป็นพระเจ้าก็เพียงพอที่จะแข่งขันกับพันธมิตรระหว่างคลาร์กและโจรูริ

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าเจ้าจิ่วเฮิงคนนี้พิลึกชอบกล วัน ๆ เอาแต่หาเรื่องต่อยตีน วันหนึ่งต้องมีสักสามหมัด

เจียงชิงเย่ว์ที่เห็นก็ดอกไม่ได้ที่จะถาม “ใครเหรอ ทำไมกวนประสาทขนาดนี้?”

ฉีเติ่งเสียนพูดตอบ “จิ่วเฮิงน่ะ เธอเคยเจอแล้ว พระที่ผู้ไม่นับถือศาสนาพุทธและเชี่ยวชาญในการฆ่าคนและวาวเพลิงน่ะ“

เจียงชิงเย่ว์อดที่จะหัวเราะในล้ำคอขึ้นมาไม่ได้ เขย่าหัวน้อยน่ารักเบา ๆ แล้วพูดว่า “ฉันฟังน้ำเสียงของนายแล้ว ดูเหมือนนายกำลังพยายามหลอกคนอื่นเลยนะ”

ฉีเติ่งเสียนถามกลับ “นี่มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?!”

เจียงชิงเย่ว์พยักหน้าอย่างจริงจัง สิ่งนี้ทำให้ฉีเติ่งเสียนคิดนัก ถึงเวลาที่เขาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมแล้ว ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะมองเห็นข้อบกพร่องของเขาได้ง่าย!

ชิงเสวียน “นี่คุณชิงเสวียนครับ ช่วยจัดการเตรียมอาหารมื้อกลางวันให้ผมด้วยนะ เดี่ยวอีกสักพักผมกับแฟนจะไปกินข้าวที่นั่น”

เขาเองก็เป็นคนที่ฉลาดเกมโกง เพราะฉะนั้นเขาเลยไม่โทรหาซุนกั๋วเฉวียน ไม่เช่นนั้นซุนกั๋วเฉวียนจะบอกเขาอย่างแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่บ้านและทุกคนออกไปข้างนอกหมดแล้ว

“รับทราบครับอาจารย์ ผมจะบอกให้ห้องครัวเตรียมอาหารให้อร่อยเลยนะครับ” ซุนชิงเสวียนพูดตอบ

ฉีเติ่งเสียนได้ยินแว่ว ๆ ว่า ซุนกั๋วเฉวียนถามตรงนั้น: "อะไรนะ? หมอนั่นจะกินข้าวที่นี่งั้นเหรอ? คงไม่ใช่ว่าเมื่อวานขูดเงินตระกูลหลงไปไม่พอ แล้วเตรียมจะมาขูดเงินเราหรอกนะ?”

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะเข้าสู้โหมดจริงจัง พอหลังจากวางสาย คิดกับตัวเองว่าฉันมีชื่อเสียงแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้แต่มากินข้าวก็ยังไม่อยากจะเจอหน้ากัน?

ฉีเติ่งเสียนได้พาเกาเม่ยที่แต่งตัวสวย ๆ ออกไปและไปกล่าวทักทายสวีเค่อ

เหตุผลที่ซุนกั๋วเฉวียนไม่ชอบคำว่า "สมความปรารถนาทุกอย่าง" ก็เพราะเขานั้นมีค่านิยมของตัวเอง ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับสัตว์ร้ายที่ใส่ใจชีวิตมนุษย์ แล้วผู้คนในโลกนี้จะยังประสบปัญหาได้อย่างไร?

ซุนกั๋วเฉวียนยังกล่าวอีกว่า"เรื่องที่ฉันยอมรับหลานสาวคนนี้ แน่นอนว่าฉันไม่สามารถละเลยที่จะทำอะไรลวก ๆ ได้ อีกสองสามวันฉันจะให้คนเตรียมบัตรเชิญ จากนั้นก็จัดงานเลี้ยงที่โรงแรม เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักหลานสาวของฉัน ”

เจียงชิงเย่ว์ตอบกลับไปว่า ”เอาตามที่คุณปู่เห็นสมควรเลยค่ะ!”

จริง ๆ แล้ว เกาเม่ยมีความฉลาดทางด้านอารมณ์สูง ไม่ใช่ความฉลาดทางอารมณ์สูงอย่างที่ฉีเติ่งเสียนพูดโอ้อวดอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเธอพูดเก่งมากและฉลาดพูด เพราะฉะนั้นเธอจึงคุยเข้าขากับซุนกั๋วเฉวียนได้ภายเวลารวดเร็ว

เวลานี้ซุนเจี้ยนเฉินได้เข้าใกล้ฉีเติ่งเสียน ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “ไง ไอน้องชาย”

“น้องอะไรกันครับ มีมารยาทบ้างไหมเนี่ย?!”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ก็แฟนของนายเป็นหลานสาวของปู่ฉันแล้ว เพราะฉะนั้นนายก็ถือว่าเป็นน้องฉัน ไม่ใช่หรือไง?” ใบหน้าของซุนเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าตัวเองเหนือชั้นกว่า

ฉีเติ่งเสียนมองเขาอย่างประหลาดใจ ก่อนที่จะพูดไปว่า “ไม่ได้เป็นน้องซะหน่อย…อย่างน้อยคุณก็ต้องเป็นลุงผม”

ซุนเจี้ยนเฉินแค่นยิ้มอย่างเย็นชา“ถือดีอะไร?”

ฉีเติ่งเสียนพูดกลับว่า “บางทีเธอควรจะเรียกคุณว่าพ่อได้แล้วนะครับ”

ซุนเจียนเฉินมองฉีเติ่งเสียนด้วยความสิ้นหวังราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กัดฟันแล้วพูดว่า“งั้นก็ได้ นายนี่มันโคตรจะเก่งเลย !”

ฉีเติ่งเสียนหันกลับมาหาซุนชิงเสวียนแล้วพูดว่า “นี่คุณซุนซิงเสวียน หลานของคุณนี่มันยังไงกัน เจอหน้าก็ด่าผม ยังจะมาเรียกผมว่าน้องชายอีก เขานี่คิดจะขี่ข้ามหัวคุณใช่ไหม?!”

ซุนเจี้ยนเฉินเกือบจะกลัวตายทันที ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบายให้ซุนชิงเสวียนฟังอย่างถ่อมตัว เขาไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นมนุษย์ แล้วคนจะกลายเป็นสุนัขในผิวหนังมนุษย์ได้อย่างไร?

“ฉันจะเตรียมของขวัญอะไรให้คุณปู่ดีนะ?” หลังจากที่ออกมาจากตระกูลซุน เจียงชิงเย่ว์ก็พูดถามขึ้น

“เธอเห็นไม้ค้ำที่อยู่เบาะนั่งหลังไหมล่ะ นั้นแหละคือของขวัญท่าน” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ

ใช่แล้ว ทักษะของพระอัครสังฆราชนั้น อยู่จุดสูงสุดของความสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง