มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1640

คุณชายเซี่ยผู้นี้ แน่นอนว่าเป็นคนรู้จักของฉีเติ่งเสียน

ยิ่งไปกว่านั้น ลักษณะนิสัยเหมือนขันทีของเขา เป็นแบบนี้เพระคนฆ่าสัตว์อีกด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว ไตข้างหนึ่งถูกตัดออกไป ลมปราณของไตไม่เพียงพอ และพลังงานหยางก็ลดลงตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดูเหมือนคนที่มืดมนอย่างน่าสังเวช

เซี่ยเทียนเฉียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นฉีเติ่งเสียน แต่ดวงตาของเขาก็ระเบิดเจตนาฆ่าอันดุเดือดออกมาทันที!

เขาถูกลักพาตัวโดยคนฆ่าสัตว์ในกวางหยาง ถูกทรมาน และต้องทนกับความเจ็บปวดจากการให้เลือดไหลเป็นบ่อยครั้ง เขาได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นสัตว์

“มองฉันทำไม คนที่ตัดไตของคุณคือหน่าวซิ่น มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ นอกจากนี้ ไตก็ไม่ส่งผลต่อการแสดงออกนิ!” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดกับเซี่ยเทียนเฉียว

ในตอนแรก แขนข้างหนึ่งของเซี่ยเทียนเฉียวถูคนฆาสัตว์ใช้ ak ทุบจนหัก การทรมานที่ตามมา ก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉีเติ่งเสียนเลยสักนิดจริงๆ

เป็นเพราะครนฆ่าสัตว์ต้องการเงินจากตระกูลเซี่ยจากนั้นเขาก็ทรมานเซี่ยเทียนเฉียว ต่อมาเซีนยซานเกิดความขัดแย้งตรกูลเซี่ย ฉีเติ่งเสียนจึงโทรให้คนฆ่าสัตว์ละเว้นเซี่ยเทียนเฉียว แต่มาคุกคามตระกูลเซี่ยผ่านเซี่ยเทียนเฉียวแทน

คนฆ่าสัตว์ที่เติบโตมาในสถานที่เช่นตู่ซานเจี่ยว และเป็นขุนศึกมาหลายปี แน่นอนว่ามีวิธีการอันโหดเหี้ยม

เซี่ยงตงชิงอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าแปลกใจ เซี่ยเทียนเฉียวผู้นี้ถูกตัดไตออกจริงๆ เหรอ?

เธอแทบไม่เชื่อเลยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ที่ถูกหลอกให้เข้าไปที่กวางหยางเพื่อตัดไต คือคนจนที่ใฝ่ฝันที่จะรวย และสภาพครอบครัวของพวกเขาก็มักจะอยู่ในระดับปานกลาง

เป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งจากเมืองหลวงเช่น เซี่ยเทียนเฉียวก็ถูกตัดไตเช่นกัน

หลังจากที่เซี่ยงอวิ๋นได้ยินสิ่งที่ฉีเติ่งเสียนพูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว เซี่ยเทียนเฉียวถึงกับมีความหลังที่น่าเศร้าเยี่ยงนี้ อีกทั้งยังเพราะฉีเติ่งเสียน

"ฮ่าฮ่า..." เซี่ยเทียนเฉียวมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยความเกลียดชังอย่างมาก และอยากจะฆ่าเขาทันที

สองพ่อลูกของตระกูลฉีมีความขัดแย้งกับตระกูลเซี่ยไม่เบาเลย คนที่ถูกฉีปู้อวี่ไล่ไปที่ประตูรัฐสภาและต่อยที่หัวคือลูกชายคนโตของตระกูลเซี่ย

เซี่ยเทียนเฉียวกล่าวว่า: "ฉีเติ่งเสียนขอบคุณแกที่ทำให้ฉันในตอนนี้กลายเป็นคนพิการแล้ว และฉันก็ไม่มีไตด้วย ฉันจะคิดบัญชีนี้ไว้บนหัวของแก!"

ฉีเติ่งเสียนดูขี้เกียจและพูดว่า “อย่าพยาบาทนัก อย่างมากสุด ฉันจะไปตลาดมือสองซื้อ iPhone 4 ให้คุณเพื่อชำระหนี้ให้คุณเอง!”

เซี่ยงตงชิงรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจจริงๆ คนที่แลกไตเพื่อจะได้มือถือ ทุกวันนี้ต่างเสียใจทุกวัน ผ่านไปกี่ปีแล้วยังอยากได้มือถือเครื่องเก่ามาจ่ายค่าไตคนอื่นอยู่เหรอ?

แน่นอน เซี่ยเทียนเฉียวโกรธมากกับคำพูดของฉีเติ่งเสียนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมน จมูกของเขาเกือบจะบิดเบี้ยว

“คุยกับฉันก็ระวังด้วย ฉันเป็นคนนิสัยไม่ดี เหมือนกับพ่อของฉันนิดหน่อย นอกจากนี้ ลูกน้องที่ไร้ประโยชน์ของคุณเหล่านี้ ไม่มีคนใดที่จะต่อกรกับฉันได้” ฉีเติ่งเสียนเห็นเซี่ยเทียนเฉียวโกรธและดูเหมือนจะทำอย่างนั้น ต้องการจะด่าคน จึงกล่าวเสริมทันที

เมื่อเขาพูดแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะทำตัวเหมือนคนอันธพาล!

ไม่เป็นไรถ้าจะล้อเลียน แต่ถ้ากล้าด่าฉัน ก็อย่าหาว่าฉันลงมือ ใครบอกศิลปะการต่อสู้ของแกด้อยกว่าฉันล่ะ

เขาทำสิ่งนี้โดยไม่มีภาระทางจิตใจ ท้ายที่สุด เมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ชีวิตของเขาเกือบจะถูกฆ่าโดยตระกูลเซี่ย

เซี่ยงตงชิงพูดว่า: "ความจริงมากมายในโลกนี้กำลังเปลี่ยนแปลง คนโบราณกล่าวว่าฟ้ากลมแผ่นดินสี่เหลี่ยม แต่โลกมันกลมจริงๆ ... แต่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีความจริงข้อหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง"

"นั่นคือความจริง"

"ความชั่วร้ายไม่สามารถเอาชนะความดีได้ นั่นคือความจริงนิรันดร์"

เซี่ยเทียนเฉียวเยาะเย้ย: "อะไรนะ ความชั่วร้ายคืออะไร และอะไรคือความชอบธรรม เขาจะถือว่าชอบธรรมได้อย่างไรเมื่อเขาไปอยู่ใต้เสื้อคลุมของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ แต่เอาแต่หลอกลวง ชิงปล้น ฮ่าๆ น่าขันนัก... อีกทั้ง เขายุยงขุนศึกตัดไตฉันด้วยซ้ำ ชอบธรรมเหรอ!”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและกล่าวว่า: “การทำชั่วด้วยอำนาจในมือของคุณนั่นคือชั่วร้าย การเพิกเฉยต่อกฎเกณฑ์ และการเหยียบย่ำกฎหมายนั่นคือเลว! ไม่ต้องมาสนใจว่าฉันเป็นคนยังไง หากฉันอยากเอาสิทธิพิเศษของคุณจูงไว้ในสายจูงหมา คุณจะยืนอยู่บนเส้นทางแห่งความยุติธรรมเสมอ!"

เมื่อพูดเช่นนี้ ฉีเติ่งเสียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงลู่จ้านหลง และพูดต่อ: "ตั้งแต่สมัยโบราณ เรามีคนที่ทำงานหนัก มีคนสู้อย่างแข็งขัน มีคนทำเพื่อผู้คน มีคนที่สละชีวิตเพื่อแสวงหากฎหมาย...ถึงแม้จะเป็นกษัตริย์นายพลกวีทั้งหลายซึ่งเรียกว่า "หนังสือประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกชีวประวัติตามความจริง" แต่ความรุ่งโรจน์ของพวกเขาก็มักจะไม่สามารถปกปิดความรุ่งโรจน์ของพวกเขาได้ นั่นคือกระดูกสันหลังของจีน"

เซี่ยเทียนเฉียวกล่าวว่า "ก็ดี งั้นมาดูกันว่า เซี่ยงกรุ๊ปจะไปได้ไกลแค่ไหน! รอดูกัน!"

สีหน้าฉีเติ่งเสียนแปลกไป และพูดว่า "รอดูกัน? ตอนนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ ก็สนุกอย่างลับๆ ไปเถอะ”

ในวันนี้เซี่ยเทียนเฉียวก็เข้าใจแล้วว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้ญาติที่ไร้ประโยชน์กลุ่มนี้มาชักจูงความคิดของเซี่ยงตงชิง

ดูเหมือนว่า วิธีที่ว่าลงทุนเงินทุนและกำลังคนให้มากขึ้น เพื่อเอาชนะเซี่ยงกรุ๊ป คงต้องดำเนินต่อไป