ภาพอักษรนี้ ถูกแขวนไว้ที่อาคารฐานทัพกรมยุทธการ และใครก็ตามที่มาที่นี่ ก็สามารถเห็นได้ตั้งแต่แรกมอง
มีบางคนรู้สึกชื่นชมยินดี ในขณะที่บางคนแอบไม่พอใจ
“ภาพอักษรนี้ จะแขวนไว้ที่นี่ ใครคิดอยากจะเอาออก มาเอาชนะฉันก่อน!” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเฉยเมยด้วยสายตาเย็นชา
ทุกคนพูดไม่ออก
ฉีเติ่งเสียนจึงพาคนของเขาลงมาจากหลังคา
“นายพลจัตวาฉี ขอบคุณ!” ผู้ช่วยเสี่ยวเฉินกล่าวขอบคุณฉีเติ่งเสียน
“ไม่เป็นไร ต่างก็เป็นพี่น้องกัน” ฉีเติ่งเสียนตบไหล่ผู้ช่วยเสี่ยวเฉินอย่างไม่ใส่ใจและยิ้มให้
ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนลงมาถึงด้านล่าง เขาก็ถูกรายล้อมไปด้วยลูกน้องของลู่จ้านหลง ต่างก็ยิ้มแย้มกัน พวกเขาจมดิ่งกันมานานเกินไปแล้ว
วันนี้ สิ่งที่ฉีเติ่งเสียนทำ ทำให้พวกเขาทุกคนรู้สึกรู้สึกยินดีปรีดาหลังจากที่ตกอยู่ในสภาพยากลำบากมานาน!
“นายพลจัตวาฉี ขอบคุณครับที่ให้ได้มีความหวัง! ทำให้เรเห็นความหวังที่พยายามอดทนกันมา!” มีคนอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างทอดถอนหายใจ รู้สึกว่าช่วงนี้รู้สึกหดหู่ใจมากจนทำไม่ได้ เห็นความหวัง
แต่การปรากฏตัวของฉีเติ่งเสียนและสิ่งที่เขาทำนั้น สร้างแรงบันดาลใจเป็นอย่างมาก เขาแขวนภาพอักษรคำว่า ลู่จ้านหลง ไว้บนสุดของอาคาร ใครจะลืมได้อีกล่ะ?
ฉีเติ่งเสียนจับมือกับทุกคนทีละคน ปฏิเสธคำเชิญให้ไปกินข้าวด้วยกัน และพาลู่หลิงหลิงและหยางกวนกวนจากไป
หยางกวนกวนสูดหายใจเข้ายาวแล้วพูดว่า: “อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่ฉันเองก็รู้สึกหดหู่มาก แต่สิ่งที่คุณทำทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจ! คิดว่า ในใจของพวกเขา คงจะมีความสุขเช่นกัน
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ฉันแค่ทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งที่ลู่จ้านหลงทำนั้นช่าง น่าจดจำและน่าชื่นชมยิ่งกว่า”
จากนั้น ฉีเติ่งเสียนก็โทรหาอวี้เสี่ยวหลง ขอให้เธอดูว่า จะสามารถจัดหานักข่าวเฉพาะทางจากกรมยุทธการมาถ่ายรูปหรือสัมภาษณ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ได้หรือไม่
หลังจากที่อวี้หลงหลงได้ยิน ก็ตอบตกลงทันทีและกล่าวว่า “คนพวกนี้จงใจต้องการกลบเกลื่อนความดีของลู่จ้านหลง แต่เราอยู่แผนกเดียวกัน ดังนั้นมันจึงยากที่แทรกแซง งานนี้คุณทำได้ดีมาก ฉันต้องหาคนมาประชาสัมพันธ์ให้ได้!”
จู่ๆ ฉีเติ่งเสียนก็ดีใจและพูดว่า “ทำได้ก็ดี ต้องประชาสัมพันธ์ให้เข้มข้น! ตอนนี้เราได้เปรียบ จะต้องทำให้พวกเลวพวกนั้นทุกข์ตรมใจสักหน่อย”
อวี้เสี่ยวหลงพูดว่า: “โอเค ฉันจะหาคนมาจัดการให้”
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนวางสายโทรศัพท์ เขาก็พูดพร้อมกับเยาะเย้ยบนใบหน้า: “ไอ้พวกสารเลว ฉันจะคอยดูว่าพวกเขาจะโกรธแค่ไหน”
หยางกวนกวนก็รู้สึกตลก คนพวกนี้ตั้งใจจะลบประวัติศาสตร์ของลู่จ้านหลง แต่ฉีเติ่งเสียนก็แขวนชื่อนี้ขึ้น และขอให้อวี้หลงหลงหาคนมาประชาสัมพันธ์
ด้วยวิธีนี้ ภาพอักษรนั่นจะถูกแขวนไว้บนอาคารตลอดไปอย่างแน่นอนและหลังจากการประชาสัมพันธ์ พวกเขาอาจจะต้องทนความเกลียดชังให้ความร่วมมือต่อหน้าคนอื่น
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขมาก! เพียงคิดที่จะทำให้คนที่มุ่งเป้าไปที่ลู่จ้านหลงมีช่วงเวลาที่ทุกข์ตรมใจ เธอรู้สึกมีความสุขแล้ว
ตามที่คาดไว้ อวี้หลงหลงดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้เวลาคนเหล่านั้นโต้ตอบ ได้จัดให้นักข่าวเข้าฐานทัพกรมยุทธการโดยตรง
นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้นำทีมอีกด้วย
“อวี้หลงหลง คุณกำลังทำอะไรอยู่!” มีคนโกรธจัดจึงถามอวี้หลงหลง โดยตรง
“ฉัรคิดว่าภาพอักษรนี้ดีมาก เราปฏิบัติงานในกรมยุทธการ ก็เป็นการต่อสู้กับความชั่วร้ายและแสวงหาความยุติธรรมไม่ใช่หรือ? ความยุติธรรมก็เหมือนแหล่งน้ำ ความชอบธรรมก็เหมือนแม่น้ำ นี่เขียนได้ดีไม่ใช่เหรอ?” อวี้เสี่ยวหลงแสร้งถาม
“อวี้หลงหลง คุณ...คุณมีเจตนาอะไรกันแน่?”
“อ้าว คุณไม่บอกแต่แรก จริงๆ เลย! ถ้ารู้ว่าเป็นหม้อไฟเนื้อแกะ ฉันจะทานขนมปังทำไม?” หยางกวนกวน โกรธทันที พูดอย่างขบฟัน
เธอแทะขนมปังชิ้นใหญ่จนอิ่มท้อง ประเดี๋ยวคงทานได้ไม่มาก
ลู่หลิงหลิงอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจว่า “อาหารที่บ้านพี่ฉีไม่อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ใครกินใครก็จะรู้เอง เดี๋ยวคุณกินกับข้าวอย่างอื่นให้มากๆ นะ ฉันจะรับผิดชอบกินหม้อไฟเนื้อแกะเอง!”
ฉีเติ่งเสียนพาทั้งสองคนกลับบ้าน พอเดินเข้าไป ก็ได้กลิ่นความอร่อย กลิ่นหอมของเนื้อแกะปรุงในหม้อทองแดงที่เผาถ่าน
“ไง แม่นางคนนี้คือใครกัน ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อน…...” เมื่อจ้าวซือชิงเห็นลู่หลิงหลิง ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ “แต่ไม่สำคัญ แค่มาที่นี่ก็คือ ครอบครัวเดียวกัน”
ในขณะที่เธอพูด เธอเป็นมิตรมาก
ฉีเติ่งเสียนไอและพูดว่า “แม่ เธอคือ ลู่หลิงหลิงน้องสาวของลู่จ้านหลง!”
จากนั้น จ้าวซือชิงก็เข้าใจ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเขม็งมองฉีเติ่งเสียน ถ้าลูกชายของเธอไม่มีความรักที่มากมาย เธอคงไม่ต้องทำให้ตัวเองต้องเกือบขายหน้าหรอก! เกือบจะเหมารวมลู่หลิงหลิงได้ว่าเป็นสะใภ้คนหนึ่งของเธอแล้ว!
หยางกวนกวนชำเลืองมองฉีเติ่งเสียนอย่างไม่แสดงออก จากนั้นการเยาะเย้ยก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ
แม้ว่าจ้าวซือชิงจะไม่ออกจากบ้าน แต่ก็ทราบเรื่องของลูกชายตยเองเป็นอย่างดี
“หือ?!”
ช่วงเวลาต่อมา หยางกวงกวนก็ตกใจ จากนั้นก็รู้สึกประหม่าทันที เพราะเธอได้เห็นเฉินหยู!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...