จ้าวซือชิงเป็นวรยุทธ์ และเชี่ยวชาญหมัดพัวพันทงเป้ย แต่เธอไม่ชอบสู้กับคน จึงมักจะแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นอยู่เสมอ เช่น ปล่อยให้ฉีปู้อวี่เป็นคนดำเนินการที่ง่ายที่สุด
แต่ทว่า จัดการกับฉีปู้อวี่ต้องทำเอง ช่วยไม่ได้ จะปล่อยให้ฉีปู้อวี่ทำร้ายตัวเองไม่ได้หรอกใช่ไหม?
“หลิงหลิง เธอก็เล่นกับจ้าวหงหนีที่บ้านแล้วกัน เธอเป็นน้องสาวของลู่จ้านหลง อีกทั้งหากอยู่กับเรา จะเป็นที่จดจำได้ง่าย จะถูกตกเป็นเป้าหมายเอาได้”
“แม้เราไม่กลัวปัญหา แต่ลดปัญหาได้ก็ย่อมดี”
ฉีเติ่งเสียนพูดกับลู่หลิงหลิง ขอให้เธออยู่บ้าน
ลู่หลิงหลิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและเห็นด้วย เธอรู้ด้วยว่าน้ำในเมืองหลวงนั้นลึกยากจะหยุ่งรู้ได้ เธอไม่สามารถกระโดดลงไปได้ ดังนั้นเธอจึงเชื่อฟังคำพูดของฉีเติ่งเสียนอย่างง่ายดาย
ฉีปู้อวี่ ฉีเติ่งเสียน บวกกับจ้าวซือชิง หยางกวนกวนและเฉินหยูทั้งสาม ก็พอดีกับรถคันหนึ่ง ออกจากบ้านไปด้วยกัน
เห็นได้ชัดว่าเฉินหยูค่อนข้างจะตื่นเต้นเล็กน้อย เธอเป็นคนชอบดูความตื่นเต้น เป็นปีศาจร้ายที่กลัวแต่โลกจะไม่วุ่นวาย ที่ไหนมีความตื่นเต้น จะเข้าร่วมทันที
ย่งจิ่วคลับเป็นจ้าวซือชิงสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ในเวลานั้นยังเป็นสถานที่ชุมนุมอีกด้วย และคนที่ไปมาเกือบทั้งหมดล้วนเป็นบุคคลชั้นนำ
หลังจากที่จ้าวซือชิงถอยออกจากคลับ ตระกูลจ้าวก็เข้ามารับช่วงต่อโดยอาศัยรากฐานที่จ้าวซือชิงวางไว้ และยังคงสามารถเจริญรุ่งเรือง ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดของประเทศหัวกั๋ว
“ใครเป็นผู้รับผิดชอบคลับแห่งนี้” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างไม่ใส่ใจ
“เจ้าหมิงลู่” จ้าวซือชิงกล่าว
“จ้าวหมิงลู่? น่าสนใจทีเดียวเลย” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากได้ยินสิ่งนี้
สาวใช้ทั้งสองของจ้าวหมิงลู่ต่างก็ตายไปแล้ว เกรงว่าคงจะโกรธแค้นมาก คราวนี้แม่ยังอยากเอาย่งจิ่วคลับกลับคืนมา ไม่รู้ว่าเขาจะตอบโต้ด้วยหรือไม่?
ครั้งนี้ ฉีเติ่งเสียนและฉีปู้อวี่กลับมายังเมืองหลวงด้วยรัศมีที่สุดยอด และยังได้เข้าร่วมการประชุมรัฐบาลกลางด้วย กล่าวได้ว่า สวมเสื้อคลุมสีเหลือง (ชุดเหลืองครึ่งท่อน เสื้อพระราชทาน แก่ข้าราชการ) ปกป้องตน สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องกังวลมากเกินไป
นอกจากนี้ เดิมทีย่งจิ่วคลับเป็นของจ้าวซือชิง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะเอามันกลับคืน
เมื่อมาถึงทางเข้าคลับ ฉีเติ่งเสียนให้ทั้งสี่คนลงจากรถก่อน แล้วจึงจอดรถไว้ในที่จอดรถ
คลับแห่งนี้ตกแต่งในสไตล์คลาสสิก ภายในมีลักษณะเป็นทรงกลม และแบ่งออกเป็นสามชั้น คือ ชั้นบน กลาง และล่าง ผู้คนส่วนใหญ่ที่สามารถรับบัตรสมาชิกคลับได้ จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และพวกเขาสามารถครอบครองพื้นที่บนชั้นสองและที่นั่งชั้นสามนั้นดูน่าประทับใจยิ่งขึ้น
“ทุกท่าน โปรดแสดงบัตรสมาชิกของคุณ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูก็สวมชุดสูทรองเท้าหนัง ยื่นมือออกอย่างสุภาพและยิ้มให้กับคนทั้งห้า
บัตรสมาชิกคลับ น่าสนใจมาก แบ่งตาม “คำภีร์อี้จิง” แบ่งเป็นชูจิ่ว จิ่วเอ้อ จิ่วซาน จิ่วซื่อ และระดับสูงสุดคือจิ่วหวู่
ชูจิ่ว คือสมาชิกใหม่ของคลับ ไม่มีที่นั่งเฉพาะ
จิ่วเอ้อ เป็นสมาชิกหลัก สามารถนั่งในชั้นแรกได้
จิ่วซาน ก็เป็นสมาชิกหลัก สามารถนั่งในชั้นที่สองได้
จิ่วซื่อ นั้นระดับสูงกว่า นั่งในชั้นที่สาม
และจิ่วหวู่ ถือเป็นการมีอยู่ที่พิเศษมาก ซึ่งเทียบเท่ากับสมาชิกสูงสุดของโรงแรมเทียนตี้ มันหายากมาก แทบไม่มีใครเคยเห็น
จ้าวซือชิงหยิบบัตรสมาชิกของเธอออกมาจากกระเป๋าโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นป้ายไม้ที่มีคำว่า "จิ่วหวู่" เขียนไว้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นบัตรสมาชิกใบนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่จะมองพิจารณาจ้าวซือชิง แล้วพูดว่า "คุณเป็นสมาชิกรัดับจิ่วหวู่?"
จ้าวซือชิงจึงถามกลับ “ไม่เหมือนเหรอ?”
แน่นอนว่าในสถานที่เช่นคลับ จะต้องคำนึงถึงความอาวุโส มิฉะนั้น จะไม่มีความรู้สึกถึงลำดับชั้น ใครยินดีที่จะทุ่มทุนจ่าย? ใครยินดีที่จะแสดงโชว์ที่ยอดเยี่ยมเพียงเพื่อหามิตรที่ดีมากขึ้น?
หลังจากมาถึงชั้นสาม พนักงานก็ทักทายด้วยรอยยิ้มทันทีและถามว่า “คุณนาย คุณมีที่นั่งไหมคะ?”
จ้าวซือชิงโค้งริมฝีปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “แน่นอน ฉันไปคนเดียวได้ คุณไม่จำเป็นต้องนำทาง”
“ครับ ได้เลยครับ!” พนักงานโค้งคำนับและตกลงอย่างรวดเร็ว
จ้าวซือชิงพาทุกคนตรงไปยังที่นั่งด้านหน้าซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายสุดของห้องโถงทรงกลม มองเห็นทั่วทั้งคลับ นอกจากนี้ยังเป็นที่นั่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอีกด้วย
เมื่อพนักงานเห็นจ้าวซือชิงกำลังไปที่ที่นั่งนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก นั่นคือที่นั่งของคุณชายจ้าว แม้ว่าปกติแล้วจะว่างไว้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถนั่งบนนั้นได้ ยิ่งไม่มีใครกล้านั่ง!
“ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้คือใคร เธอสุดยอดไปเลย ถึงกับจะนั่งที่นั่งของจ้าวหมิงลู่เหรอ!” มีคนอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยเสียงต่ำ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจำตัวตนของจ้าวซือชิงไม่ได้
ฉีปู้อวี่และฉีเติ่งเสียนพ่อลูกทั้งสองบังเอิญดูเหมือนจะกลายเป็นบอดี้การ์ด ไปโดยปริยาย
จ้าวซือชิงที่อยู่เงียบๆ มานานกว่าสิบปีได้แสดงความสามารถออกมาในวันนี้ แม้แต่ผู้มีฝีมือสูงสองคนที่ทำลายความว่างเปล่า ก็ไม่สามารถระงับออร่าของเธอได้
เฉินหยูเดินอย่างสบายใจ ยิ้มแล้วพูดว่า “ป้าจ้าวเท่เหลือเกิน!”
หยางกวนกวนก็ยกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมชมว่า “แม่เจ๋งจริงๆ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีฉายา "ดาบที่อ่อนโยน"
จ้าวซือชิงจ้องมองฉีเติ่งเสียนด้วยความโกรธ โดยรู้ชัดเจนว่าลูกชายของเธอกำลังปั้นเรื่องใส่เธอ
ฉีปู้อวี่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่จ้าวซือชิงขอให้เขาฆ่าใครสักคนในตอนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...