เฉินหยูนั่งเอกเขนกบนโซฟาด้วยท่าทีเกียจคร้าน ใช้มือข้างหนึ่งพยุงศีรษะของตัวเองไว้อย่างสบาย ๆ
ท่วงท่าของเธอดูไม่ค่อยให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่เท่าไหร่ แต่ในสถานการณ์นี้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรให้เธอไม่พอใจ
"ตอนนั้นความคิดของเธอถูกต้องแล้ว ตระกูลจ้าวมีความทะเยอทะยานมากเกินไป การปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในหนานหยางไม่ใช่เรื่องดีเลย" คุณย่าใหญ่เฉินถอนหายใจพลางกล่าวต่อ "ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าตอนนั้นฉันเชื่อเธอก็คงจะดี"
เพื่อแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่จริงใจ เธอจึงรับผิดชอบทุกอย่างไว้ที่ตัวเองตั้งแต่ต้น
แต่เฉินหยูกลับหัวเราะเยาะ ก่อนจะถามตรง ๆ "หนูแค่อยากรู้ว่าทำไมพวกท่านถึงขายหุ้นของสถานีโทรทัศน์ให้ตระกูลจ้าว?"
เฉินฝู ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น "ตอนนั้นพวกเขาเสนอเงื่อนไขที่ดีมาก มันไม่ใช่แค่เงินสองพันล้านดอลลาร์เท่านั้น... อีกอย่าง ฉันคิดว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลแล้ว สื่อดั้งเดิมล้าหลังไปเยอะ ขายให้พวกเขาก็คงไม่เป็นไร"
เฉินหยูยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วพูดขึ้นอย่างแดกดัน "ขอชื่นชมเลยนะ สมแล้วกับชื่อของท่านจริง ๆ!"
"หมายความว่าไง?" เฉินฝูถามอย่างงุนงง
"ก็คนโง่มักจะมีโชคไงล่ะ! แต่ท่านไม่มีโชคหรอก มีแค่ความโง่" ฉีเติ่งเสียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กล่าวเสริมขึ้นมาทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฉินฝูถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสของเฉินหยู เธอจึงไม่สะดวกจะพูดแรง ๆ กับเขา แต่ฉีเติ่งเสียนไม่มีความเกรงใจใด ๆ อยู่แล้ว จึงช่วยพูดแทน
เฉินฝูโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งกล้ำกลืนความอับอายเอาไว้
เมื่อมองย้อนกลับไป การขายหุ้นของสถานีโทรทัศน์หนานหยางให้ตระกูลจ้าว ถือเป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุด ไม่ต่างอะไรจาก โง่ระดับตำนานเลยทีเดียว
ช่วงนี้ รายการต่าง ๆ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ แม้จะไม่ได้โจมตีโดยตรง แต่กลับแฝงไปด้วยการเหน็บแนม เปรียบเปรยถึงตระกูลเฉิน ซึ่งครองอำนาจในหนานหยางมาอย่างยาวนาน และภายใต้ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจ ผู้คนจำนวนมากตกงาน พวกเขาย่อมได้รับอิทธิพลจากข้อมูลลักษณะนี้ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจและเริ่มมีแนวโน้มที่จะหันเป้าหมายมาที่ตระกูลเฉิน
แม้ในตอนนี้คนส่วนใหญ่จะยังไม่กล้าออกหน้าท้าทายตระกูลเฉินโดยตรง เนื่องจากตระกูลเฉินมีอำนาจครอบงำหนานหยางมาหลายปี
แต่ถ้าผู้คนรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ?
คนมากขึ้น กำลังมากขึ้น และความกล้าก็มากขึ้นเช่นกัน!
เฉินหยู มีอำนาจควบคุมกองทัพอยู่ในมือ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ตระกูลเฉินยังคงมีอำนาจในหนานหยาง และโชคดีที่พวกเขาไม่ได้โง่พอที่จะปล่อยให้ตระกูลจ้าว ได้เข้าไปกุมอำนาจทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ตระกูลจ้าวนั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาแทรกซึมไปได้ทุกที่ หนานหยางเองก็เบื่อหน่ายตระกูลเฉินมานานแล้ว ดังนั้นเมื่อได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจ้าว พวกเขาจึงเริ่มท้าทายและพยายามช่วงชิงอำนาจทางทหารจากตระกูลเฉิน
ที่ผ่านมาตระกูลเฉินสามารถควบคุมกองทัพได้ เพราะพวกเขากอบโกยทรัพย์สินของรัฐจนรัฐบาลเป็นหนี้มหาศาล เงินเดือนข้าราชการก็ต้องพึ่งพาเงินจากเฉินกรุ๊ป และแน่นอนว่าทหารทั้งหมดก็กินเงินเดือนจากตระกูลเฉิน เมื่อเงินเดือนมาจากใคร ก็ฟังคนนั้น นี่มันชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
แต่ตระกูลจ้าวก็เป็นกลุ่มมหาเศรษฐีที่ไม่ขาดเงิน พวกเขาควบคุมอำนาจมืดมายาวนานและสะสมความมั่งคั่งไว้มหาศาล
เมื่อรัฐบาลหนานหยางได้รับเงินสนับสนุนจากตระกูลจ้าว พวกเขาก็มีความมั่นใจมากพอที่จะท้าทายอำนาจของตระกูลเฉิน และพยายามแย่งชิงการควบคุมกองทัพ
เฉินหยูพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เราจะหาทางซื้อหุ้นของสถานีโทรทัศน์หนานหยางคืนมาได้ไหม? ปล่อยให้พวกนั้นออกอากาศแบบนี้ต่อไป มีหวังเราคงถูกกระแสสังคมเล่นงานจนจมแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...