ในหนานหยางนั้น ศาสตร์มนต์ดำแพร่หลายมาโดยตลอด คาดไม่ถึงว่าแม้แต่หมอนวดในออนเซ็นก็ยังใช้มนต์ดำได้......
ออนเซ็นแห่งนี้ แข่งขันกันหนักขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่อาชีพหมอนวด ถ้าไม่มีฝีมือจริง คงอยู่รอดไม่ได้แน่ ๆ
วันนี้ จิ่วเฮิงดูอ่อนแรงอย่างชัดเจน น้ำมันมนต์ดำ นั่นไม่รู้ว่าออกฤทธิ์อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ มนต์ดำย่อมมีผลข้างเคียงเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้น จิ่วเฮิงที่เหมือนดังไท่ยื่อเทียน (สุนัขพันธุ์เท็ดดี้) ก็ปลดปล่อยไปถึงเจ็ดรอบ ขาถ้าไม่อ่อนแรงก็คงแปลกแล้ว!
"ให้ตายเถอะ ฉันกลัวคุณวันนี้จะโดนเล่นตายจริง ๆ!" ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจ ก่อนจะตบไหล่เขาแล้วพูด
"ไม่มีทาง! พระอย่างฉันน่ะอึดถึกทนสุด ๆ!” จิ่วเฮิงทำเป็นปากแข็ง แต่ความจริงแล้ว เขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงอย่างมาก มึนหัวตาลาย และดูเหมือนพลังในร่างกายจะร่อยหรอลงไปเยอะ
ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจจะพูดต่อ พาเขาไปที่สนามแข่งขัน วันนี้ดูเหมือนจิ่วเฮิงจะไม่รู้จักแบ่งแยกว่าสิ่งใดสำคัญจริง ๆ ……
แต่เขาก็เข้าใจดี เพราะจิ่วเฮิงบวชเป็นพระมาหลายปี พอออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว ก็ย่อมต้องการลองใช้ชีวิตให้เต็มที่
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาจะท่องโลกธุลีแดงแบบนี้ไปถึงเมื่อไร ส่งเขาไปออนเซ็นทุกวัน ไม่ใช่ว่าเสียเงินมากมาย แต่ก็เป็นการผลาญเงินเปล่า ๆ!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงบอกว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนขี้เหนียว เพราะคนอย่างจิ่วเฮิงที่เป็นยอดฝีมือระดับสูง ถ้าจะจ้างให้ช่วยงานต้องเสียเงินเป็นพันล้าน! แต่กลับใช้เงินเพียงไม่กี่หมื่นให้ไปออนเซ็นเขายังรู้สึกว่าเปลืองเงินอีก
วันนี้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ เพราะจะมีการตัดสินตำแหน่งรองประธานที่แท้จริง
และแล้ว ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งหนานหยางกั๋วหลินเฟิงก็ปรากฏตัวออกมา เขาเป็นชายชราสูงไม่ถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร แต่ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ไว้หนวดแพะสีขาว ร่างกายดูผอมบาง แต่แววตาคมกริบ แผ่พลังที่แข็งแกร่ง แผ่นหลังตั้งตรง ดูมีพลังไม่แพ้คนหนุ่ม
"ประธานกั๋ว!"
เมื่อเหล่าสมาชิกเห็นเขา ต่างพากันโค้งคำนับเพื่อแสดงความเคารพ
กั๋วหลินเฟิงเป็นผู้มีชื่อเสียงและได้รับความนับถือสูงสุดในสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งหนานหยาง ไม่ใช่แค่เพราะฝีมือสูงส่ง แต่ยังเพราะเขาดำรงตำแหน่งมายาวนาน เรียกได้ว่าเป็นผู้อาวุโสที่ทุกคนให้ความเคารพ
เขายิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้ารับ ก่อนยกมือคารวะตอบกลับ "ทุกท่าน ไม่ต้องมากพิธี!"
จิ่วเฮิงมองกั๋วหลินเฟิงแล้วพึมพำ
"ตาแก่คนนี้เป็นยอดฝีมือชั้นสูง พลังชีวิตลึกซึ้งและไม่แสดงออกง่าย ๆ แถมผิวพรรณแดงเรื่อเปล่งปลั่ง ดูไปก็เหมือนผมขาวหน้าเด็กที่ลัทธิเต๋าเคยกล่าวไว้"
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ "คนเค้าเป็นถึงประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งหนานหยางน่ะ ต้องมีของอยู่แล้ว ไม่ใช่ไก่กาที่ไหนก็มาเป็นได้ ไม่ใช่พวกหลี่เหอถูไร้ฝีมือแบบนั้น"
ฉีเติ่งเสียนมองว่าหลี่เหอถูเป็นประธานสมาคมหลงเหมินที่ไม่มีฝีมือพอสมควร แถมยังเป็นคนที่เขาไม่ชอบเป็นการส่วนตัว อาจจะเพราะหลี่เหอถูเคยใช้คำพูดเชือดเฉือนเขาอย่างเจ็บแสบในอดีต
กั๋วหลินเฟิงก้าวขึ้นไปนั่งบนที่นั่งสูงสุด ส่วนที่นั่งข้าง ๆ เขา ล้วนเป็นที่นั่งของเหล่ายอดฝีมือที่มีตำแหน่งสำคัญในสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งหนานหยาง
วันนี้ ในสนามแข่ง นอกจากนักสู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ยังมีแขกคนสำคัญจากหลายฝ่ายมาชมศึกในวันนี้ เช่น คนจากตระกูล เฉิน และตัวแทนจากสมาคมหัวเมิ่น
อวี้เสี่ยวหลงก้าวไปจับฉลากหมายเลข หลังจากได้รับหมายเลขแล้ว เธอนั่งรออย่างเงียบ ๆ เพื่อรอดูว่าคู่ต่อสู้ของตนเป็นใคร
ฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงก็เดินไปจับฉลากเช่นกัน ทว่าเมื่อพวกเขาชูหมายเลขขึ้นดู กลับพบว่าพวกเขาต้องสู้กันเอง!
“เทียนจุนทั้งหลาย ถ้ารู้ว่าต้องเจอกับฉีเติ่งเสียนวันนี้ จะไม่ไปออนเซ็นเมื่อคืนแน่ ๆ! เจ้าพวกน้ำมันมนต์ดำและการนวดนั่น ช่างเป็นภัยกับฉันจริง ๆ!” จิ่วเฮิงบ่นในใจอย่างขมขื่น
แม้ปากจะยังแข็ง แต่เขารู้ดีว่าร่างกายของตนเองอ่อนล้าเพียงใด
หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่ คงสามารถต่อสู้กับฉีเติ่งเสียนได้สูสี แต่ในสภาพขาอ่อนแรงแบบนี้ คงถูกจัดการได้อย่างง่ายดายแน่นอน
จิ่วเฮิงก็อึ้งไม่แพ้กัน แค่พลังปราณที่จ้าวถูหลงระเบิดออกมา ก็เหมือนคลื่นสึนามิที่ซัดเข้ามาอย่างรุนแรง มันยิ่งใหญ่จนไม่อาจบรรยายได้ นี่เป็นพลังของยอดฝีมือระดับสูงสุดอย่างแท้จริง!
อวี้เสี่ยวหลงตั้งท่าพร้อมสู้ แต่เพียงแค่สัมผัสถึงพลังที่แผ่ออกมา เพียงในเสี้ยววินาที เธอก็รู้สึกเหมือนถูกคลื่นพายุโหมเข้าใส่ร่าง!
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงเรือลำน้อยกลางมหาสมุทรอันบ้าคลั่ง ท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนอง
“ใจลิง (จิต) คิดฟุ้งซ่าน ต้องผูกให้มั่น ค่อย ๆ อุ่นเบ้าตะกั่ว น้ำไม่เย็น เหล่าปีศาจไม่กล้าเงยหน้ามอง จิตสงบ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ มังกรร้องคำราม พยัคฆ์เริงร่า
หลักธรรมอันล้ำลึกนี้ หากปฏิบัติจนชำนาญ
น้ำและไฟในกาย ย่อมประสานกันโดยสมบูรณ์……”
อวี้เสี่ยวหลงริ่มร่ายคัมภีร์มวยไท่เก๊กที่ฉีเติ่งเสียนเคยสอนเธอในใจ เสียงท่องในใจของเธอช่วยให้จิตใจสงบลง
“คุณเป็นใครกันแน่?!” อวี้เสี่ยวหลงเงยหน้าขึ้นมองจ้างถูหลงอย่างแน่วแน่ เอ่ยถามด้วยเสียงหนักแน่น
จ้าวถูหลงตอบกลับมาสั้น ๆ “ผู้พิฆาตมังกร”
ในขณะที่เขาพูด อย่างไรก็ตาม กลับเป็นการใช้พลังระเบิด ทุกคำพูดที่เปล่งออกมา เป็นดังระเบิดที่เกิดการระเบิดที่รุนแรง
เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าร้องที่รุนแรง สะเทือนจนทำให้ผู้ชมรู้สึกชาไปทั้งหู!
ซวบ!
จ้าวถูหลงเคลื่อนตัวอย่างฉับไว ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าดั่งสายฟ้า ในเสี้ยววินาที เขาก็เข้าประชิดตัวอวี้เสี่ยวหลงแล้ว พลังจากแผ่นหลังของเขาถูกระเบิดออก ส่งแรงไปสู่แขนขวา เหยียดออกก็เป็นการคว้าตรงที่หัวใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...