หลังจากหย่าร้าง เฉียวชิวเมิ่งก็รู้สึกผ่อนคลายและไม่มีห่วงอะไรอีก
ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้รับข่าวว่าเรื่องที่ดินในดินแดนแห่งความตายที่รื้อถอนไม่สำเร็จเป็นฝีมือการก่อกวนของพวกหลี่เทียนลั่ว
หลังจากคิดดูแล้วเธอก็ไม่แปลกใจ ในเมื่อฉีเติ่งเสียนอยู่บนเรือเดินสมุทรของตระกูลหวง หลี่เทียนลั่วจึงไม่พอใจอย่างมาก
หลังจากนั้นหลี่เทียนลั่วก็ประสบความพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง การที่เขาจะใช้กลอุบายชั่วร้ายเพื่อให้ได้ที่คืนมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ดังนั้นเฉียวชิวเมิ่งจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่พอจะช่วยได้เท่านั้น หลังจากติดต่อคนนู้นคนนี้ เธอก็เจอกับอู๋เส่าที่มีความสัมพันธ์ไม่เลว
ฉีเติ่งเสียนเคยเจออู๋เส่ามาก่อนที่สปอร์ตคลับและบาร์ของจางจิ้ง ครอบครัวของเขามีรากฐานที่ค่อนข้างมั่นคง เขาชอบหาเพื่อนใหม่ในวงการนักเลงและเขาก็นับว่าเป็นคนเนื้อหอมมากทีเดียว
แม้ว่าตระกูลหลี่จะเป็นเจ้าของบริษัทยาขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็สร้างฐานะได้จากการชกมวย ดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเป็นพลังครึ่งหนึ่งของวงการนักเลง
“บาร์ของพี่จิ้งเหรอ ได้สิ ฉันอยู่แถวนี้พอดี ฉันจะไปรอคุณที่นั่น” เฉียวชิวเมิ่งกล่าว
“อืม คุณรอผมแป๊บนึงนะ ผมจะรีบไป” อู๋เส่าตอบ
หลังจากทราบข่าวว่าเฉียวชิวเมิ่งและฉีเติ่งเสียนหย่ากันแล้ว อู๋เส่าก็มีความสุขเป็นพิเศษ
เฉียวชิวเมิ่งเป็นคนสวยในแวดวงพวกเขาอยู่แล้วและเธอยังเป็นประธานของเฉียวกรุ๊ปอีกด้วย ผู้ชายตัวท็อปหลายคนต่างก็เล็งเธอไว้
อู๋เส่ารู้สึกว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว ตราบใดที่เขาช่วยเฉียวชิวเมิ่งจัดการเรื่องนี้ได้ เขาก็คงไม่ต้องกังวลว่าเฉียวชิวเมิ่งจะไม่มอบความรู้สึกดีๆ ให้เขา
ในไม่ช้าอู๋เส่าก็มาถึงบาร์ เมื่อเขาเห็นเฉียวชิวเมิ่งนั่งอยู่ เขาก็เข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มทันที
เฉียวชิวเมิ่งถอนหายใจและพูดว่า “อู๋เส่า ฉันไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ คุณต้องช่วยฉันนะ”
“ถ้าเรารื้อถอนที่ดินผืนนี้ไม่ได้ เงินทุนของเฉียวกรุ๊ปก็จะจมอยู่ในนั้น”
“การพัฒนาของบริษัทก็จะหยุดชะงัก ซึ่งนั่นทำให้เรากังวลมาก”
หลังจากที่อู๋เส่ารู้ความเป็นมาของเรื่อง เขาก็กัดฟันพูดว่า “นายฉีคนนี้เป็นตัวปัญหาจริงๆ โชคดีที่คุณฉลาดและหย่ากับเขา ไม่อย่างงั้นเขาคงทำให้คุณตายเข้าสักวัน!”
เฉียวชิวเมิ่งไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอส่ายหน้าแล้วพูดว่า “มีวิธีดีๆ ไหม”
อู๋เส่าพยักหน้า “คนในวงการนักเลงเป็นคนตระกูลหลี่ไปกว่าครึ่ง หากคุณต้องการจัดการปัญหานี้ คุณก็ต้องหาคนจากวงการนักเลงมาจัดการ”
เฉียวชิวเมิ่งชื่นชมอย่างอดไม่ได้ “อู๋เส่านี่เส้นสายกว้างขวางจริงๆ มีเพื่อนในวงการนักเลงเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”
อู๋เส่าตอบว่า “มันอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเชิญเขาคนนี้มาได้ไหม ผมจะพยายามเต็มที่!”
ในตอนนั้นเอง จางโหรวก็เดินเข้ามาพร้อมแก้วเหล้าในมือ
“เมิ่งเมิ่ง นี่คือพี่โหรว ผู้ดูแลบาร์ในปัจจุบัน” อู๋เส่ารีบแนะนำเฉียวชิวเมิ่งและยกแก้วขึ้นเพื่อทักทายเธอ
“ยินดีต้อนรับค่ะ อู๋เส่า” จางโหรวยิ้มจางๆ
แม้ว่าสถานะของเธอจะยังไม่เทียบเท่าพี่จิ้ง แต่เธอก็ค่อยๆ ปลูกฝังบุคลิกมาเรื่อยๆ เมื่อบรรดาแขกเหรื่อเห็นเธอก็จะยกแก้วทักทาย
เฉียวชิวเมิ่งยกแก้วและพูดว่า “สวัสดีค่ะพี่โหรว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!”
จางโหรวยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็ตั้งท่าจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนพี่โหรว วันนี้พี่จิ้งมารึเปล่า” อู๋เส่าถาม
“วันนี้พี่ของฉันอยู่ที่นี่พอดี มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” จางโหรวถาม
อู๋เส่ารีบพูดด้วยรอยยิ้ม “รบกวนพี่โหรวบอกพี่จิ้งให้หน่อยว่าผมอยากพบเธอ มีเรื่องอยากให้เธอช่วย”
จางโหรวครุ่นคิด อู๋เส่าค่อนข้างจะใช้เงินในบาร์แห่งนี้อย่างสุรุ่ยสุร่ายและเป็นลูกค้าใจป้ำ ดังนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธ หลังจากตกปากรับคำ เธอก็ไปที่ห้องทำงานเพื่อเรียกจางจิ้งออกมา
อู๋เส่าบอกเฉียวชิวเมิ่งว่า “ถึงจางโหรวจะเป็นผู้หญิง แต่เธอก็เป็นน้องสาวของพี่จิ้ง แขกในร้านจึงให้เกียรติเธอมาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...